ป.ป.ช.มติ 7:0 ฟันอาญา"ยิ่งลักษณ์" คดีทุจริตจำนำข้าว-ขาดทุนยับ5แสนล.
ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ 7 – 0 ชี้มูลคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ในฐานะหัวหน้ารบ. ที่รับทราบว่าเกิดการทุจริตในทุกขั้นตอน แต่ไม่ระงับยับยั้ง ชงเรื่องให้ อสส. ฟ้องศาลฎีกาฯ สัปดาห์หน้า “วิชา” ยันขาดทุนจำนำข้าวกว่า 5 แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยกรณีการไต่สวนข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าว
นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 7 ต่อ 0 เสียง เห็นว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งได้กำหนดนโยบายการรับจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้น และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย และมีส่วนร่วมในการบริหารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล แต่ปรากฎว่าในการดำเนินการโครงการเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาได้รับรู้รับทราบจากรายงานผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และยังรับทราบว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอนของการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าว อีกทั้งปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีชาวนาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข่าวนับล้านครอบครัวที่ยังไม่ได้รับเงินทำให้ได้เดือดร้อน จึงเป็นกรณีจำเป็นที่ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะนายกรัฐมนตรีจะต้องพิจารณายับยั้งโครงการตั้งแต่เริ่มรับทราบว่า มีการทุจริตในการดำเนินโครงการและความเสียหายต่าง ๆ จากการดำเนินโครงการ
แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไป ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหามีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะต้องพิจารณายุติหรือยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดการทุจริตและระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายจากการดำเนินโครงการมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นสภาพความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าวมาจึงมีมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1
จึงให้ส่งรายงานและเอกสารพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามฐานความผิดดังกล่าวตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 70
นายวิชา กล่าวด้วยว่า สำหรับตัวเลขการขาดทุนในโครงการดังกล่าวนั้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีนำเสนอ และยืนยันตลอดมา และจะส่งให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) ราวสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ป.ป.ช. ได้มีมติ 7 ต่อ 0 ที่เห็นว่าพฤติกรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ถูกกล่าวหา มีพฤติการณืขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 และส่อว่าขัดต่อบทบัญญัติกฎหมายตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11 (1) อันเป็นเป็นการถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ไปแล้ว
อ่านประกอบ :
มติ 7-0 เสียง ป.ป.ช.ฟัน“ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว ชงวุฒิถอด-"สถาพร"ถอนตัว
ชะตากรรม "ยิ่งลักษณ์" ก่อนอวสานตระกูล "ชินวัตร" บนเส้นทางการเมือง?