เงินค้ำฯแบงก์“ธานี”โผล่บัญชีฯ“สมเจตน์”1ล.-หนี้ใหม่ทำสัญญาวันเดียวกัน

ยอดหนี้เงินกู้ค้ำประกันแบงก์กรุงไทย “ธานี” สนช.ใหม่ โผล่บัญชีทรัพย์สินฯ “สมเจตน์” 1 ล้าน พบมีหนี้เงินกู้ธนาคาร-เซ็นสัญญาวันเดียวกันอีก1 ล้าน ปี 54 – ทรัพย์สินลด 3 ล้าน รายได้ลดลง 2 ล้าน

จากกรณีนายธานี อ่อนละเอียด อดีต ส.ว.สรรหา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2557 ชี้แจงว่า การกู้เงินกับธนาคารกรุงไทย ในสินเชื่อกู้เงินเอนกประสงค์ ส.ว. มูลค่า 2 ล้านบาทนั้น ต้องให้เพื่อน ส.ว.ด้วยกัน เป็นผู้เซ็นค้ำประกัน หลังปรากฏชื่อ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีต ส.ว.สรรหา และสนช.ใหม่ เป็นผู้ค้ำประกันให้

(อ่านประกอบ : “ธานี”แจงกู้แบงก์2ล.จ่ายหนี้-ใช้ส่วนตัว-ผลัดค้ำประกันกับ ส.ว.“สมเจตน์”)

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.สรรหา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 แจ้งว่า มีหนี้เงินกู้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 2 รายการ รวมมูลค่า 2,037,336 บาท ทำสัญญาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554

จากการตรวจสอบพบว่า หนี้เงินกู้ที่ พล.อ.สมเจตน์ ระบุว่า ค้ำประกันนั้น มียอดเงินตรงกับยอดหนี้คงเหลือของนายธานี อ่อนละเอียด กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 มูลค่า 1,019,043 บาท ทุกประการ

(หนี้เงินกู้ค้ำประกันของนายธานี)

น่าสังเกตว่า หนี้เงินกู้กับธนาคากรุงไทยอีกก้อนหนึ่ง จำนวน 1,018,293 บาท มีวันเดือนปีที่ทำสัญญา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ซึ่งตรงกับวันที่ พล.อ.สมเจตน์ เซ็นค้ำประกันให้กับนายธานี

และก่อนหน้านี้ ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 พล.อ.สมเจตน์ ไม่มีหนี้สินจากการกู้เงินกับธนาคารกรุงไทยแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี นายธานี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ระบุว่า การกู้เงินสินเชื่อ ส.ว. ต้องให้เพื่อนร่วม ส.ว.ผลัดกันเซ็นค้ำประกันให้

แต่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯของนายธานี กลับไม่ปรากฏหนี้เงินกู้ที่เซ็นค้ำประกันให้กับ พล.อ.สมเจตน์ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ พล.อ.สมเจตน์ แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 2,885,053 บาท

แบ่งเป็นของ พล.อ.สมเจตน์ 2,755,053 บาท (บำนาญ 900,180 บาท, เงินตอบแทน ส.ว. 1,362,720 บาท, เงินปันผล 492,153 บาท) ของนางสุธีรา บุญถนอม คู่สมรส 130,000 บาท (ค่าเช่าทรัพย์สิน)

มีรายจ่ายทั้งหมด 2,527,276 บาท

เป็นของ พล.อ.สมเจตน์ ทั้งหมด (ค่าใช้จ่ายประจำเดือน 1.2 ล้านบาท, ค่าผ่อนรถ และค่าเบี้ยประกัน 748,476 บาท, ค่าผ่อนเงินกู้ 478,800 บาท, เงินบริจาค 1 แสนบาท)

มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 45,830,850 บาท

แบ่งเป็นของ พล.อ.สมเจตน์ 42,272,668 บาท (เงินฝาก 10 บัญชี 5,595,814 บาท, เงินลงทุน 21 แห่ง 8,631,437 บาท, เงินให้กู้ยืม 2 รายการ 964,000 บาท, ที่ดิน 13 แปลง 16,711,416 บาท, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง 5 ล้านบาท, ยานพาหนะ 3 คัน 5,010,000 บาท, สิทธิและสัมปทาน 1 แห่ง 3.6 แสนบาท) ของนางสุธีรา 3,558,181 บาท (เงินฝาก 3 บัญชี 646,131 บาท, ที่ดิน 3 แปลง 912,050 บาท, ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 12 รายการ 2 ล้านบาท ระบุมูลค่าแค่นาฬิกา 1 เรือนเท่านั้น)

มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,604,322 บาท

แบ่งเป็นของ พล.อ.สมเจตน์ 2,588,524 บาท (เงินเบิกเกินบัญชี 1 แห่ง 70,230 บาท, เงินกู้จากธนาคารกรุงไทย 1,018,293 บาท, หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 1.5 ล้านบาท) ของนางสุธีรา 15,798 บาท (เงินเบิกเกินบัญชี 2 แห่ง)

เมื่อเทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2554 แจ้งว่า มีรายได้ทั้งหมด 5,315,245 บาท ไม่ได้แจ้งรายจ่าย มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 48,833,498 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,500,000 บาท

เท่ากับว่า พล.อ.สมเจตน์ มีรายได้ลดลง 2,430,192 บาท มีทรัพย์สินลดลง 3,002,648 บาท มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น 2,527,276 บาท มีหนี้สินเพิ่มขึ้น 104,322 บาท

อ่านประกอบ : “ธานี”สนช.ใหม่ให้“สมเจตน์”เพื่อนส.ว.ค้ำประกันเงินกู้แบงก์ 2 ล.ปี 54

หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม จาก tnews