หมอวิชัย จี้กทม.ใช้ความกล้า จัดซื้อรถเมล์ชานต่ำ เพื่อคนชรา พิการ เด็ก และสตรี
หมอวิชัย จี้กทม.ใช้ความกล้าหาญ จัดซื้อรถเมล์ล็อตใหม่ 3 พันคัน ให้เป็นรถชานต่ำทั้งหมด บอกหยุดอ้างปัญหาสภาพถนน คนสะพาน บาทวิถี เชื่อแก้ไขได้ เหมือนในหลายๆ เมืองมหานครของโลกที่ทำสำเร็จมาแล้ว
|
วันที่ 30 กรกฎาคม สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย เครือข่ายรถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนขึ้นได้ทุกคัน และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดการเสวนา"วิกฤตรถโดยสารสาธารณะกรุงเทพในสังคมผู้สูงอายุ" โดยนายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน ประธานสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวปาฐกถา เรื่องรถเมล์เพื่อความสุขของทุกคน ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ) ตอนหนึ่งโดยชื่นชมกลุ่มผู้พิการที่ต่อสู้อย่างเข้มแข็งเพื่อให้กรุงเทพมหานครปรับเปลี่ยนทัศนะจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำมาบริการ แทนรถเมล์พื้นสูงที่ใช้กันมานาน
นพ.วิชัย กล่าวถึงการซื้อรถเมล์ล็อตใหม่ ถือเป็นล็อตใหญ่มาก กับการผลักดันให้มีการจัดซื้อรถเมล์ชานต่ำเหมือนอารยประเทศเพื่ออำนวยให้คนพิการได้ใช้สะดวกนั้น ถือเป็นการต่อสู้กับ "ทัศนะเก่า" ที่ไม่ถูกต้อง ที่มองว่า คนพิการเป็นเพียงคนกลุ่มน้อย ไม่ควรให้หน่วยงานรัฐต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งแท้จริงแล้ว สังคมไทยต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ เพื่อมุ่งสร้างสังคมที่ไม่ทิ้งกันให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
"รถเมล์ชานต่ำก่อประโยชน์ไม่เฉพาะคนพิการกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างกว้างขวาง ทั้งคนสูงอายุ เด็ก สตรี โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ ซึ่งคนเหล่านี้ รวมกันแล้วย่อมเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม" ประธานสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ กล่าว และว่า ปัจจุบันประชากรผู้สูงอายุของไทยมีถึง 14% แล้ว และจะเพิ่มเป็น 20% ในปี 2573 หากดูแลไม่ดีผู้สูงอายุก็จะเป็นภาระ แต่หากดูแลดีผู้สูงอายุเหล่านี้จะเป็นพลัง ไม่ต่างจากผู้พิการที่เราต้องทำให้ผู้พิการช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด
นพ.วิชัย กล่าวถึงกรณีที่ กทม.ปรับรถปรับอากาศ 1,524 คัน ที่จะจัดซื้อในอนาคตให้เป็นรถชานต่ำ แต่ยังมีรถเมล์ไม่ปรับอากาศอีก 1,659 คันที่จะจัดซื้อยังคงเป็นพื้นสูง โดยอ้างมีปัญหาสภาพถนน คนสะพาน บาทวิถี หรืออื่นๆ นั้น ปัญหาเหล่านี้ย่อมต้องปรับแก้ และสามารถแก้ไขได้เหมือนในหลายๆ เมืองมหานครของโลกที่ได้ทำสำเร็จมาแล้ว
"กทม.จำเป็นต้องทำ นอกจากเพื่อประโยชน์ของคนไทยแล้ว ยังเป็นประโยชน์กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายที่มาเที่ยวเมืองไทยปีละกว่าสิบล้านคน ดังนั้น ผมขอให้กทม.ใช้ความกล้าหาญทางจริยธรรม ทำหน้าที่ที่พึงกระทำนี้ ด้วยพื้นฐานแห่งความเมตตาการุณยธรรม ทั้งแก่คนพิการ เด็ก สตรี และคนชรา รวมไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องเรียนกว่า รถเมล์ชานต่ำ คือรูปธรรมแห่งความสุขของประชาชนที่สามารถทำได้ทันที"