“ประยุทธ์”ลั่นคนทำผิดต้องถูกลงโทษ ไม่ยอมถูกดำเนินคดีอยู่ไทยไม่ได้
“พล.อ.ประยุทธ์” ลั่นคนทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าไม่ยอมก็อยู่ไทยไม่ได้ ขอบคุณแกนนม็อบหยุดเคลื่อนไหว เตรียมจัดการพวกวิ่งเต้นตำแหน่ง สนช.-สปช.-ครม. ยันจัดซื้ออาวุธกองทัพโปร่งใส ให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งท้องถิ่นที่ไร้ปัญหา พบความผิดปกติโกดังข้าว 128 แห่งทั่วประเทศ ขอบคุณสื่อที่เข้าใจ ย้ำไม่ได้ปิดกั้น ชี้รธน.อาจไม่ถูกใจ แต่จะปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งผ่านรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ถึงความคืบหน้าในการบริหารประเทศของ คสช.
@ลั่นคนทำผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าไม่ยอมก็อยู่ไทยไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กรณีมีกลุ่มต่อต้านนั้น เราพยายามชี้แจง แต่ยังไงเขาก็ไม่เข้าใจ ก็ไม่ทราบว่า ไม่เข้าใจจริง ๆ หรือไม่จริง หรือต้องการจะปกปิดอะไรหรือไม่ อยากขอร้องว่าให้เลิกเถอะ เพราะการตรวจอสบเรื่องกระบวนการยุติธรรมก็ยังบังคับใช้อย่างต่อเนื่อง องค์กรอิสระก็ทำอยู่ ใครผิดหรือถูกก็ไปว่ากันตรงนั้น อย่าหาว่าเรารังแกคนใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ให้ดูประเด็นว่าเขาผิดจริงหรือไม่ ถ้าไม่ผิดก็โดนดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่ถ้าทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี และเราก็ให้เวลาในการสอบสวน ให้ความเป็นธรรม ไม่ใช่ทำล้ายล้างใครเลย ดังนั้นให้กระบวนการยุติธรรมของเราดำเนินการต่อไป เพราะถ้าไม่ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมปกติดำเนินการ ก็จะมีข้อขัดแย้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“อย่าใช้ความรู้สึกอย่างเดียว วันข้างหน้าก็ต้องอยู่ร่วมกันอีก คสช.พยายามไม่ทำตามข้อเรียกร้องฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเรียกร้องกันไป ทำตามไป อีกพวกก็บอกไม่เป็นธรรม ก็ต่อสู้กันเหมือนเดิม ดังนั้นรอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปด้วยหลักฐาน ยอมรับกฎกติกาของสังคม และปฏิเสธไม่ได้ถ้าผิดจริง เพราะกฎหมายมีไว้เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างปกติ ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง ผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่ยอมก็หนีไป ก็อยู่ไทยไม่ได้ ถ้ากลับมาไทยก็ต้องถูดติดตามจับกุมดำเนินคดีอย่างที่ขึ้นหลายราย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับบางกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตยนั้น คสช.ไม่ได้มองเป็นเรื่องแปลง แต่แปลกเพียงว่าสถานการณ์ประชาธิปไตยในไทยที่ผ่านมามีปัญหามาตลอดในทุกมิติ ทั้งการเมือง ทั้งการใช้อำนาจผ่านฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ มีการทุจริต และเอื้อผลประโยชน์ ทำให้ข้าราชการไม่สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ผมเลยไม่เข้าใจว่าผู้เรียกร้องมองข้ามเรื่องดังกล่าวได้อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การประท้วงที่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 2549 ที่ทุกฝ่ายกล่าวอ้างว่าทำเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้น คสช.ต้องการยุติ และแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยั่งยืน น่าจะเข้าใจกัน มองกันตรงนี้มากกว่า และต้องหาว่าใครเป็นคนทำให้เกิดความวุ่นวาย หากท่านประณามเราที่เข้ามาแก้ไข มันไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก ขอความเป็นธรรมให้เราด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@ขอบคุณแกนนม็อบหยุดเคลื่อนไหว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณแกนนำทุกม็อบที่หยุดเคลื่อนไหว โดยแต่ละคนก็ไปทำธุรกิจส่วนตัว หรือประกอบอาชีพอื่น ๆ ดังนั้น คสช.ก็ขอให้เตรียมตนเองในเรื่องการปฏิรูปและการเมืองในอนาคต จากนี้จะได้รับความร่วมมือเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรองดอง หรือการปฏิรูปในทุกเรื่อง และให้ความร่วมมือในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้ผ่านพ้นเมฆหมอกที่ปกคลุมประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อมอบอนาคตให้ลูกหลานของเราต่อไป และขอยืนยัน คสช.ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ประการใดทั้งสิ้น
