วสท.เล็งยื่นหนังสือถึง คสช.หวั่นโครงการน้ำล้มเหลวซ้ำรอยรบ.ก่อน
นักวิชาการชี้วสท.เตรียมยื่นหนังสือถึงคสช. เหตุต้องการเตือนโครงการน้ำ 3.5แสนล้านล้มเหลวมาแล้วจากรบ.ชุดก่อน ย้ำต้องทบทวน วางแผนให้รัดกุม ก่อนรื้อขึ้นทำใหม่
โรดแมพในการดูแลเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะหยิบยกโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทขึ้นมาสานต่อ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนกระทั่งนักวิชาการด้านน้ำและสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) เตรียมจะยื่นหนังสือ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อให้ คสช.มีคำสั่งยกเลิกโครงการลงทุนตามแผนบริหารจัดการน้ำดังกล่าว และให้ยุบสำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.)ด้วยนั้น
รศ.ดร.บัญชา ขวัญยืน หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าวกับสำนักข่าวอิศราถึงกรณีจะยื่นหนังสือถึงคสช. ว่า เราเพียงต้องการจะเตือนและบอกว่า โครงการนี้รัฐบาลชุดที่แล้วใช้เงินไป 1.2 แสนล้านบาทและล้มเหลวไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้น และเงิน 3.5 แสนล้านบาท โครงการแต่ละโครงการไม่มีความเชื่อมโยงกัน ขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ที่สำคัญเราเคยทำจดหมายเป็นข้อเสนอสิ่งที่ควรทำไปให้รัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองไม่ได้รับการใส่ใจ และข้อมูลของโครงการนี้มีการบิดเบือนมาโดยตลอด
“ดังนั้นเราเพียงต้องการบอกกับคสช.มีอะไรบ้างที่ควรจะกลับมาทบทวนว่ามีความจำเป็นและเหมาะสม”
รศ.ดร.บัญชา กล่าวถึงประเด็นหลักที่ต้องการเสนอคสช.คือ 1.หน่วยงานอย่างสบอช.ไม่มีความจำเป็นมีหน่วยงานอื่นที่เหมาะสมมากกว่า ที่สำคัญนักวิชาการที่เข้ามาแต่งตั้งโดยนักการเมืองและทำงานกันผิดขั้นตอน และไม่ได้รับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง 2.ถ้าจะทำโครงการพวกนี้ต้องวางแผนที่รัดกุม ทบทวนการศึกษาที่เป็นทางการแล้วว่าเขามีการเสนออย่างไร และบางอย่างไม่ได้ใช้เงินเท่าที่เสนอด้วย
“ที่สำคัญข้อเสนอของเราคืออยากให้คสช.ดูโครงการที่มีผลกระทบสูงคือไม่ควรทำหรืออาจต้องนำกลับไปทบทวน สำหรับโครงการไหนที่ไม่ชัดเจนก็ให้ทำการศึกษาใหม่อีกครั้ง และบางโครงการที่มีหน่วยงานทำอยู่แล้วและเป็นโครงการที่ไม่มีปัญหาก็สามารถทำได้เลยภายใต้งบประมาณที่มีอยู่ ที่สำคัญคสช.จะทำอย่างไรให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และวิธีการคัดเลือกนักวิชาการให้มีความเป็นกลางค่อนข้างมากเข้ามาทำงานแทนที่นักวิชาการที่รัฐบาลอยากได้แล้วเอาเข้าไปทำ”