“ทักษิณ” เมินป.ป.ช.ตั้ง “ณรงค์” ปธ.อนุฯไต่สวนคนใหม่คดีแปรรูปกฟผ.
“ทักษิณ” เมิน ป.ป.ช. ไม่รับหนังสือแจ้งเปลี่ยนตัว ปธ.อนุฯไต่สวนคดีแปรรูป กฟผ. จาก “ใจเด็ด” เป็น “ณรงค์” หลัง ป.ป.ช. ร่อนหนังสือแจ้งพร้อมพวกรวม 6 คน พบก่อนหน้านี้ปฎิเสธการคัดค้านเปลี่ยนตัว ปธ.อนุฯไต่สวน คนก่อน 2 ครั้ง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหนังสือแจ้งคำสั่งแต่งตั้งประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 6 ราย กรณีร่วมกันพิจารณาอนุมัติให้มีการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมีเจตนาฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งที่ 236/2557 ลงวันที่ 28 เมษายน 2557 ปรับเปลี่ยนประธานอนุกรรมการไต่สวน จากนายใจเด็ด พรไชยา อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกษียณอายุราชการ มาเป็นนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนแทน
หลังจากนั้นได้มีหนังสือแจ้งคำสั่งแต่งตั้งประธานอนุกรรมการไต่สวนไปยังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ทราบแล้ว ปรากฎว่ามีผู้ไม่รับหนังสือ 1 ราย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้แก่ หนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ลับ ที่ 0009/0133 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตามที่อยู่ที่ปรากฎในทะเบียนราษฎร์ แต่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตีกลับ (คืนผู้ฝาก) ปรากฎเหตุขัดข้องที่นำจ่ายผู้รับไม่ได้ เนื่องจากไม่ยอมรับ
ทั้งนี้ ตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการไต่สวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2555 ข้อ 14 ระบุว่า ให้แจ้งคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริง และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยส่งสำเนาคำสั่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปให้ผู้ถูกกล่าวหา ณ ที่อยู่ของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งปรากฎตามหลักฐานของทางราชการ หรือตามหลักฐานที่ปรากฎจากการไต่สวนข้อเท็จจริงก็ได้
ในกรณีนี้เมื่อได้ล่วงพ้นกำหนดระยะเวลา 15 วันนับแต่วันที่ได้ส่งสำเนาคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหา ให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบคำสั่งให้ไต่สวนข้อเท็จจริงและแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนดังกล่าวแล้ว
และข้อ 14/1 ในกรณีไม่สามารถส่งหนังสือให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาตามข้อ 14 ได้ ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการให้มีการปิดประกาศหนังสือแจ้งคำสั่งไต่สวนข้อเท็จจริงให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบโดยเปิดเผย ณ สำนักงาน ป.ป.ช. และภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหา โดยให้จดแจ้งการดำเนินการดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน และให้ถืวอ่าผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวทันที
(หนังสือแจ้งฉบับเต็ม)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการเปลี่ยนตัวประธานอนุฯไต่สวนมาแล้วครั้งหนึ่ง จากนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกษียณอายุราชการ มาเป็นนายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้น ทำหน้าที่แทน และมีการเปลี่ยนแปลงตัวฝ่ายเลขานุการในคณะอนุฯไต่สวนใหม่ 2 ราย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้ส่งคำสั่งดังกล่าวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้สิทธิคัดค้านรายชื่อคณะอนุฯไต่สวน 2 ครั้ง ตามที่อยู่ในทะเบียนราษฎร์ แต่ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าหน้าที่ รปภ. ไม่ยอมรับแทน
สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 โดยมอบหมายให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ในขณะนั้น ทำหน้าที่เป็นประธานอนุฯไต่สวน หลังได้รับการร้องเรียนจาก 3 ฝ่าย ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และพวก มาร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายวีระ สมความคิด และเจ้าหน้าที่ กฟผ. ในฐานะผู้เสียหายมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ระบุว่า ทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 157
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.รุกสอบ"ทักษิณ"คดีแปรรูป กฟผ. โชว์คำสั่งตั้งคณะกก.ที่ สนง.สนามบินน้ำ
เปิดแบบฟอร์มค้านอนุฯ ป.ป.ช.คดีแปรรูปกฟผ.-"ทักษิณ"อยู่ดูไบก็ใช้สิทธิได้
หมายเหตุ : ภาพประกอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จาก wikipedia