แฉกลวิธีขนยาจากเหนือสู่ "ชายแดนใต้" วางระบบคัตเอาท์ 15 ขั้นตอน!
กว่าสิบปีของสถานการณ์ไฟใต้ บทสรุปของหน่วยงานด้านความมั่นคงชี้ชัดว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในดินแดนปลายสุดด้ามขวานไม่ได้มีปัจจัยจากการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบโดยกลุ่มขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่ายังมีปัจจัยอื่นผสมอยู่ด้วย โดยเฉพาะ "ยาเสพติด"
"ที่ชายแดนใต้ ความรุนแรงเกิดจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่งแน่ๆ คือยาเสพติด" เป็นคำยืนยันจาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมอธิบายว่า "ขบวนการค้ายาทำให้วัยรุ่นที่ใช้ยาถูกชักจูงให้ร่วมกระทำผิดได้ง่าย เสพติดแล้วใช้ยามากขึ้นก็จะมีนายทุนนำยาไปแลกเปลี่ยนต่อรองให้ทำเรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่เด็กชายแดนใต้จะเริ่มจากการดื่มน้ำกระท่อมในชุมชน แล้วขยับเป็นยาบ้า และไอซ์"
เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวต่อว่า ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซีย ทำให้เป็นทางผ่านยาเสพติดจากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นยังผสมปนเปไปกับผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมายอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น น้ำมันเถื่อน
"ที่ผ่านมาทั้งกองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ป.ป.ส. มีข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือเครือข่ายสงขลา-จชต. (จังหวัดชายแดนภาคใต้) คือเครือข่ายของนายจรัส เหมนะ ส่งยาจากนอกพื้นที่เข้าไปจำหน่าย"
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา พล.ต.อ.พงศพัศ บอกว่า ใช้กระบวนการยึดทรัพย์เป็นหลัก นอกเหนือจากการปราบปราม จับกุม และสกัดกั้นด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝ่ายผู้ค้า โดยเฉพาะพวกตัวใหญ่ๆ ก็มีวิธีหลบเลี่ยง
"บางคนก็ใช้วิธีลอยตัวอยู่เหนือเครือข่าย มีหลักฐานโยงน้อย ทำให้ติดตามยาก และใช้ระบบคัตเอาท์ (ตัดตอน คนที่ร่วมในขบวนการไม่รู้จักกัน) เท่าที่เรามีข้อมูลพบว่า จากชายแดนภาคเหนือส่งถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคัตเอาท์ถึง 15 ขั้นตอน เช่น นำยาบ้าไปกองบริเวณชายแดนฝั่งเมียนมาร์ ให้ม้งขนข้ามแดนมา มีเครือข่ายไปรับต่อในฝั่งไทย ลำเลียงส่งตลาดไท เคลื่อนย้ายต่อเพื่อไปพักที่ จ.ราชบุรี ก่อนลงพื้นที่ภาคใต้ กว่าจะถึงต้องใช้ 15 ขั้นตอน วิธีการแบบนี้แม้เจ้าหน้าที่จับกุมคนในขั้นตอนที่ 2, 3 หรือ 4 ได้ ก็ไม่สามารถทำลายเครือข่ายได้ทั้งหมด" เลขาธิการ ป.ป.ส.ระบุ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพจากเว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ส.