ระเบิดเพลิงเผาร้านชำเก่าแก่ในยะหา
ร้านขายของชำเก่าแก่ของ อ.ยะหา ถูกระเบิดเพลิงของคนร้ายจนไฟเผาวอดทั้ง 3 คูหา ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ เผยเปิดขายตั้งแต่รุ่นพ่อ เป็นแหล่งรวมสินค้าทุกชนิดให้ชาวบ้านทั้งไทยพุทธ-มุสลิมได้เลือกซื้อมานานปี ส่วนที่ อ.เมืองยะลา โค่นต้นไม้ขวางถนน ขึงป้ายผ้า ด้านรถไฟเปิดให้บริการตามปกติแล้วหลังปิดซ่อมรางครึ่งเดือน
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงวิกฤติและมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเวลา 05.40 น.วันเสาร์ที่ 31 พ.ค.2557 พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผู้กำกับการ สภ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 98 ถนนสันติราษฎร์ ตั้งอยู่หัวมุมถนนสุขาภิบาล 2 เขตเทศบาลตำบลยะหา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิง และชุดกู้ชีพกู้ภัยรุดไปสกัดเพลิง
ทั้งนี้ ที่เกิดเหตุเป็นร้านชำของ นายวรวัฒน์ โลหะวิจารณ์ อายุ 52 ปี เป็นห้องแถวเรือนไม้ 2 ชั้น 3 คูหา เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาคารเป็นไม้ สภาพเก่า ซึ่งนับเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานในพื้นที่ อ.ยะหา กว่า 10 คันช่วยกันฉีดน้ำ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปไหม้ห้องข้างเคียงได้ แต่เพลิงได้เผาผลาญอาคารร้านชำทั้งหมด 3 คูหา ยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ 05.30 น. ขณะที่ นายวรวัฒน์ เจ้าของบ้านพร้อมครอบครัวกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวชั้นล่างจำนวน 2 ครั้ง เมื่อลงไปดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บริเวณด้านข้างของบ้านด้านที่ติดถนนสุขาภิบาล 2 และลุกลามอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถเก็บทรัพย์สินใดๆ ได้ทัน ได้แต่พาครอบครัววิ่งหนีเอาชีวิตรอดไว้ก่อน
สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ยะหา โดยการแอบนำระเบิดแสวงเครื่องพร้อมแกลลอนน้ำมันเบนซินไปวางไว้ด้านข้างร้าน แล้วตั้งเวลาจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ เมื่อระเบิดทำงานก็เกิดเพลิงลุกไหม้จนร้านชำได้รับความเสียหายทั้งหมดดังกล่าว
จากการตรวจสอบข้อมูลของร้านขายของชำแห่งนี้ พบว่าเป็นร้านเก่าแก่ของชาวบ้านไทยพุทธที่ตั้งอยู่ในเขต อ.ยะหา เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นบิดาของนายวรวัฒน์ เป็นร้านที่มีสินค้าให้เลือกทุกอย่าง และขายดีมาก ลูกค้ามีทั้งไทยพุทธและมุสลิม ขณะที่อาคารไม้ 2 ชั้นก็เป็นอาคารเก่าแก่ ปลูกสร้างมาหลายสิบปี เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้จึงสร้างความเสียหายในหลายมิติ โดยชาวบ้านในเขตเทศบาลทั้งไทยพุทธและมุสลิมต่างจับกลุ่มคุยกันเรื่องเรื่องดังกล่าว
โค่นต้นไม้ขวางถนน-ขึงป้ายผ้าที่เมืองยะลา
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา ร.ต.อ.ประภาส ทองมา พนักงานสอบสวน สภ.ลำใหม่ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายตัดโค่นต้นไม้และขึงป้ายผ้าเขียนข้อความเป็นภาษามลายู ตัวอักษรรูมี บริเวณริมถนนสายบ้านต้นยอ-บ้านทุ่งคา หมู่ 3 ต.ลำใหม่ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร
ในที่เกิดเหตุพบต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นขวางถนน 1 ต้น ใกล้ๆ กันมีป้ายผ้าขนาด 1x2 เมตร ขึงอยู่กับต้นไม้ เขียนข้อความว่า "PATANI MERDIKA" (เอกราชปาตานี) ตรวจสอบทั่วบริเวณไม่พบสิ่งแปลกปลอมหรือวัตถุอันตราย จึงเร่งเคลื่อนย้ายต้นไม้ให้พ้นทาง และเก็บป้ายผ้าไปตรวจสอบ เบื้องต้นสอบถามชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ ไม่มีใครเห็นผู้กระทำ
ยิงพ่อค้าขายลูกชิ้น – สมาชิก อบต.
ต่อมาเวลา 20.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายดอเล๊าะ โละมะ อายุ 46 ปี พ่อค้าขายลูกชิ้น อยู่บ้านเลขที่ 81/6 หมู่ 5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ นายดอเล๊าะ ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ดัแปลงเป็นรถขายลูกชิ้น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เดินทางกลับบ้านพัก โดยใช้เส้นทางถนนสายชนบทในหมู่บ้านลีเช็ง หมู 5 ต.จะกว๊ะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.เวลา 07.55 น. คนร้ายจุดชนวนระเบิดบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน บ้านคลองช้าง หมู่ 4 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อหวังประทุษร้ายทหารสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 8032 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 (ร้อย ร.8032 ฉก.ปัตตานี 21) ขณะกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณดังกล่าว แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
วันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ค. เวลา 18.10 น. คนร้าย 1 คนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมะรีเป็น เจะปอ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/2 บ้านคอลอกาเอ หมู่ 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิตคาที่ขณะกำลังนั่งชมการแข่งขันฟุตบอลอยู่บริเวณเต็นท์ข้างสนามฟุตบอลของโรงเรียนบ้านบาเจาะ โดยคนร้ายเดินเข้ามาด้านหลัง และใช้อาวุธปืนพกจ่อยิงในระยะประชิด ทั้งนี้ นายมะรีเป็น เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) บาเจาะด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
รถไฟชายแดนใต้เปิดแล้วหลังซ่อมรางเสร็จ
ด้านความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดสะพานรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 1102 บ้านฮูลูปาเร๊ะ หมู่ 1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา จนสะพานได้รับความเสียหายอย่างหนัก รถไฟสายท้องถิ่นทั้งขึ้น-ล่อง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไม่สามารถเดินรถได้ และต้องปิดบริการเพื่อซ่อมรางชั่วคราวนั้น
ล่าสุดเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 30 พ.ค. รถไฟทุกขบวนสามารถเดินรถได้ตามปกติแล้ว โดยเป็นการเปิดให้บริการเร็วกว่าที่กำหนดไว้เดิม คือ วันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. ทั้งนี้ รถไฟขบวนแรกที่ออกจากสถานีสุไหงโก-ลก เวลา 06.00 น. คือ ขบวนที่ 448 ปลายทาง จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับบรรยากาศที่บริเวณสถานีรถไฟยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นั้น มีประชาชนไปรอขึ้นรถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่องอย่างคึกคัก ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-3 สภาพร้านขายของชำเก่าแก่ในเขตเทศบาลตำบลยะหาที่ถูกวางระเบิดเพลิง ทำให้เพลิงลุกไหม้จนวอดทั้ง 3 คูหา
4 สถานีรถไฟยะลาคึกคักหลังรถไฟกลับมาให้บริการตามปกติ
ภาพโดย : อะหมัด รามันห์สิริวงศ์