@เตรียมจัดการพวกวิ่งเต้นตำแหน่ง สนช.-สปช.-ครม.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่มีกระแสข่าวการวิ่งเต้นเพื่อเข้าไปอยู่ในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หรือรัฐบาล ก็ยังมีอยู่ และทราบแล้วว่าใครเรียกร้องอยู่ ดังนั้นเราขอยืนยันว่าเราไม่มีทั้งสิ้น และขอให้กลุ่มคนดังกล่าวยุติ เพราะคนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.จะตรวจสอบจากคณะกรรมการของ คสช.เอง มีการสอบประวัติทั้งหมด ไม่ใช่ใครส่งชื่อมาแล้วก็จัดตั้ง และหากมีการแต่งตั้งแล้วพบการทุจริตก็จะดำเนินคดีและปลดออกทันที
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการที่ คสช.อนุมัติทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำ หรือโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน แล้วอ้างว่าเคลียร์กับ คสช.ได้ และเรียกรับผลประโยชน์ให้ คสช.ด้วย ไม่ว่าฝ่ายพลเรือน ฝ่ายตำรวจ และทหาร ขอให้แจ้งมา เราจะดำเนินการโดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตผิดกฎหมายตั้งแต่เริ่มทำโครงการ รวมไปถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องช่วยกันดูแล เราจะทำให้โปร่งใส และต้องไม่มีเด็ดขาดในการเรียกรับผลประโยชน์
“ส่วนในเรื่องการแก้ไขการทุจริต ในช่วงนี้ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้มี ตามที่ คตร.ตรวจสอบแผนงานใช้งบประมาณแต่ละกระทรวงมีหลายโครงการผิดปกติ สั่งให้ทบทวน และระงับในบางกรณี รวมทั้งให้ส่วนต่าง ๆ วางรากฐานป้องกันการทุจริต และปลูกฝังส่งเสริมให้เป็นข้าราชการที่ดีอีกด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
@ยันจัดซื้ออาวุธกองทัพโปร่งใส
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการโจมตี คสช.และกองทัพต่าง ๆ ในเรื่องการจัดซื้อาวุธนั้น ขอบอกว่ากองทัพมีการตรวจสอบอยู่แล้ว มีการตรวจสอบ หน่วยงานรัฐมา เราก็ตอบไป บางทีทำให้เกิดการจัดซื้อล่าช้ากว่ากำหนด เพราะเราต้องการให้ไว้วางใจ ฉะนั้นอย่าโจมตีอีกเลย เพราะบางอย่างเราไม่ได้ผลิตเอง บางอย่างต้องซื้อมาใช้งาน และนำไปสู่การวิจัยและพัฒนา ทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับภัยการคุกคามในรูปแบบใหม่
@ให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งท้องถิ่นที่ไร้ปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการกระจายอำนาจบริหารราชการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หรือส่วนท้องถิ่น ที่มีอยู่แล้วเดิม คสช.ไม่ได้มองว่ามีปัญหาอะไรมาก แต่งต้องปฏิรูปให้เกิดความชอบธรรมและทั่วถึง คสช.ไม่หวังเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น อย่าลืมว่าประเทศไทยเป็นรัฐเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ดังนั้นเราให้ความสำคัญกับข้าราชการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน แต่ต้องยึดโยงกับอำนาจส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคด้วย และหากทั้ง 3 ระดับทำได้ดี ก็ไม่น่ามีปัญหาใด ๆ แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่คน ถ้าเราได้คนมีความรู้ มีความโปร่งใส นึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าตนเองและพวกพ้อง ก็จะไปได้ดี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา คสช.อนุญาตให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลรับรองเลือกตั้งได้ แต่ต้องตรวจสอบในเรื่องใบเหลือ-ใบแดงก่อน ส่วนใดที่มีปัญหาก็ให้ชะลอไปชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่ง ซึ่งปัญหาเรื่องนี้มีเพียงไม่กี่ร้อยแห่งจากพันกว่าแห่ง
