ผู้ว่าฯกฟภ.แจงโครงการไฟฟ้า 800 เมกะวัตต์-"น้องชาย"นั่งบอร์ดเอกชน ไร้อำนาจ
ผู้ว่าฯ กฟภ. รับเคยประชุมพิจารณาบ.เอกชนร่วมโครงการฟฟ.แสงอาทิตย์ 800 เมกะวัตต์ แต่มติให้ชะลอรอรัฐบาลใหม่ กรณีน้องชายเป็นบอร์ดเอกชน ชี้ตำแหน่งอิสระ ปฏิบัติเท่าเทียมรายอื่น บอกสื่อ"ใครพูดอะไรอย่าไปฟัง"
จากกรณีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกาศให้มีการยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 จากนั้น นายนำชัย หล่อวัฒนะตระกูล ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการโครงการฯ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณารายชื่อโรงไฟฟ้าชุมชนที่มีการเสนอเข้ามาโดยในจำนวนนี้มีเครือข่ายของบริษัทเอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) ถูกเสนอชื่อเข้ามาด้วย ขณะที่บริษัทเอสพีซีจีฯ นี้มีนายวันชัย หล่อวัฒนะตระกูล น้องชายฝาแฝดของนายนำชัยเป็นกรรมการบริษัทอยู่ด้วยนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อขอสัมภาษณ์นายนำชัย หล่อวัฒนะตระกูลถึงกรณีดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่านายนำชัยไปต่างจังหวัดและขอให้ผู้สื่อข่าวทำหนังสือแจ้งมาก่อนเพื่อนำเรียนให้นายนำชัยทราบ ผู้สื่อข่าวจึงยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเนื่องจากประเด็นนี้อาจเกี่ยวพันกับกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะเครือข่ายของบริษัทเอสพีซีจีฯ ที่นายวันชัย น้องชายฝาแฝดของนายนำชัยเป็นกรรมการบริษัทได้เสนอชื่อขอเข้าร่วมโครงการด้วย จึงต้องการให้นายนำชัย หรืออนุกรรมการรายอื่นๆ ที่ร่วมประชุมในวันที่ 11 มิถุนายน ได้ชี้แจงว่าบริษัทในเครือเอสพีซีจีฯเป็นบริษัทที่จะได้รับเลือกหรือไม่
ในที่สุด เลขานุการของนายนำชัยได้นำโทรศัพท์ของตนเองมามอบให้ผู้สื่อข่าวและแจ้งแก่ผู้สื่อข่าวว่า นายนำชัยอยู่ในสายแล้วและพร้อมให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์กับสำนักข่าวอิศรา
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานะของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ตอนนี้ยังดำเนินการอยู่หรือไม่ นายนำชัยกล่าวว่า ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวถูกชะลอไว้ก่อน ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากมีเงื่อนไข 3 ประเด็นที่ต้องรอพิจารณาจากรัฐบาลใหม่ เงื่อนไขประการที่หนึ่งคือจะทำต่อไหม ประการที่สองจะทำเท่าเดิมไหม
“และประการที่สาม เงื่อนไขนั้นคือจะใช้เงินกู้จากธนาคารออมสินเหมือนเดิมไหม และชาวบ้านจะถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมหรือไม่ เพราะธนาคารออมสินไม่ให้กู้แล้ว เมื่อติดล็อคอย่างนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้ เรายังไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ใครพูดอะไรอย่าไปฟัง” นายนำชัยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 11 มิถุนายน มีการประชุมพิจารณารายชื่อในเครือเอสพีจีซีมาด้วย 29 โรงใช่หรือไม่ และผลการประชุมเป็นอย่างไร นายนำชัยกล่าวว่า มีการเสนอมาแต่มติที่ประชุมไม่พิจารณา แล้วเราก็ส่งเรื่องให้กระทรวงพลังงานไปทบทวน มติที่ประชุมนั้นเขียนชัดเจนไว้เลยว่าไม่พิจารณา แล้วส่งเรื่องให้กระทรวงพลังงานทบทวนเชิงนโยบาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานะที่ชัดเจนของโครงการนี้ เพียงชะลอไว้แต่ไม่ได้ยกเลิกไปเลยใช่หรือไม่
