กสท เสียงแตก! ฟัน "ตอบโจทย์" ตอนสถาบันฯ ปรับไทยพีบีเอส 5 หมื่น
กสท. เสียงแตกฟัน "ตอบโจทย์" ตอนสถาบันฯ ปรับไทยพีบีเอส 5 หมื่น "สุภิญญา กลางณรงค์" ชี้ไม่ผิด เป็นสิทธิเสรีภาพ เปิดช่องยืนศาลปกครองขอความเป็นธรรม
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2556 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) โดยการเสนอของคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการที่มีพลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ เป็นประธาน มีมติแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณากรณีสถานีไทยพีบีเอสที่ออกอากาศรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ตอน “สถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้รัฐธรรมนูญ” ในระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม 2556 เวลา 21.45-22.30 น. ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงในวงกว้าง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 พลโท.ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่ประชุม กสท. มีมติว่ารายการตอบโจทย์ ในตอนดังกล่าวมีมติขัด มาตรา 37 ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งในที่นี้คือ สถานีไทยพีบีเอส ต้องเสียค่าปรับ 50,000 บาท
"ในการประชุมครั้งนี้ อาจารย์ธวัชชัย (จิตรภาษ์นันท์) กับผม เห็นว่า ขัด ม. 37 ปรับ 5 หมื่น ส่วนคุณสุภิญญา กลางณรงค์ มีความเห็นยืนยันตั้งแต่วันแรกแล้วว่าไม่ควรชี้ว่าผิด เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพ ขณะที่พ.ต.อ. ทวีศักดิ์ งามสง่า ไม่ได้เข้าประชุมด้วยเพราะป่วย ส่วน ดร.นที ศุกลรัตน์ เห็นว่า ควรรอเรื่อง การตรวจสอบมาตรา 112 ด้วย ซึ่งเราเห็นว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะเรื่องม.112 เป็นเรื่องหมิ่นเจ้า แต่อันนี้เราไม่ได้ดูเรื่อง นั้น เราดูเรื่องกระบวนการในการออกรายการ ที่ต้องไม่สร้างปัญหา"
พล.ท.ดร. พีระพงษ์ กล่าวว่า กสท.ไม่ได้ดูเรื่องหมิ่นเจ้า ไม่ได้ยุ่งเรื่องเสรีภาพ แต่ดูทีกระบวนการเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจสอบ ไม่ใช่ออกอากาศแล้วคนมาขัดแย้งกัน ส่วน ม.112 กสท.ไม่ได้ไปวิจารณ์ในแง่นั้น เมื่อชี้ไปแล้ว ว่าขัด ม.37 ถ้า ม.112 จะมีการชี้มาในคราวหลัง ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับที่กสท.มีมติวันนี้
“วันนี้ เราปรับผู้รับใบอนุญาต คือไทยพีบีเอส ซึ่งเขาอาจเห็นว่าขัดกับความรู้สึกเขาอยู่บ้างเหมือนกัน หากไทยพีบีเอสเขาไม่เห็นด้วยกับมติ คือถ้าเขาเห็นว่าเขาทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว ก็ยังมีช่องทางศาลปกครองที่จะให้ความเป็นธรรม” พล.ท.ดร.พีระพงษ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรา 37 ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 บัญญัติว่าห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
"ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการ ให้กรรมการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งด้วยวาจา หรือเป็นหนังสือให้ระงับการออกอากาศรายการนั้นได้ทันที และให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวโดยพลัน
"ในกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วเห็นว่าการ กระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลยของผู้รับใบอนุญาตจริง ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขตามที่สมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตก็ได้"