@พบความผิดปกติโกดังข้าว 128 แห่งทั่วประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจโกดังข้าวที่เราดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และดำเนินคดีในส่วนกรณีพบความไม่โปร่งใส จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งกรณีนี้เป็นคนละส่วนกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ โดยปัจจุบัน คสช.สอบปริมาณข้าวไปแล้วในโกดังทั้งสิ้น 836 โกดัง คิดเป็น 46.8 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด 1,787 โกดัง พบความผิดปกติ 128 แห่ง เช่น ข้าวเสื่อมสภาพ หรือไม่ตรงกับบัญชี เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนการระบายข้าว คสช.วางแผนอย่างต่อเนื่อง และเห็นชอบที่คณะอนุกรรมการระบายข้าว ที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ได้วางวิธีการระบายข้าวในสต็อก โดยกำหนดว่าต้องระบายข้าว 18 ล้านตันให้ได้ใน 3 ปี รวมไปถึงมีการส่งออกข้าวหลายช่องทาง เช่น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) หรือระบายด้วยองค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) เป็นต้น
@ขอบคุณสื่อที่เข้าใจ ย้ำไม่ได้ปิดกั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องสื่อต้องขอขอบคุณที่เข้าใจกัน และขอให้สมาคมวิชาชีพดูแลกัน อย่าปล่อยให้มีการล่วงละเมิดโดยเตนาไม่บริสุทธิ์ หรือให้ข่าวที่ไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้ คสช.ไม่ได้มุ่งหวัดควบคุมอำนาจสื่อแต่ประการใด และอยากให้ทุกสมาคมสื่อ และสื่อทุกประเภทน่าเชื่อถือต่อสาธารณชนเท่านั้นเอง และขอให้สมาคมสื่อเข้าใจการทำงานของ คสช.ในระยะที่ 2 เราต้องการให้เกิดความสงบมากที่สุด หากไม่ทำอะไรเสียหายหรือวิจารณ์เกินกว่าเหตุ ก็คงไม่มีใครทำอะไร เพราะท่านมีพลังทำให้สังคมเรียบร้อย หรือวุ่นวายก็ได้ นอกจากนี้ในระยะที่ 2 ท่านก็จะต้องอยู่ในส่วนของการปฏิรูปสื่อด้วย
@ชี้รธน.อาจไม่ถูกใจ แต่จะปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราว เราต้องกำหนดหน้าที่แต่ละฝ่ายให้ชัด เพราะใช้พระราชอำนาจตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามรัฐธรรมนูญ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 เดือน คสช.ต้องแก้ปัญหาด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้ใช้อำนาจทำร้ายใคร แต่สร้างสรรค์บ้านเมือง อาจมีคนถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง แต่เราจะปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม และจะทำอย่างไรให้ประเทศมั่นคงยั่งยืน ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ และอย่ามองที่ประชาธิปไตยอย่างเดียว ถ้าท่านต่อต้านทุกประเด็น บางอย่างที่ยังไม่เกิดก็เป็นห่วง ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนอยู่แล้ว เราต้องร่วมมือกันในวันนี้ไม่ใช่วันหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนน่าจะสบายใจถ้าเราถ่วงดุลอำนาจกันได้ทั้งรัฐบาลและ คสช.ทำให้มีอำนาจเข้มแข็งในการดูแลความสงบต่อสังคม และให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกภาคส่วน วันนี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ ถ้าปกติก็เลิกหมดทุกอย่าง เพียงแต่ขณะนี้แค่ลดความรุนแรงเป็นการพบปะหารือกัน เพราะปัจจุบันยังมีคนต่อต้าน คสช.บิดเบือนในข้อเท็จจริงทั้งในและต่างประเทศ
“รัฐธรรมนูญชั่วคราวขณะนี้ ไม่ว่า คสช.มีอำนาจมากเท่าใด หากผู้ใช้อำนาจทำสิ่งดี ๆ สร้างสรรค์ ก็อย่ากังวลใจ ถ้าไว้ใจผู้บริหารประเทศ หรือผู้ใช้อำนาจทุกคน มีคุณธรรม จริยธรรม โปร่งใส มีประสิทธิภาพในการปฏฺบัติหน้าที่ แต่ถ้าเข้ามาแล้วไม่ดี ไม่โปร่งใส ก็ปรับได้ตลอด ดังนั้นขอให้ไว้วางใจการใช้อำนาจของ คสช.” พล.อ.ประยุทธ์