“อ.แล” ชี้นายจ้างควรเฉือนเนื้อขยับต้นทุนค่าจ้าง 10% เป็น 20% ของราคาสินค้า
นักวิชาการแรงงาน ดันเต็มที่เงินเดือน ป.ตรี 1.5 หมื่น ปรับค่าจ้าง 300 ทั่วประเทศ ระบุนายจ้างต้องเสียสละเพิ่มต้นทุนค่าแรง ไม่ใช่เอาภาษีมาชดเชยส่วนเพิ่ม ฝากรัฐบาลรับรองไอแอลโอให้แรงงานตั้งสหภาพต่อรองได้ ดัน สปส.เป็นองค์กรอิสระ ด้านนายจ้างวอน รมว.ใหม่อย่าแทรกแซง คกก.ไตรภาคี
ศาสตราภิชานแล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า นโยบายด้านแรงงานที่นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน(รมว.รง.)ควรเริ่มดำเนินการทันที คือการทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้เรื่องการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 ต่อวันทั่วประเทศ และการปรับเงินเดือนปริญญาตรีเป็น 1.5 หมื่นบาท โดยเฉพาะเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำที่ถูกจับตาว่ารัฐบาลชุดใหม่จะทำได้หรือเปล่า ถือเป็นการพิสูจน์ว่าถ้าทำให้เป็นรูปธรรมได้ แรงงานก็จะให้การยอมรับรัฐบาลชุดนี้
อ.แล กล่าวอีกว่าเรื่องที่อยากฝาก รมว.รง.มากที่สุด คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน โดยปรับค่าจ้างให้เหมาะสมและมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตโดยไม่ต้องทำโอทีหรือกู้เงิน ซึ่งปัจจุบันต้นทุนค่าจ้างอยู่ที่ 10% โดยสินค้าราคา 100 บาท เป็นต้นทุนค่าจ้าง 10 บาท อยากให้ต้นทุนค่าจ้างเพิ่มเป็น 15-20% และแรงงานที่ทำอยู่เดิมซึ่งได้ค่าจ้างมากกว่า 300 บาทต่อวันไปแล้วจะได้ขยับขึ้นค่าจ้างเป็นทอดๆไป อย่างไรก็ตามไม่เห็นด้วยหากจะนำเงินภาษีของประชาชนมาชดเชยส่วนต่างต้นทุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นให้แก่นายจ้าง เพราะอยากให้ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยนายจ้างต้องรู้จักเฉือนเนื้อตัวเองและเสียสลรับผิดชอบต่อสังคมบ้าง
“ขณะเดียวกันอยากให้รัฐบาลชุดใหม่รับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ(ไอแอลโอ)ฉบับที่ 87 และ 98 เรื่องสิทธิเสรีภาพจัดตั้งสหภาพแรงงาน เพื่อเจรจาต่อรองสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆกับนายจ้างได้โดยไม่ถูกไล่ออก รวมทั้งเร่งพัฒนาฝีมือแรงงานให้สอดรับการปรับขึ้นค่าจ้าง สนับสนุนแรงงานนอกระบบสู่ประกันสังคม และยกระดับสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เป็นองค์กรอิสระ ไม่ใช่ให้ปลัด หรือรมว.แรงงานเป็นประธานบอร์ด สปส.” ศ.ภิชานแล กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผอ.วิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า รมว.แรงงาน จะต้องเดินหน้านโยบายที่รัฐบาลหาเสียงไว้ทั้งการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน และเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท การดูแลแรงงานต่างด้าว แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานและเตรียมมาตรการด้านแรงงานรองรับประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2558 และเฝ้าระวังป้องกันการค้ามนุษย์ซึ่งขณะนี้ไทยถูกต่างประเทศจับตามองเป็นพิเศษเพราะอยู่ในระดับ 2 หากขึ้นถึงระดับ 3 จะถูกกีดกันทางการค้า กระทรวงแรงงานจึงต้องร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆเฝ้าระวังและแก้ปัญหา
นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้างกลางและเลขาธิการสภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและผู้บริการเครื่องอุปโภคบริโภค กล่าวขอบคุณ รมว.แรงงานที่มีท่าทีประนีประนอมในการเดินหน้านโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่จะดำเนินการผ่านคณะกรรมการไตรภาคีที่มีทั้งฝ่ายรัฐบาล นายจ้างและลูกจ้าง โดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและความอยู่รอดของทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง และขอให้ไม่แทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการไตรภาคี รวมทั้งจัดงบประมาณสนับสนุนการจัดตั้งสภาองค์การนายจ้างและสภาองค์การลูกจ้างของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ.
ที่มาภาพ : http://soundcloud.com/senthang50/50-2