“บิ๊กตู่”วางโร้ดแม็พบริหารปท. 3 ระยะ ตั้งสนช.-สภาปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

“ประยุทธ์” ยันต้องทำทุกอย่างให้ที่เข้าทาง ไม่ใช่เวลาพูดถึงอดีต แบ่งแนวทางบริหาร 3 ระยะ เล็งตั้งธรรมนูญปกครอง – สนช. – สภาปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง ติงสื่อให้นำเสนอข้อเท็จจริง – เตรียมดำเนินคดีกลุ่มต้านรัฐประหาร ประสานต่างประเทศเรียกคนหนีรายงานตัว “วีรพัฒน์” ติดต่อกลับแล้ว อ้างติดงาน

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง และ พ.อ.วีระชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงถึงความคืบหน้าประจำวัน

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ในการประชุม คสช. วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. เปิดเผยถึงแนวทางการบริหารประเทศซึ่งเป็นแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก ใช้ระบบบริหารราชการปกติ และกฎหมายพิเศษ เพื่อขับเคลื่อนงานต่าง ๆ ระยะที่ 2 สร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสม เพื่อเข้าสู่การมีธรรมนูญปกครอง สภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และระยะที่ 3 เป็นกระบวนการนำไปสู่การปกครองระบอบประชาธฺปไตยที่สมบูรณ์ด้วยการเลือกตั้ง ดังนั้นขอให้ทุกส่วนราชการตั้งใจดำเนินการในระยะแรกให้บรรลุไปโดยเร็ว เพื่อไปสู่ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไป

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมได้ให้คณะทำงาน 6 ฝ่ายรายงานผลการปฏิบัติงานตามโครงสร้างการกำหนดขอบเขตด้วย โดยหัวหน้า คสช.ได้กำชับในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับการทำความเข้าใจ ในการทำงานของส่วนราชการต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการงบประมาณที่กำลังดำเนินการ รวมถึงแนวทางในการใช้กลไกในการเข้ามาบริหารงบประมาณ นอกจากนี้กระบวนการร่างกฎหมาย และกระบวนยุติธรรม ได้ให้แนวทางคงหลักการ โดยคำนึงให้กระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเข้มแข็ง เป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรม

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่ออีกว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนบางสำนัก ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกับแห่งอื่นๆ โดยเฉพาะประเด็นการปล่อยตัวแกนนำ นปช. ที่บางสื่อนำเสนอว่าปล่อยหมด แต่บางสื่อนำเสนอว่ายังปล่อยไม่หมด ทาง คสช.มองว่ามีนัยแอบแฝง ซึ่งขอย้ำเตือนว่า คสช.มีการติดตามการทำงานของสื่อมวลชน เพื่อป้องกันความสับสน และคลาดเคลื่อนของข้อเท็จจริงด้วย สำหรับประเด็นการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปตามดำริของ หัวหน้า คสช.นั้น ขณะนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กำลังเป็นผู้ดำเนินการ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวด้วยว่า หัวหน้า คสช.มีแนวคิดที่จะสื่อสารและรายงานสถานการณ์และการทำงานของ คสช.ให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งอยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบ ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของหัวหน้า คสช.ในฐานะที่เข้ามาบริหารประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดการปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ระบุว่า หัวหน้า คสช.ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ งานทุกอย่างให้นับตั้งแต่เข้ามาทำงานคือวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหัวหน้า คสช.ไม่เคยพูดถึงเรื่องอดีต

“ท่านต้องการรันทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องอดีต และงานทุกอย่างเริ่มตี้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ท่านเคยพูดต่อวงประชุมต่าง ๆ ว่า เมื่อผมผูกเชือกรองเท้า ผมเดินทันที ไม่หันไปมองข้างหลัง” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว

ส่วน พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และเป็นการทำผิดกฎหมาย มีทั้งการทำลายทรัพย์สินทางราชการ การฝ่าฝืนประกาศของ คสช. และมีการทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานด้วย ซึ่งทั้งหมดจะต้องถูกดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานไว้ และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป

“ฝากไปถึงประชาชนที่อาจไม่เข้าใจว่า ขณะนี้เราอยู่ในช่วงเวลาไม่ปกติ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการตามมาตรการต่างๆให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ส่วนงานอื่นๆได้ขับเคลื่อนต่อไปได้” พ.อ.วินธัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีบุคคลที่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัวต่อ คสช.อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ทางคสช.จะมีการดำเนินการติดตามตัวอย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เบื้องต้นสำหรับผู้ที่มีท่าทีขัดขืนชัดเจนก็ได้มีการการระงับธุรกรรมทางด้านการเงิน รวมไปถึงความพยายามในการติดตามตัว เนื่องจากผิดประกาศและคำสั่ง คสช. ส่วนผู้ที่มีกระแสข่าวว่าหลบหนีอยู่ในประเทศข้างเคียง ก็ได้มีกระบวนการประสานงานระหว่างประเทศแล้ว

ขณะที่ พ.อ.วีรชน กล่าวว่า ส่วนกรณี นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ต่างประเทศนั้น ล่าสุดนายวีรพัฒน์ได้ติดต่อมายัง คสช.แล้ว โดยระบุว่า ไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวได้ตามกำหนด เนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งทาง คสช.ได้แนะนำให้ทำหนังสือชี้แจงยื่นแจ้งมาอย่างเป็นทางการ