ส่องมุมมอง “นักการเมือง-สื่อมวลชน” ปรับปรุง “ตึกนารีสโมสร-รังนกกระจอกเก่า”
"ดังนั้นตึกที่เป็น โบราณสถานแห่งนี้..จึงกลายเป็นสัญลักษณ์และเป็นจุดศูนย์กลางของข่าวสารของ รัฐบาลอย่างแท้จริงและเข้มขลังยิ่ง..และเท่าที่ผมทราบ..มันก็เป็นเช่นนี้มา หลายยุคหลายสมัยแล้วครับ"
ข่าวคราวการปรับปรุง “ทำเนียบรัฐบาล” โดยเฉพาะ “ตึกนารีสโมสร” และ “รังนกกระจอกเก่า” ได้รับความสนใจจาก “สื่อมวลชน” มากเป็นพิเศษ นั่นเพราะหมายถึงความเป็นของ “สื่อ”
หน่ำซ้ำทัศนียภาพของ “รังนกกระจอกเก่า” ยังสามารถมองเห็น “บุคคลวีไอพี” ที่เดินเข้า-ออก “ตึกไทยคู่ฟ้า” ซึ่งเป็นที่ทำงานของ “นายกรัฐมนตรี” ได้ดีที่สุด เพราะอยู่กึ่งกลางสามารถมองเห็นทั้งประตูด้านหน้า-ประตูด้านหลัง
หากย้าย “รังนกกระจอกเก่า” ออกไปการตรวจสอบว่าใครเข้าพบ “นายกรัฐมนตรี” บ้าง คงด้อยลงไป ซึ่งต้องไม่ลืมว่า “บุคคลวีไอพี” ที่เข้าพบ “นายกรัฐมนตรี” สามารถนำมาสู่การกำหนดประเด็นข่าวได้
ตามข่าวมีการระบุว่าต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงภูมิกว่า 300 ล้านบาท จึงเกิดคำถามเรื่องความคุ้มค่ากันมากมาย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงรวบรวมความเห็นของ “นักการเมือง” และ “ผู้สื่อข่าว” เพื่อสะท้อนมุมมองความสำคัญของทั้ง “ตึกนารีสโมสร” และ “รังนกกระจอกเก่า”
วัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) โพสต์ข้อความระบุว่า
"ขอบคุณและลาก่อนครับ" "ตึกนารีสโมสรที่เคยรัก"
วันนี้คงต้องบอกลากับตึก"นารีสโมสร" ทำเนียบรัฐบาลอย่างจริงจังเสียทีครับ..เพราะสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ทำงานของผมตลอดระยะเวลามามากกว่าสามปีครับ..ในฐานะรองโฆษกรัฐบาลยุคท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..
แทบทุกวันทีมโฆษกรัฐบาลจะมีการแถงข่าวผลการประชุมของครม.หรือคณะกรรมการชุดต่างๆอย่างเป็นทางการอยู่ตลอดเวลา..และแทบทุกวันจะมีน้องๆนักข่าวนับสิบนับร้อยจะมานั่งรอนอนรอทำข่าวกันอยู่ที่นี่ครับ บางคนนอนรอจนหลับไปเลยก็มีครับ..
ดังนั้นตึกที่เป็นโบราณสถานแห่งนี้..จึงกลายเป็นสัญลักษณ์และเป็นจุดศูนย์กลางของข่าวสารของรัฐบาลอย่างแท้จริงและเข้มขลังยิ่ง..และเท่าที่ผมทราบ..มันก็เป็นเช่นนี้มาหลายยุคหลายสมัยแล้วครับ...
