ผ่าสัญญาซื้อขายน้ำเทศบาลป่าไผ่ เปิดช่อง"เอกชน"ผูกขาดธุรกิจยาว 50 ปี
"..ผู้ซื้อและผู้ขายอาจจะตกลงต่อระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 20 ปี (จากเดิม 30 ปี รวมเป็น 50 ปี ) และจะร่วมกันกำหนดอัตราซื้อขายน้ำประปาต่อหน่วยต่อไป ผู้ซื้อสัญญาว่าในระยะเวลาตามสัญญานี้ ผู้ซื้อจะไม่อนุญาตให้เอกชนหรือหน่วยราชการรายอื่น มาลงทุนขายน้ำประปา ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลป่าไผ่.."
ยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ที่ต้องติดตามตรวจสอบกันต่อไป และ "ผู้มีอำนาจ" ในบ้านเมืองไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด!
สำหรับกรณีบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่ง ได้เข้าไปติดต่อกับเทศบาลหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำสัญญาลงทุนก่อสร้างระบบระบบน้ำประปาให้ เพื่อแลกกับการประชาชนในพื้นที่ จะต้องซื้อน้ำจากบริษัทเพียงแห่งเดียว เป็นระยะเวลายาวนานถึง 30 ปีเต็ม
โดยเบื้องต้น นายธนวัฒน์ เคหา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อมูลกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า รูปแบบการดำเนินการโครงการนี้ เป็นลักษณะคล้ายกับการเปิดให้สัมปทานเอกชน มาลงทุนสร้างทางด่วนให้กับรัฐบาล เมื่อครบกำหนดในสัญญาก็จะมีการโอนทรัพย์สินมาให้เป็นของรัฐ
"บริษัทเขาเสนอตัวที่จะมาลงทุนก่อสร้างและทำระบบน้ำประปาให้เทศบาล เขาลงทุนให้หมด 100% เมื่อครบเวลาตามสัญญา 30 ปี ก็จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดมาให้ทางเทศบาลดูแลต่อ เหมือนกับกรณีการให้สัมปทานทางด่วนอะไรแบบนั้น"
"ขณะที่ตัวสัญญาที่ลงนามกันไว้ก็เหมือนเป็นการทำข้อตกลงร่วมกันเท่านั้น ไม่ได้มีผลผูกมัดอะไร ในทางที่จะทำให้เทศบาล เสียเปรียบ "
พร้อมระบุว่า ขณะนี้มีเทศบาลจำนวน 6-7 แห่ง ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ที่ลงนามและเริ่มต้นดำเนินการตามสัญญากับทางบริษัทไปแล้ว ส่วนสถานะของเทศบาล ก็เปรียบเสมือนเป็นไปรษณีย์ เก็บค่าบริการน้ำจากประชาชนในพื้นที่ไปส่งมอบให้บริษัท
(อ่านประกอบ: ป.ป.ช.ลุยสอบ"อดีตนายกฯป่าไผ่"ทำสัญญาทาสซื้อน้ำเอกชน 30 ปี 800 ล., อดีตนายกฯป่าไผ่ ปัดได้ประโยชน์สัญญาซื้อน้ำเอกชน 30 ปี ชี้ถูกใส่ร้าย)
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ตรวจสอบสัญญาความร่วมมือในการก่อสร้างระบบน้ำประปา ของ เทศบาลตำบลป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ กับบริษัทเอกชน ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ในขณะนี้
พบว่า สัญญาฉบับนี้ มีจำนวน 7 หน้า (ไม่นับรวมหน้าปก) ระบุชื่อเป็นทางการว่า "สัญญาซื้อขายน้ำประปาเพื่อสำนักงานเทศบาลตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่" ระหว่าง เทศบาลตำบลป่าไผ่ กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่มีตัวย่อ ว่า “ฮ”
ลงนามเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 55 ระบุเงื่อนไขไว้ทั้งหมด 15 ข้อหลัก
ระบุสถานะ "เทศบาลตำบลป่าไผ่" ในฐานะ "ผู้ซื้อ" กับบริษัท “ฮ” ในฐานะ "ผู้ขาย"
สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