นายนำชัยกล่าวว่า ชะลอไปก่อนจนกว่ามีรัฐบาลใหม่ และมีกระทรวงพลังงานเข้ามา
"เพราะกระทรวงพลังงานตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนกรรมการใหม่ มีกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีท่านประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธาน ดังนั้น ต้องรอจนมีรัฐบาลใหม่มาว่าจะทำหรือไม่ทำ ชาวบ้านจะยังเป็นผู้ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์ไหม และถ้ากู้จากออมสินไม่ได้แล้วจะกู้จากใคร ถ้ามีข่าวเรื่องเอสพีซีจีออกมาเพราะเขาเพิ่มราคาหุ้นตัวเองหรือเปล่า อย่าไปฟังเขา” นายนำชัยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายวันชัย น้องชายของนายนำชัยเป็นกรรมการบริษัทเอสพีซีจีฯ หากเอสพีซีจีฯได้รับเลือกให้ทำโครงการนี้ อาจถูกตั้งคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
นายนำชัยกล่าวว่า นั่นไม่ใช่ความจริง นายวันชัยเขาเป็นเพียงบอร์ดอิสระ ซึ่งไม่มีอำนาจในการบริหารกิจการของ เอสพีซีจีฯ เลย บอร์ดอิสระหมายความว่าเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ซึ่งไม่มีอำนาจบริหารในเอสพีซีจีฯ
“เขาไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรในเอสพีซีจีฯเลย และตอนนี้โครงการนี้ก็คืนไปแล้ว ไม่มีอะไรทั้งสิ้น” นายนำชัยระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่บริษัทเอสพีซีจีฯ ของนางสาววันดี กุญชรยาคง เป็นผู้เคยได้รับอนุมัติสัญญา จาก กฟภ. มากกว่า 200 เมกะวัตต์ นายนำชัยกล่าวว่าเราไม่ได้ให้ใบอนุญาตแค่เอสพีซีจีฯ โรงเดียว กฟภ.ให้ใบอนุญาตหลายโรงไฟฟ้า และให้ไปนานมากแล้ว ไม่ใช่เพิ่งให้วันนี้ ซึ่งนางสาววันดีเขาก็รับสัญญาไปแล้วก็ไปดำเนินการของเขา แต่ละคนก็รับไปแล้วไปดำเนินการตามสัญญาของเขา ร้อยสัญญาของแต่ละคน ยืนยันว่าให้ทุกคนที่มาขอและมีความพร้อมที่จะทำอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ได้ให้ใครเป็นพิเศษ ไม่ได้ให้นางสาววันดีคนเดียว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการผลักดันให้บริษัทพีอีเอเอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA ENCOM) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กฟภ. ให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้
นายนำชัยกล่าวว่า หลักการเดิมของโครงการคือให้ชาวบ้านถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วให้ กฟภ. กับธนาคารออมสินไปช่วยบริหารจัดการ โดย กฟภ.ไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น
“เราไม่ได้ลงทุน มีแค่พีอีเอกับธนาคารออมสินไปบริหารจัดการ ไม่เกี่ยวกับพีอีเอเอ็นคอมฯ เลย เพียงแต่ว่าถ้าเรารับบริหารจัดการ เราก็อาจจะให้พีอีเอเอ็นคอมฯ ไปช่วยดูเรื่องเทคนิคให้ แต่ไม่ได้ลงทุน” นายวันชัยระบุ และกล่าวย้ำด้วยว่าตอนนี้ไม่มีมติอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับโครงการนี้ ยืนยันว่าชะลอไปทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า นายนำชัยเป็นรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบ.พีอีเอเอ็นคอมฯ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2553 ใช่หรือไม่ นายนำชัยตอบว่าปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแล้ว
ภาพนายนำชัยจาก : www.bangkokbiznews.com