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่แถลงข่าว..จากตึกนารีสโมสรเป็นตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลในอนาคต..ซึ่งผมก็เชื่อครับว่า...น่าจะมีเหตุและมีผลที่เพียงพอที่จะย้ายครับ..แต่โดยส่วนตัวก็ยอมรับว่าใจหายและอาลัยอาวรณ์ตึกแห่งนี้มากหลายอยู่..เพราะสถานที่แห่งนี้ทำให้ผมได้เกิดและมีตัวตนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
จนผมมักล้อเลียนตัวเองเล่นๆเสมอๆว่า ผม"ได้ดีเพราะ มี(ตึก)นารีอุปถัมภ์"ครับ
ดังนั่นเมื่อถึงเวลาเช่นนี้..คงไม่มีอะไรดีไปกว่าคำขอบคุณและคำอวยพรครับ "ขอบคุณและโชคดีนะครับพี่นารีสโมสรที่น่ารักโปรดรอจนกว่าเราจะพบกันใหม่นะครับ.."
ขณะที่ “สื่อมวลชน” ประจำทำเนียบรัฐบาล ออกมาตั้งคำถามถึงการดำเนินการดังกล่าว อาทิ
"เตรียมย้ายศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล จากตึกนารีสโมสรที่ใช้มากว่า 30 ปี งานคราวนี้ควรหรือไม่?"
"เรื่องอื่นมีให้ทำมากมายในทำเนียบ ทำไมต้องมาทำรังนกกระจอก ถ้าจะปรับปรุงวิวทิวทัศน์ เอาเงินมาปฏิรูปเน็ตทำงานของสื่อให้ดี แล้วที่เหลือเอาไปพัฒนาหาคนไม่โกงชาติบ้านเมืองเข้ามาทำงานดีกว่า แต่ถ้าไม่ให้ใช้จริง ก็เก็บมันไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะนอกจากวันเด็กได้นั่งเก้าอี้นายกฯแล้ว ก็พามาดูห้องนักข่าวเก่าแก่คู่ทำเนียบ มันคิดอะไรได้อีกตั้งเยอะ ดีกว่ารื้อทิ้งเพื่อทำสวนหย่อม แค่สวนทีีมีทำให้มันดีดูร่มรื่นก่อนเถอะ"
ขณะนี้ "สื่อมวลชน" บางส่วนออกมาตั้งคำถาม อาทิ “ข่าวว่าจะรื้อรังนกกระจอกไปทำสวนหย่อม ข่าวบอกอีกว่าจะปรับโฉมใหญ่ตึกนารีสโมสรเป็นห้องรับรองแขกเหรื่อของรัฐบาล งบประมาณ 300 ล้านบาท”
-ห้องรับรองในทำเนียบฯมีไม่พอหรือครับ ถึงต้องสร้างใหม่ที่ตึกนารีสโมสร ทั้งที่ทุกตึกทั้งไทยคู่ฟ้า สันติไมตรี บัญชาการ มีห้องรับรองสวยๆ สมเกียรติรัฐบาลจะต้อนรับอาคันตุกะอยู่แล้ว
-การมีสวนหย่อมเพิ่มขึ้นในทำเนียบ ต่อให้เป็นสวนแบบวังแวร์ซาย หรือสวนอีเดน จะสำคัญขนาดไหนครับ สำคัญกว่าการมีที่ให้นักข่าวได้พอมีที่นั่งทำงานส่งข่าวสื่อสารเรื่องที่รัฐบาลได้ทำ ให้ประชาชนได้รู้ข่าวสารหรือเปล่า?
ตอบคำถาม 2 ข้อนี้ได้ แล้วค่อยคุยถึงเหตุผลอื่นๆกันครับ 300 ล้าน ไม่มากแต่ก็เป็นภาษีประชาชน แทนที่จะเอาเงินนี้ไปสร้างสิ่งใหม่ สู้เอาไปปรับปรุงของเก่าที่มีอยู่ให้อยู่ในสภาพดี ใช้งานได้ และเก็บคุณค่าเดิมๆที่เป็นประวัติศาสตร์ไว้ ไม่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าหรือครับ?
นี่คือบรรยากาศอาลัย “ตึกนารีสโมสร” สถานที่ที่เคยปั้น “นักการเมือง” ให้ก้าวสู่ตำแหน่งสำคัญมาหลายคน และคำถามจาก “สื่อมวลชน” ถึงความเหมาะสมในการปรับปรุงสถานที่ที่อยู่คู่ “ทำเนียบรัฐบาล” หลังนี้มาอย่างยาวนาน