เงื่อนไขข้อที่ 1 ในสัญญา กำหนดไว้ชัดเจนว่า "ผู้ขาย" ตกลงขายและ "ผู้ซื้อ" ตกลงซื้อน้ำประปาในปริมาณคิดเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 7,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน (ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าถ้าซื้อไม่ครบตามปริมาณจะต้องทำอย่างไร เทศบาลจะต้องชดเชยค่าน้ำที่ขาดหายไปให้กับทางบริษัทหรือไม่)
โดยผู้ขายจะต้องส่งมอบน้ำประปาที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานน้ำบริโภค มาให้ ณ มาตรวัดน้ำหลักที่ติดตั้งภายในบริเวณสถานีผลิตน้ำประปาและมีขอบเขตของงานที่จะต้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
ขณะที่การวัดปริมาณน้ำซื้อขาย จะวัดจากมาตราวัดน้ำหลัก ซึ่งต้องเป็นของใหม่ ไม่เคยถูกใช้งานมากก่อน และอยู่ในโครงสร้างที่มั่นคง แต่ละฝ่ายถือกุญแจควบคุมไว้คนละชุด
ข้อ 5 ระบุว่า ผู้ขายจะต้องดำเนินการก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปาให้เสร็จสมบูรณ์และดำเนินการส่งมอบน้ำประปาให้แก่ผู้ซื้อได้ตามปริมาณที่ต้องการซื้อและได้คุณภาพตามที่กำหนดในสัญญาภายในระยะเวลา 18 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญา
เงื่อนไขที่สำคัญต่อมา ระบุไว้ในข้อ 7 ว่า ผู้ซื้อตกลงที่จะชำระค่าน้ำประปาที่ผู้ซื่อได้รับมอบจริงให้แก่ผู้ขายในอัตราเริ่มต้นที่ลูกบาศก์เมตรละ 10 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ได้รวมค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ไว้แล้ว แต่ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
โดยผู้ซื้อจะชำระค่าน้ำประปาดังกล่าว ตามจำนวนเงินที่ระบุในใบแจ้งหนี้ที่ผู้ขายได้ยื่นต่อผู้ซื้อในทุกเดือน นับแต่วันเริ่มซื้อขายน้ำประปา
ผู้ซื้อจะชำระเป็นเงินสด หรือเช็ค หรือโดยวิธีการอื่นใดก็ได้แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควรให้แก่ผู้ขายภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันที่ผู้ซื้อได้รับใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย
ส่วนอัตราค่าน้ำประปา จะมีการปรับราคาทุกปีสัญญา โดยปรับราคาครั้งแรกในวันที่ถัดจากวันครบรอบระยะเวลา 12 เดือน นับจากวันเริ่มซื้อขายน้ำประปา
ข้อ 8 ผู้ขายต้องเป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ตามตัวบทกฎหมาย ข้อบังคับระเบียบของทางราชการ ในทุกประการ ไม่ว่าตัวบทกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบของทางราชการนั้น จะเป็นฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือในอนาคต เพื่อให้การซื้อขายน้ำประปาตามสัญญานี้เป็นไปโดยชอบด้วยตัวกฎหมาย ข้อบังคับและระเบียบของทางราชการ และบรรลุวัตถุประสงค์ของการซื้อขายน้ำประปา ตามเงื่อนไที่กำหนดไว้ในสัญญานี้
ทั้งนี้ ด้วยการลงทุนและด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ขายเองทั้งสิ้น โดยผู้ซื้อจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขายในการขออนุญาตก่อสร้าง วางท่อเมนรับส่งน้ำประปา ผ่านทรัพย์สินของหน่วยงานราชการ หรือของเอกชนเท่าที่จะสามารถทำได้ และผู้ขายยินยอมตกลงว่าจะไม่นำเหตุแห่งตัวบทกฎหมาย ข้อบังคับและระเบียบของทางราชการดังกล่าวมาเป็นข้อแก้ตัวให้ผู้ขายพ้นจากความรับผิดชอบที่ผู้ขายมีอยู่ตามเงื่อนไขข้ออื่นๆ ที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ทั้งสิ้น
