"เลขาฯแพทยสภา" โต้ข้อมูล "ปรียนันท์" ยันเปิดคอร์สสอนทำจมูกโปร่งใส
เลขาฯแพทยสภา โต้ข้อมูล "ปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา" ยอมรับเปิดคอร์สสอนหมอทำจมูกจริง หลังถูกร้องเปิดคอร์สสอนทำจมูก เก็บค่าเรียนหัวละ 8 แสน ยันค่าใช้จ่ายไม่ถึง เก็บแค่ 2 แสน เผยความตั้งใจช่วยคนไทยอยากสวยหล่อไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี ย้ำทำงานนอกเวลาราชการในคลินิกส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยาสภา ที่เคยออกมาต่อต้านการฉีดฟิลเลอร์ แต่ล่าสุดกลับไปเปิดคอร์สสอนทำจมูกให้กับหมอทั่วไปที่สนใจ โดยเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินสูงถึง 8แสนบาท/คน
โดยมีการส่งข้อความของ นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อมูลการเปิดคอร์สสอนทำจมูกให้กับหมอทั่วไป ของ นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์
ระบุว่า นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา / ผอ.รพ.สมุทรปราการ / รองเลขาธิการสปสช./เจ้าของรามาวดีคลีนิค http://www.ramavadi.com/ ขณะนี้กำลังเปิดคอร์สสอนหมอด้วยกันทำจมูกคนไข้ มีหลายคอร์สราคารวมประมาณ 8.5 แสนบาทต่อคน แต่ก่อนหน้านั้นคุณหมอสัมพันธ์เป็นผู้แถลงข่าวในนามเลขาธิการแพทยสภาห้ามใช้ฟิลเลอร์ฉีดจมูกคนไข้
หมวกมีหลายใบแบบนี้ หากสวมผิดสวมถูก จะทำให้คนเขาคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในหมู่หมอด้วยกันหรือไม่? คงไม่มีใครว่าอะไร ถ้าท่านไม่ใช่เลขาธิการแพทยสภา
การมีตำแหน่ง เหมือนปืนขึ้นที่สูง ผลประโยชน์ทับซ้อนมากมาย กรรมการหลายท่านได้รับเลือกแต่เข้าไปนั่งเฉย ๆ คนทำงานจริงเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมมีน้อย หลายอย่างจึงยังไม่พัฒนา ที่สำคัญหลายท่านทั้งรู้ทั้งเห็นสิ่งที่ไม่สมควร แต่ทำไมยังทนอยู่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.57 ได้ติดต่อไปยัง นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้รับการยืนยันจาก นพ.สัมพันธ์ ว่า เปิดคอร์สสอนหมอทำจมูกจริง แต่ไม่ได้เรียกเก็บเงินสูงเป็นจำนวน 8 แสนบาท/คน ตามที่มีการระบุ
"ผมเปิดคอร์สเรียนทำจมูกให้กับหมอที่สนใจจริง เปิดสอนมาประมาณ 2 เดือนเศษๆ แล้ว สอนจบไปแล้ว 2 รุ่น ส่วนค่าใช้จ่ายที่เก็บแบ่งเป็น 3 คอร์ส คือ 1 แสนบาท , 2 แสนบาท และ 5 แสนบาท แต่ที่ผ่านมา มีหมอมาเรียนแค่ในระดับ 1-2 แสนเท่านั้น และในระหว่างการเรียนยังมีอุปกรณ์ให้ด้วย"
นพ.สัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเหตุผลที่เปิดคอร์สเรียนทำจมูกดังกล่าว เป็นเพราะต้องการให้หมอไทย มีความสามารถเทียบเท่ากับหมอต่างประเทศ เข้าใจวิธีการรักษาที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันมีคนไทยสนใจทำจมูกกันเป็นจำนวนมาก บางรายทำไปแล้วก็มีปัญหา เพราะไปทำกับหมอที่ไม่มีฝีมือ ไม่รู้จริง
"ความจริงผมสอนทำจมูกฟรี มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ในช่วงก่อนหน้านี้ คิดว่าอยากจะเปิดสอนเป็นเรื่องเป็นราวให้หมอที่สนใจเข้ามาเรียนกันจริงๆ และผมก็เป็นคนไม่มีลูก ไม่รู้จะไปถ่ายทอดวิชาความรู้นี้ให้กับใคร จึงตัดสินใจเปิดสอนคอร์สเรียนโดยเฉพาะ สอนที่คลินิคส่วนตัว นอกเวลาราชการ ไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะที่ประชาชนที่สนใจเข้ามาทำจมูกในระหว่างการสอน ก็จะเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาถูกลงกว่าราคาปกติด้วย "
เมื่อถามว่า มีตำแหน่งเป็นเลขาธิการแพทยสภา สามารถทำเรื่องนี้ได้หรือไม่ นพ.สัมพันธ์ ตอบว่า "ผมไม่ทราบว่าทำเรื่องนี้ผิดหรือไม่ แต่ผมทำส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน และทำนอกเวลาราชการด้วย"
"ปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากต้องบินไปทำจมูกถึงเกาหลี หมอบางคนก็ไม่เก่งจริง ทำจมูกไปแล้วก็มีปัญหา ผมไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น จึงเปิดคอร์สสอนเองเลย เมืองไทย จะได้มีหมอเก่งๆ เพิ่มมากขึ้น ผมคิดแค่นี้จริงๆ ส่วนเรื่องนี้มันจะผิดหรือไม่ผิด ผมไม่รู้เหมือนกัน"
เมื่อถามว่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เคยออกมาต่อต้านเรื่องการฉีดฟิลเลอร์มาก่อน นพ.สัมพันธ์ ตอบว่า "เรื่องนี้คิดว่าน่าจะความพยายามโยงข้อมูลของคนบางกลุ่ม ที่ต้องการที่จะทำให้ผมเสียหาย เพราะในข้อเท็จจริง คือ เราห้ามการฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ที่ไม่สลายตัว เช่น ซิลิโคนเหลว เพราะทำอันตรายต่อประชาชนอย่างมาก ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ผมเปิดคอร์สสอนทำจมูกเลย"
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก google