นักวิชาการชี้บล็อกเว็บไม่ช่วยแก้ปัญหาสิงพนันบอล
นักวิชาการชี้บล็อกเว็บออนไลน์ไม่ช่วยแก้ปัญหามั่วสุมพนันบอล เเนะทุกฝ่ายต้องร่วมมือป้องกัน อาจารย์มธ.เผยบทลงโทษสิงพนันน้อย ชงยกเครื่องกม.การพนัน 2478 ใหม่
วันที่ 18 มิถุนายน 2557 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ จัดเสวนา NBTC Public Forum ครั้งที่ 3/2557 เรื่อง ‘ฟุตบอลโลก:เกมหรือการพนันกับบทบาทอันท้าทายของสื่อ’ ณ โรงแรม เซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ
ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยสถานการณ์การพนันฟุตบอลในประเทศไทยว่า ธุรกิจพนันบอลของไทยในปัจจุบันมีความเป็นธุรกิจออนไลน์มากขึ้น โดยจากการสำรวจ ปี 2556 พบประชาชนทั่วไปเล่นพนันผ่านทางเว็บไซต์สูง 18.58% โต๊ะบอล 17.60% และเล่นระหว่างเพื่อน 19.55% ซึ่งคนกลุ่มนี้จะรับข้อมูลจากช่องทางสื่อออนไลน์มากที่สุด 55.32% สื่อโทรทัศน์ 36.17% และสื่อหนังสือพิมพ์ 34.57% และยอมรับเคยเป็นตัวกลางหรือเจ้ามือรับแทงพนันบอลสูงถึง 22.70%
สำหรับการเล่นพนันบอลในกลุ่มนักศึกษา พบเล่นพนันผ่านทางเว็บไซต์สูง 31.10% โต๊ะบอล 74.51% โดยจะรับข้อมูลผ่านทางสื่อออนไลน์ 82.57% สื่อโทรทัศน์ 34.13% และสื่อหนังสือพิมพ์ 30.96% และยอมรับเคยเป็นตัวกลางหรือเจ้ามือรับแทงพนันบอล 8.2%
ส่วนสาเหตุความนิยมเล่นพนันบอลออนไลน์ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ มธบ. ระบุว่า เกิดจากความสะดวกรวดเร็ว มีอัตราต่อรองหลากหลายและดีกว่า และมีความปลอดภัยมากขึ้นต่อการถูกปราบปราม ขณะที่ผู้รับพนันจะได้จำนวนเงินเดิมพันเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากกว่า มีความเป็นระบบมากขึ้น ที่สำคัญไม่ต้องจ่ายค่าสินบนกับเจ้าพนักงาน
ด้านผศ.ดร.จิรศิลป์ จยาวรรณ ศูนย์ศึกษาด้านการสื่อสารและการบริการครบวงจร ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า การพนันสามารถแบ่งได้ 3 ยุค คือ ยุคดั้งเดิม มีสถานที่เล่นพนันเป็นบ่อน ผู้เล่นจะต้องเดินเข้าไปเอง ยุคเทคโนโลยีล้ำสมัย มักถูกนำมาใช้ในการสนับสนุนการเล่นพนัน แต่ผู้เล่นก็ต้องเดินเข้าไปเอง และยุคปัจจุบันที่สามารถเล่นพนันผ่านโลกไซเบอร์
"แม้จะมีการปิดกั้นเว็บไซต์พนันบอลออนไลน์ ก็มิได้หมายความว่าการพนันดังกล่าวจะหมดไป เพราะผู้เล่นจะกลับไปเล่นในรูปแบบ 2 ยุคแรกอยู่ ตราบเท่าที่ยังต้องการเล่นพนัน ฉะนั้น การกำกับดูแลไม่ได้เป็นหน้าที่ของภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะช่วยกันลดปัญหานี้"
ขณะที่อาจารย์ไพศาล ลิ้มสถิต ศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขการพนันบอลออนไลน์ว่า ต้องเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนที่ทำงานด้านการเฝ้าระวังเว็บพนันผิดกฎหมายได้ทำงานเชิงรุกร่วมกับภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งข้อมูลเบาะแสเว็บพนันผิดกฎหมายไปยังเว็บไซต์หน่วยงานโดยตรงได้
นอกจากนี้ต้องยกเลิกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน พ.ศ.2478 และให้มีการตรากฎหมายควบคุมการพนันฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะปัจจุบันบทลงโทษเข้าข่ายผู้กระทำความผิดตามมาตรา 4 ทวิ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับเท่านั้น และแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 20 ด้วย
“กระทรวงมหาดไทยต้องประสานกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลการปิดเว็บไซต์พนัน โดยให้จัดทำเป็นรายงานประจำปีหรือ 6 เดือน เผยแพร่ต่อสาธารณชน และต้องมีการตรวจสอบ อายัดการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนัน” นักวิชาการศูนย์กฎหมายฯ กล่าว
ท้ายที่สุด นายธาม เชื้อสถาปนศิริ สถาบันการสื่อสาธารณะ (สวส.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ฝากข้อเสนอถึง กสทช.ให้รับรองสถานภาพองค์กรวิชาชีพที่ถูกตั้งขึ้นใหม่ และมาตรฐานจรรยาบรรณเนื้อหาที่ถูกนำเสนอเกี่ยวกับการพนัน รวมถึงรับรองสมาชิกวิชาชีพที่เข้าร่วมให้มีการนำเสนอข่าวกีฬาอย่างถูกต้อง ที่สำคัญ จะต้องทำหน้าที่วางบทบาทให้องค์กรวิชาชีพเป็นผู้พิจารณาความถูกผิดทางจริยธรรมกันเอง กสทช.เป็นเพียงองค์กรที่คอยลงโทษเท่านั้น เช่น สั่งปรับ เพิกถอนใบอนุญาต .