ข้อ 9 กำหนดว่า ผู้ขายตกลงว่าจะส่งมอบและจัดส่งน้ำประปาให้ผู้ซื้อทุกวัน โดยไม่มีวันหยุดใดๆ ทั้งสิ้น
ยกเว้นเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อาทิ เกิดสงคราม การชุมนุมประท้วง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การนัดหยุดงาน กัมมันตภาพรังสี การปนเปื้อนของสารเคมี กรมชลประทานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดส่งน้ำดิบไม่สามารถส่งน้ำดิบมาถึงจุดที่ตั้งระบบผลิตน้ำประปาได้
ข้อ 10 ในกรณีที่ผู้ขายไม่สามารถผลิตน้ำประปาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานน้ำบริโภคอันเกิดจากเหตุพร่องของผู้ขาย ให้ผู้ซื้อมีสิทธิได้รับการชดเชย โดยผู้ขายจะชำระเงินเป็นค่าชดเชยให้แก่ผู้ซื้อในเดือนถัดไป เท่าอัตราค่าชดเชยร้อยละ 5 ของปริมาณน้ำประปาที่ผู้ขายได้จัดส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ
ข้อ 11 ระยะเวลาการซื้อขายน้ำประปาตามสัญญานี้ มีกำหนด 30 ปี นับจากวันเริ่มซื้อขายน้ำประปาที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่กรณีผู้ขายมีความประสงค์จะขยายระยะเวลาของสัญญาออกไปอีก ให้ผู้ขายแจ้งให้ผู้ซื้อทราบภายในเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน ก่อนครบกำหนดสัญญา
โดยผู้ซื้อและผู้ขายอาจจะตกลงต่อระยะเวลาสัญญาออกไปได้อีก 20 ปี (จากเดิม 30 ปี รวมเป็น 50 ปี) และจะร่วมกันกำหนดอัตราซื้อขายน้ำประปาต่อหน่วยต่อไป
ผู้ซื้อสัญญาว่าในระยะเวลาตามสัญญานี้ ผู้ซื้อจะไม่อนุญาตให้เอกชนหรือหน่วยราชการรายอื่น มาลงทุนขายน้ำประปา ในพื้นที่ของเทศบาลตำบลป่าไผ่
ข้อ 12 ผู้ซื้อจะอำนวยความสะดวกในการประสานงานกับหน่วยงายราชการที่เกี่ยวข้องในการขออนุญาต/อนุมัติ แล้วแต่กรณีที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงาน โดยผู้ขายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการอนุญาต/อนุมัติทั้งหมด
ข้อ 13 หลักประกันสัญญา ปีแรกตั้งแต่วันเริ่มซื้อขายน้ำประปาและในรอบปีต่อไป ผู้ขายตกลงน้ำหลักประกันเป็นหนังสือค้ำประกันของธนาคารจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของมูลค่าน้ำประปาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มตามปริมาณน้ำ ที่ผู้สั่งซื้อรวมทั้งปีของแต่ละปีมามอบให้แก้ผู้ซื้อ เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญานี้ปีต่อไป และหลักประกันสัญญาในปีสุดท้าย ผู้ซื้อจะคืนให้แก่ผู้ขายโดยไม่มีดอกเบี้ยในวันสิ้นสุดสัญญาและพ้นภาระผูกพันตามสัญญานี้แล้ว
-------
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสัญญาฉบับนี้ ไม่ได้มีการระบุเรื่องการโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้ตกเป็นของเทศบาลตำบลป่าไผ่ ภายหลังครบสัญญาแต่อย่างใด
และมีการเปิดช่องให้มีการปรับราคาน้ำทุกปี และสามารถขยายระยะเวลาในการซื้อขายออกไปได้ถึง 50 ปี
โดยที่ในช่วงอายุสัญญา เอกชนหรือหน่วยงานราชการ จะไม่สามารถเข้าไปลงทุนแข่งขันขายน้ำประปากับบริษัทได้แต่อย่างใด!