"ปิยสวัสดิ์" โต้แทน "พ่อ" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พรบ.ทาส ปิโตรเลียม 2514
"ปิยสวัสดิ์" โต้แทน "พ่อ" ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พรบ.ทาส ปิโตรเลียม 2514 เตือนกลุ่ม "วศ.รปปท." หยุดใช้วาทกรรม บิดเบือนข้อมูล แนวคิดประชานิยม ปลุกเร้าความคลั่งชาติ เรียกร้องกองทัพบกยกเลิกให้ใช้สถานที่จัดเสวนาใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่น สร้างความเกลียดชัง-แตกแยกในสังคมไทย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานบอร์ด ปตท. ได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีที่มีการส่งข้อความเรื่องชมรมวิศวะฯจุฬาฯ(วศ.รปปท.) จะจัดเสวนาปฎิรูปพลังงาน ที่สโมสร ทบ. ในวันที่ 26ส.ค.57 ร่วมกับกลุ่มทหาร ตำรวจนอกประจำการ ที่ภักดีต่อสถาบันฯ โดยมี พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งมีการกล่าวถึงพรบ.ปิโตรเลี่ยม พ.ศ.2514 ว่าเป็น "พรบ.ทาส ที่นายปรก อัมมะรนันท์ บิดานาย ปิยะสวัสดิ์ อัมมะรนันท์ คัดลอกจากลิเบีย เพื่อต้องการปลดแอกจากการเป็นอาณานิคมของเครือจักรภพ จึงยอมเป็นเบี้ยล่างทุกประการด้านผลประโยชน์แบ่งปันเพื่อแลกกับอิสระภาพ แล้วไทยเราเป็นขี้ข้าชาติใดหรือ ครับ"
นายปิยสวัสดิ์ ระบุว่า "ผมขอเรียนว่าพ่อของผมทำงานที่ UN-ESCAP องค์การสหประชาชาติ ทางด้านการค้าระหว่างประเทศในช่วงปี 2502-2520 และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่างหรือออก พรบ.ปิโตรเลียม 2514 แต่อย่างใด
นอกจากนี้ พรบ.ดังกล่าวจะเป็น"พรบ.ทาส"หรือไม่ สมควรพิจารณาจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่การกล่าวอ้างด้วยวาทกรรมที่ตั้งอยู่บนฐานข้อมูลที่บิดเบือน ประกอบกับแนวคิดประชานิยมและการปลุกเร้าความคลั่งชาติ
การที่ข้อความเชิญชวนมีข้อมูลที่เป็นเท็จ อีกทั้งยังมีลักษณะการใส่ร้ายป้ายสีและสร้างความเกลียดชัง ทำให้น่าเป็นห่วงว่าสิ่งที่จะมีการนำเสนอในงานเสวนาในครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลจริงหรือข้อมูลเท็จเหมือนในคำเชิญ
ท้ายที่สุดผมขอฝากกองทัพบกในฐานะเจ้าของสถานที่ว่า ท่านไม่ควรให้มีการใช้สถานที่ของท่านในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่น สร้างความเกลียดชังและความแตกแยกในสังคมไทย" ปิยสวัสดิ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ชมรมวิศวะฯจุฬาฯ(วศ.รปปท.) ได้ออกข่าวประชาสัมพันธ์ว่า จะจัดเสวนาปฎิรูปพลังงาน ที่สโมสรทบ.ในวันที่ 26ส.ค.57 เวลา 0900-1400น. ร่วมกับนกภป. (กลุ่มทหาร ตำรวจนอกประจำการ ที่ภักดีต่อสถาบันฯและยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข โดยมี พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ และอดีตผบ.เหล่าทัพเป็นประธาน รองประธานกลุ่ม และร่วมด้วยสมาคมนักรบนิรนาม333)
ระบุว่า "ขอแจ้งข่าว และเรียนเชิญ ทุกท่านที่คิดว่าบัดนี้ปวงชนชาวไทยควรตื่นรู้ และตระหนักว่าบ่อแก๊ส บ่อน้ำมัน ทุกๆบ่อในราชอาณาจักรไทยทั้งในน้ำและบนบก ล้วนเป็นสมบัติของคนไทยทุกคน ซึ่งกว่า40ปีที่ผ่านมา ภายใต้พรบ.ปิโตรเลี่ยมไทยปี14(พรบ.ทาส ที่นายปรก อัมมะรนันท์ บิดานาย ปิยะสวัสดิ์ อัมมะรนันท์ คัดลอกจากลิเบีย เพื่อต้องการปลดแอกจากการเป็นอาณานิคมของเครือจักรภพ จึงยอมเป็นเบี้ยล่างทุกประการด้านผลประโยชน์แบ่งปันเพื่อแลกกับอิสระภาพ )แล้วไทยเราเป็นขี้ข้าชาติใดหรือ ครับ"
"บัดนี้คสช.มีอำนาจเต็ม คำสั่งคสช.คือกฎหมาย ถึงเวลาสมควรยิ่งแล้ว ที่ชนชาวไทยต้องตื่นรู้ รวมพลังทุกภาคส่วน สนับสนุนให้คสช. ปลดแอกพลังงานจากพรบ.ทาสปี14 เพื่อความเป็นธรรมต่อประเทศไทย ต่อคนไทย ต่อผู้ลงทุน ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อเจ้าของที่ดิน ดังที่นานาอารยะประเทศเจ้าของบ่อปิโตรเลี่ยมถือเป็นหลักปฎิบัติเป็นสากลเช่นปัจจุบัน และเมื่อคสช.ปฎิรูปปิโตรเลี่ยมไทยสำเร็จตามสรุปตามข้อเสนอแนะในที่ประชุมเสวนา และผลที่คาดว่าจะได้รับจากการเสวนาวิชาการครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้คสช.นำไปสู่การปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยพลัน อันจะนำไปสู่ ราคาน้ำมันและแก๊สทุกชนิด จะปรับลดราคาอย่างเป็นธรรมทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้รับสัมปทาน ทั้งรัฐ ทั้งประชาชนผู้บริโภค ทั้งผู้ค้าปลีกและสุดท้ายเราคนไทยจะซื้อน้ำมันได้ถูกกว่าปัจจุบันไม่ต่ำกว่าลิตรละ10-15 บาทเป็นอย่างต่ำ แล้วยังจะเฉยอยู่ใย"
"จงร่วมแสดงพลัง คนไทยตื่นรู้พลังงานไทย พลังงานเรา เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ในฐานะเจ้าของบ่อแก๊ส บ่อน้ำมันตัวจริงเสียงจริง ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยการอยู่นิ่งเฉยครับ ด้วยความจริงใจ จริงจังจากเสธ.เขียว ผู้มุ่งมั่นขอให้ คสช.คืนความสุขให้คนไทยด้วยการปฎิรูปปิโตรเลี่ยมไทยเป็นวาระแห่งชาติด่วนที่สุด ช่วยกันแชร์และเชิญชวนให้ทั่วถึง ย้ำๆๆ พบกัน ใน26ส.ค.57 09.00-14.00น. ณ.สโมสร ทบ. ถ.วิภาวดี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จะได้ทั้งความรู้ วิชาการ เอกสาร และรวมพลังกู้ชาติ ครับอย่าพลาด"