"ใจ"หยาม "จอน" นั่งที่ปรึกษา "กสทช." รับค่าตอบแทน 1.2 แสน/ด.
"ใจ"หยาม "จอน อึ๊ง ภากรณ์"นั่งตำแหน่งที่ปรึกษากสทช.รับค่าตอบแทน 1.2 แสน/ด. โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว ด้านพี่ชาย ไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องน้อง ยันทำงานในหน้าที่ตามความสามารถ เผยต้องทำรายงานประจำเดือน มีผลงานแสดงให้เห็น
จากกรณีนายจอน อึ๊ง ภากรณ์ ประธานมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ปรากฎรายชื่อเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ของ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. โดยได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 120,000 บาท นั้น
(อ่านประกอบ : รายชื่อ 31“ที่ปรึกษา”กสทช.รับค่าตอบแทน 100,000-120,000 บาท/เดือน)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่หลบหนีคดีหมิ่นสถาบันอยู่ในอังกฤษ และไม่เข้ารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) น้องชายนายจอน อึ๊ง ภากรณ์ ได้นำข่าวเรื่อง รายชื่อ 31“ที่ปรึกษา”กสทช.รับค่าตอบแทน 100,000-120,000 บาท/เดือน ของสำนักข่าวอิศรา ไปแชร์ต่อในเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "Giles Ji Ungakorn" พร้อมระบุข้อความว่า
"ถ้าหนึ่งในนั้นคือพี่ชายผมจริง คงต้องยืนยันก่อน ผมขอถุยๆๆๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยังนายจอน อึ๊งภากรณ์ เพื่อสอบถามความเห็นในเรื่องนี้ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยระบุว่า "ผมไม่ขอแสดงความเห็นในเรื่องนี้"
อย่างไรก็ตาม นายจอน ได้กล่าวชี้แจงถึงขอบข่ายอำนาจการทำงานในฐานะที่ปรึกษา กสทช. ว่า มีสัญญา มีข้อตกลงว่าจะต้องทำงานให้กับ กสทช. แต่ไม่ได้กำหนดเวลา แต่ต้องเป็นงานพอสมควร ต้องมีรายงานประจำเดือน มีผลงานที่ทำในเดือนนั้นๆ
"ผมเป็นที่ปรึกษาของคุณสุภิญญาก็แล้วแต่คุณสุภิญญา ขณะนี้มีการมอบหมายให้ผมเป็นคณะอนุกรรมการสองชุด แล้วก็หน้าที่โดยหลักเวลามีปัญหา หรือมีเรื่องประเด็นสำคัญ อาจจะเรียกมาประชุม หรือปรึกษา ทางโทรศัพท์ แล้วก็ทีมงานของคุณสุภิญญา จะส่งวาระการประชุม ประจำสัปดาห์ ของบอร์ด มาให้อ่าน วาระต่างๆ และมีความเห็นอย่างไร ก็ให้เสนอไป"
นายจอน ยังกล่าวต่อไปว่า งานที่รับผิดชอบอยู่ในคณะอนุกรรมการด้านเนื้อหารายการ เพราะน.ส.สุภิญญา ได้รับเลือกมาเป็น กสทช ในฐานะ เป็น ผู้ที่พิทักษ์ เรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อ เพราะฉะนั้น ประเด็นส่วนใหญ่ที่ให้คำปรึกษา ก็จะเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพสื่อรวมถึงประเด็นเรื่องดิจิตอล ก็มีการส่งเอกสารให้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องวิทยุดิจิตอล
เมื่อถามย้ำว่า ต้องทำรายงานส่งกลับไปทุกครั้งที่มีการขอความเห็น นายจอน ตอบว่า "ส่วนใหญ่ ส่งเป็นอีเมลล์ แสดงความเห็นไป"
เมื่อถามว่า อะไรคือเหตุผลที่น.ส.สุภิญญาเลือกให้มาเป็นที่ปรึกษา นายจอน ตอบว่า "สุภิญญามีที่ปรึกษา 3 คน ผมเองในฐานะเคยทำงานเป็นเอ็นจีโอมาด้วยกัน และผมก็เคยเป็นบอร์ดของไทยพีบีเอส มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของบอร์ดคาสติ้งอยู่ และผมเคยทำงานเรื่องสื่อพอสมควร ส่วนคุณนคร ชมพูชาติเป็นนักกฎหมาย จะให้คำปรึกษาในประเด็น กฎหมาย ส่วนคุณต่อพงศ์ เสลานนท์ เป็นผู้เคลื่อนไหว เรื่องสิทธิ คนพิการ และการเข้าถึงสื่อของผู้พิการ"
เมื่อถามย้ำว่า ที่ปรึกษาทั้งสามนี้ ต้องทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้ง และมีการทำรายงานคำปรึกษาเสนอต่อสาธารณะหรืออย่างเป็นทางการหรือไม่ นายจอน ตอบว่า "เนื่องจาก เป็นที่ปรึกษา ส่วนตัว เพราะฉะนั้น การให้คำปรึกษา เป็นเรื่องระหว่างทีมงานของผมและคุณสุภิญญา แต่ที่ปรึกษา ทุกคน ต้องทำรายงานประจำเดือน ว่าเดือนนั้นได้ทำอะไรบ้าง แต่ว่าโดยฐานะตำแหน่งคือ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ดังนั้น เรื่องที่ให้คำปรึกษา คือเป็นเรื่องระหว่างกรรมการ คือ คุณสุภิญญากับที่ปรึกษา กับ กรรมการ"
"คุณสุภิญญาเอง เมื่อประชุมบอร์ด เขาต้องเลือกที่จะลงคะแนนนทางใดทางหนึ่งหรือเลือกที่จะแสดงจุดยืนอย่างใด อย่างหนึ่ง บางครั้งเขาก็จะขอความเห็นที่ปรึกษา" นายจอนระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนคร ชมพูชาติ เป็นอดีตกรรมการบริหาร @ThaiPBS ทนายความสิทธิมนุษยชน และเคยเป็นทนายความให้น.ส.สุภิญญา คดีชินคอร์ปฟ้อง400ล้านจนชนะคดี
(อ่านประกอบ : วิจารณ์ขรม! ที่ปรึกษา กสทช. รับเงินเดือนเป็นแสน จนท.ไม่เคยเห็นหน้า)