คสช.ยันไม่รู้ที่อยู่ “จารุพงศ์-บก.ลายจุด” - ดูพฤติการณ์ก่อนจับชู 3 นิ้ว
คสช.ให้ “กอ.รมน. – มหาดไทย” ดูแลเรื่องปรองดอง ขอพรรคการเมือง - นักวิชาการเสนอแนวทางปฏิรูป เผย “สราวุฒิ” ยิงตัวตายไม่เกี่ยวกับหมายเรียกรายงานตัว คุมตัวคนต้านรัฐประหารแล้ว 6 ราย ผิดร้ายแรงขึ้นศาลทหาร ระบุดูพฤติการณ์ก่อนจับคนชู 3 นิ้วต้าน ยันไม่รู้ที่อยู่ “จารุพงศ์ – บก.ลายจุด – โกตี๋”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2557 ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวประจำวันตอนหนึ่งว่า กรณีเรื่องการปรองดอง และการปฏิรูป ซึ่งถูกระบุไว้ในระยะแรกนั้น ในช่วงนี้จะใช้กลไกในส่วนของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกระทรวงมหาดไทยเป็นคนดูแล โดยจะเริ่มจากระดับครอบครัว ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบลไปก่อน เพราะช่วงที่ผ่านมาปัญหาความขัดแย้งเริ่มจากในระดับครอบครัวทั้งสิ้น
“เกิดจากคนในครอบครัวมีทัศนคติ ความเชื่อทางการเมืองแตกต่างกัน ดังนั้นการเริ่มในจุดนี้เพื่อที่จะสร้างความสมาฉันท์ เชิญมาทำกิจกรรมร่วมกัน อาจจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจะไปสู่การปฏิบัติในเรื่องนี้อย่างจริงจังจนเข้าสู่ระยะที่ 2 ต่อไป” พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า สำหรับกรณีการปฏิรูปในช่วงแรก ๆ ก็เช่นเดียวกัน อยากให้พรรคการเมือง หรือภาคประชาสังคม นักวิชาการ หรือผู้มีบทบาทชี้นำในสังคม มีเวทีพูดคุย และหาแนวทาง หรือรวบรวมข้อมูลจากทุกฝั่งทุกฝ่าย ใช้เตรียมการไปสู่การขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้ไปสู่ระยะที่ 2 ด้วย
พ.อ.วินธัย กล่าวด้วยว่า กรณีการเสียชีวิตของนายสราวุฒิ ภูธรโยธิน ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดอุบลกรุงไทยกลการ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเชิญให้มารายงานตัวในวันที่ 3 มิถุนายนนั้น ขอชี้แจงว่า ขณะนี้เจ้าตัวมีปัญหาส่วนตัว ปัญหาเรื่องธุรกิจ รวมถึงเรื่องโรคประจำตัวเรื้อรั้ง ส่งผลมีการใช้อาวุธปืนทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต โดยข้อมูลเหล่านี้ได้รับมาโดยตรงจากญาติผู้เสียชีวิต ดังนั้นต้องชี้แจงเกรงว่าประชาชน หรือสื่อเองจะนำมาเชื่อมโยงกับการเรียกมารายงานตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ควบคุมบุคคลที่ต่อต้านรัฐประหารกี่คน และปฏิบัติการถึงไหนแล้ว พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ล่าสุดคือ 6 คน โดยจะนำไปตรวจสอบก่อนว่าผิดอย่างไรบ้าง ถ้าพนักงานสอบสวนมีความเห็นต้องดำเนินการอย่างไรก็ว่าไป เพราะวิธีดำเนินการมีหลายรูปแบบ บางคนอาจมีการตักเตือน และปล่อยตัวไป ส่วนบางคนมีฐานความผิดรุนแรง อาจต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ต้องดูทางพิจารณาพนักงานสอบสวน อัยการ และศาล ว่ามีความเห็นอย่างไร
“ส่วนความผิดที่ต้องขึ้นศาลทหารนั้น ก็ต้องดูว่ามีลักษณะความผิดอย่างไร ถ้ามีความเห็นให้สั่งฟ้อง ก็ต้องฟ้องที่ศาลทหาร เพราะความผิดนั้นน่าจะเกี่ยวกับความมั่นคง” พ.อ.วินธัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการชู 3 นิ้วเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารนั้น จะถูกจับหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ต้องดูหลาย ๆ อย่างเป็นองค์ประกอบ ดูบริบทพฤติการณ์ขณะนั้น รวมถึงท่าที หรือเจตนาว่าเป็นการยั่วยุหรือไม่ ซึ่งก็อยู่ที่ดุลยพินิจของทหารอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ดีคงไม่สามารถไปออกกฎข้อห้ามได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีบุคคลที่ถูกเชิญเข้ารายงานตัวแต่ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ เช่น นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการอย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเพื่อติดตามควบคุมตัวกลับมา
ผู้สื่อข่าวถามว่าดำเนินการสืบสวนจนทราบที่อยู่ของบุคคลดังกล่าวหรือยัง พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ข้อมูลทางด้านการข่าวยังไม่ได้แจ้งรายงานความคืบหน้า โดยขณะนี้ก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่าใครอยู่ที่ไหนกันบ้าง ซึ่งคาดว่าคงอยู่ระหว่างการติดตามเพื่อเตรียมควบคุมตัวกลับมา
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก bangkokbiznews