"สมยศ"โวยแผนร้ายสกัดนั่งเก้าอี้ "ผบ.ตร" ไม่หวั่นถูกคุ้ยเงินซื้อหุ้น 855 ล.
"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง" ไม่หวั่นถูกขุดคุ้ยที่มาแหล่งเงิน 855 ล้าน ทุ่มซื้อหุ้นบ.อสังหาในตลาดหลักทรัพย์ ยันระดมเงินทุนจากเพื่อน ไม่ใช่เงินตนเองทั้งหมด พร้อมให้ตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สิน ชี้กำลังถูกคนบางกลุ่มวางแผนปล่อยข้อมูลสกัดไม่ให้ขึ้นตำแหน่ง "ผบ.ตร." เผยชี้แจงผู้ใหญ่หลายท่านให้เข้าใจแล้ว
จากกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นจำนวน 2,500,000,000 หุ้น มูลค่า 855,000,000 บาท ในบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) ของพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค.57 ที่ผ่านมา ว่านำเงินจากแหล่งใดมาใช้ในการซื้อหุ้นครั้งนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 57 ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า กำลังถูกกลุ่มคนที่ไม่หวังดีปล่อยข่าวเรื่องนี้โจมตี เพื่อสกัดกันไม่ให้ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ที่จะมาถึงในเร็วๆนี้
"เรื่องที่ผมเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้ มีคนไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมเอาเงินจากไหนมาซื้อหุ้นเป็นร้อยล้าน ผมอยากจะชี้แจงว่า การที่ผมเข้าไปซื้อหุ้นตัวนี้ มันเป็นเพียงแค่การใช้สิทธิจองว่าจะซื้อเท่านั้น ยังไม่มีการจ่ายเงินกันจริง และในทางปฏิบัติผมก็ยังมีเวลาตัดสินใจอีก 6 เดือน เพื่อยืนยันว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ มันเป็นเรื่องการทำธุรกิจปกติ และได้ชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้ให้ผู้ใหญ่หลายท่านได้รับทราบจนเข้าใจดีแล้ว"
เมื่อถามว่า สรุปว่าซื้อหุ้นตัวนี้หรือไม่ซื้อ พลตำรวจเอก สมยศ ชี้แจงว่า "มันเป็นการจองว่าจะใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเท่านั้น ตามที่ได้รับการเสนอข้อมูลจากบริษัทเข้ามา ช่วงนั้นผมเห็นว่าหุ้นตัวนี้ราคาดี ซื้อมาแล้วสามารถทำกำไรได้ เขาเปิดให้จองผมก็ไปจอง แต่เมื่อใช้สิทธิ์จองไปแล้ว ผมยังมีเวลาอีก 6 เดือนที่จะยืนยันว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ประการ คือ 1. นับจากช่วงนี้ไปจนถึง 6 เดือนข้างหน้า ถ้าราคาหุ้นมันไม่ดี ลงทุนไปแล้วไม่คุ้มผมก็ไม่เอา 2. ถ้าผมระดมเงินทุนมาซื้อได้ไม่ครบผมก็ไม่เอา"
"ผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะ การซื้อหุ้นครั้งนี้ ผมคิดว่าจะไปชักชวนเพื่อนมาซื้อด้วยกัน ผมไม่ได้ซื้อหุ้นด้วยเงินของตนเองทั้งหมด ถ้าเพื่อนผมไม่เอาด้วยทุกอย่างก็ยกเลิกไปเรื่องก็มีแค่นี้ และถ้าไปยกเลิกผมก็ไม่ต้องเสียเงินสักบาท แนวทางการทำธุรกิจมันก็มีแค่นี้เอง คนที่อยู่ในวงการหุ้นรู้เรื่องนี้กันดี"
พลตำรวจเอก สมยศ ยังกล่าวต่อไปว่า เรื่องการลงทุนซื้อหุ้นของตน คนในวงการตำรวจรู้กันดี เพราะมันเป็นข้อมูลที่เปิดเผยไม่มีอะไรปิดบัง และการลงทุนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ทำผิดอะไร
"ผมเป็นตำรวจเล่นหุ้นแล้วมันผิดตรงไหน ผมลงทุนทำธุรกิจปกติ ไม่ได้ ไปโกงกิน ไปขูดรีดชาวบ้าน ทุกอย่างเปิดเผยโปรงใส่ ผมขอถามหน่อยว่าผมทำอะไรผิดตรงไหน"
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าเรียนให้ผู้ใหญ่รับทราบเรื่องเรียบร้อยแล้ว หมายถึงใคร พลตำรวจเอก สมยศ ตอบว่า เรื่องนี้ผมบอกได้แค่เพียงว่า พอมีข่าวออกไปก็มีผู้ใหญ่หลายท่านมาถามว่า รวยมาจากไหน เอาเงินมาซื้อหุ้นเยอะแบบนี้ ผมก็เรียนไปตามตรงแบบที่ผมอธิบายไป ว่าไม่ได้ใช้เงินตัวเองซื้อ ผู้ใหญ่ก็ไม่ติดใจอะ ท่านก็เข้าใจดีแล้ว"
พลตำรวจเอก สมยศ ยังระบุด้วยว่า "ผมรู้ดีว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกับข่าวเรื่องนี้ มีใครบ้างที่กำลังวางแผนเล่นงานให้ผมเสียหาย แต่คนอย่างผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมไม่เคยกลัว พวกเขาพยายามทำทุกอย่างที่จะสกัดไม่ให้ผมได้รับการคัดเลือกเป็นผบ.ตร. แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมไม่เคยกลัวพวกเขา สู้กี่ครั้งผมก็ชนะ ผมก็เป็นคนตรง พูดจาอะไรตรงแบบนี้"
เมื่อถามว่า คิดเห็นอย่างไร กับการที่ สนช.จะต้องยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สิน พลตำรวจเอก สมยศ ตอบว่า "ไม่มีปัญหาเปิดเผยไปเลยเต็มที่ ผมพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบข้อมูลเรื่องทรัพย์สินอยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.57 ที่ผ่านมา บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง จำนวน 2 ราย รวมจำนวน รวม 3,500,000,000 หุ้น มูลค่า 1,197,000,000 บาท ในราคา 0.342 บาท ประกอบไปด้วย
1. นายนิรันดร์ เหตระกูล จำนวน 1,000,000,000 หุ้น มูลค่า 342,000,000 บาท
2. พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จำนวน 2,500,000,000 มูลค่า 855,000,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 7/2557เมื่อวันที่10 กรกฎาคม 2557เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่เลขที่ 102 ถนนริมคลองบางกะปิ (จตุรทิศ) เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯและมีมติอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในส่วนเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด ตามที่บริษัทฯได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2557เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ที่อนุมัติให้บริษัทฯจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัทฯจำนวน 3,500,000,000 หุ้น
โดยจัดสรรเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด หรือผู้ลงทุนสถาบันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.28/2551ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายจะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดย "ราคาตลาด" ให้ คำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด(มหาชน)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างน้อย 7 วันแต่ไม่เกิน 15วันทำการติดต่อกันก่อนวันแรกที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนโดยในครั้งนี้มติคณะกรรมการได้อนุมัติการจัดสรรให้กับบุคคลโดยเฉพาะเจาะจงจำนวน 3,500,000,000 หุ้นในราคาหุ้นละ 0.342บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกบุคคลโดยเฉพาะเจาะจงที่เข้ามาซื้อหุ้น เพิ่มทุนของบริษัทฯโดยพิจารณาจากที่มีนักลงทุนแสดงความจำนงในการลงทุนซื้อหุ้นในส่วนที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัดซึ่งมีเงื่อนไขราคาและปริมาณหุ้นที่ต้องการลงทุนที่มีขนาดค่อนข้างมากเพื่อที่บริษัทฯสามารถปฏิบัติได้ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
โดยจำนวนที่นักลงทุนเข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ ไม่เข้าเกณฑ์ในการทำ Tender Offer (ทำคำเสนอหุ้น)
ส่วนรายละเอียดของนักลงทุนทั้ง 2 ราย โดยบริษัทได้รับข้อมูลจากผู้ลงทุนดังนี้
1. นายนิรันดร์ เหตตระกูล ที่อยู่ 35 ซ.พิพัฒน์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประเภทธุรกิจสิ่งพิมพ์โรงพิมพ์ประชาชน
2. พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ที่อยู่ 48 ซอยโชคชัย 4(73) แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230อาชีพ รับราชการตำรวจ ตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ.10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ
โดยนักลงทุนทั้ง 2 รายได้ส่งจดหมายมายังบริษัทฯถึงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ มีความสนใจที่จะลงทุนซึ่งบริษัทฯเห็นว่าสามารถที่จะขายหุ้นได้ในราคาตามเงื่อนไขในการเสนอจึงนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทฯในการพิจารณาจัดสรรในวันที่ 10 กรกฎาคม 2557
บริษัทฯ ยังระบุด้วยว่า แต่เนื่องจากเงินทุนค่อนข้างจะมีความสำคัญกับบริษัทค่อนข้างมากเนื่องจากข้อจำกัดในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และต้องใช้ระยเวลาในการพิจารณาสินเชื่อ ประกอบกับเงินเพิ่มทุนที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไปคาดว่าจะไม่เพียงพอกับแผนการก่อสร้างและเปิดโครงการใหม่ภายในปีนี้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้จัดสรรหุ้นในคราวนี้ หากบริษัทได้รับเงินทุนดังกล่าวก็จะมีผลประโยขน์ค่อนข้างมากเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิต่อไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถที่จะเติบโตและสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้
ส่วนความสัมพันธ์ของนักลงทุนทั้ง 2 ราย กับบริษัท ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทหรือความรู้จักในด้านธุรกิจและไม่มีส่วนในการบริหารงาน ของบริษัทฯ หรือ การเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทฯรวมถึงสิทธิในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นดังกล่าวเท่าเทียมกับผู้ถือหุ้นของบริษัทตามหนังสือ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจระบุว่า บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2536 มีทุน 290,007,617,040 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 102 ถนนริมคลองบางกะปิ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการพัฒนาและการค้าอสังหาริมทรัพย์
ปรากฎชื่อนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ นายสุทธิศักดิ์ วจีปิยนันทานนท์ นายภพ เพชรสุวรรณ นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
หมายเหตุ : ภาพประกอบข่าวจาก bangkokbiznews.com