มทภ.1 เผย “บิ๊กตู่” สั่งล่ากลุ่มติดอาวุธขั้นเด็ดขาด ยันแกนนำแดงปลอดภัย
มทภ.1 แจงแนวทางปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ยัน “ประยุทธ์” ยอมไม่ได้กลุ่มติดอาวุธฆ่าคนไทยด้วยกันเอง สั่งไล่ล่าเต็มกำลัง เดินหน้าใช้มาตรการเบาไปหนักสำหรับกลุ่มต่อต้าน ดำเนินการเด็ดขาดผู้ไม่หวังดี อุบตัวเลขคนมารายงานตัว ยันแกนนำ นปช. ที่ถูกคุมตัวปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.วีระชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลงรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เป้นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติและนโยบายสำคัญ โดยมีทุกภาคส่วนราชการเข้าประชุมอย่างพร้อมเพียง พร้อมด้วยหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 77 จังหวัด
พล.ท.ธีรชัย กล่าวว่าถึงกรณีการรักษาความสงบเรียบร้อยใน 4 ประเด็น คือ 1.การควบคุมตัวบุคคลติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมายที่ไม่เข้ารายงานตัว กองกำลังติดอาวุธ และแกนนำปลุกระดมมวลชนทุกคน การเข้าตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยระมัดระวังการสร้างเงื่อนไขใหม่ เช่นการควบคุมตัวญาติพี่น้อง ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ กรณีที่ไม่สารถควบคุมตัวเป้าหมายได้ 2.การควบคุมสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง 5 ประเภท ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีการใช้สื่อยุยง ปลุกปั่น ชักชวนเข้าร่วมชุมชน และหมิ่นสถาบัน
“3.ด่านตรวจในพื้นที่รับผิดชอบได้เน้นการค้นอาวุธ วัตถุระเบิด สกัดมวลชนเข้ามาในพื้นที่ กทม. และ 4.ควบคุมพื้นที่ถึงระดับหมู่บ้าน ด้วยการทำความเข้าใจกับประชาชนในวัตถุประสงค์ 10 ประการ นโยบายเร่งด่วนอีก 5 ประการ โดยทำควบคู่กับนโยบายเร่งด่วน 7 ประการ และขั้นตอนการดำเนินการของ คสช. เป็น 3 ระยะ ด้วยการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบอย่างกว้างขวาง” พล.ท.ธีรชัย กล่าว
พล.ท.ธีรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมต่อต้าน โดยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เน้นควบคุมแกนนำ เจรจาทำความเข้าใจ พร้อมทั้งเข้าวางกำลังก่อนการชุมนุม โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักในการควบคุมพื้นที่ และคลี่คลายสถานการณ์ หลีกเลี่ยงความรุนแรง ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการบาดเจ็บ สูญเสียต่อประชาชน
ในส่วนของมณฑลทหารบก จังหวัดทหารบก ต้องเป็นหน่วยหลักในการบูรณการกำลังทุกภาคส่วน ทั้ง พลเรือน ตำรวจ ทหาร และ ภาคเอกชน ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ พร้อมประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรอย่างใกล้ชิด
“กำลังตำรวจเป็นกำลังที่สำคัญ เพราะเป็นหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ใกล้ชิดกับประชาชน รู้ว่าใครเป็นคนดี ใครเป็นโจร ขอให้ประสานงานกับหน่วยทหารในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ความปลอดภัยกับประชาชนทุกกลุ่มเท่าเทียมกัน” พล.ท.ธีรชัย กล่าว
พล.ท.ธีรชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภายในจังหวัด ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่จากทุกส่วนราชการนำมวลชนมาสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างกว้างขวาง รวมทั้งการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ถึงเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินการของ คสช.ด้วย ทั้งนี้หวังว่าจะได้เน้นความร่วมมือความสามัคคีจากทุกส่วนราชการ และคืนความสงบสุขให้กับประชาชน นำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุ่มเทเสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งไม่เลือกฝ่าย และอยากให้นำความมุ่งหวังไปแจ้งให้กับผู้บังคับหน่วย และกำลังพลในสังกัด ให้เข้าใจ หากมีผู้ใดขัดขวาง ละเว้น หรือให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่เสียประโยชน์ อันจะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และรายงานให้ คสช.ได้รับทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป
“ได้กำชับให้กองกำลังทุกกองทัพภาค กทม. ติดตามจับกุม กุล่มคนที่ติดอาวุธให้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาก็จับได้มากพอสมควร ซึ่งเขาเตรียมที่จะเข้ามาก่อเหตุกับคนไทยด้วยกันเอง และหัวหน้า คสช. ยอมไม่ได้ โดยจะใช้กองกำลังตำรวจทุกพื้นที่ ทุกภาค เป็นส่วนแรกที่จะเข้าไปดำเนินการ และให้ทหารเป็นผู้สนับสนุน พร้อมทั้งประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นในทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข” พล.ท.ธีรชัย กล่าว
พล.ท.ธีรชย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขของผู้ที่ถูกควบคุมตัว หรือผู้ที่มารายงานตัว ซึ่งในส่วนของ คสช. ก็มีการทยอยปล่อยตัวกับคนที่ถูกควบคุมตัว แต่ยืนยันว่าคนที่ถูกควบคุมตัวก็สบายดี ทั้งนี้กลุ่มที่ออกมาต่อต้าน ทาง คสช. รู้หมดแล้วว่าใครถูกจ้าง หรือมาด้วยความสมัครใจ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่ ส่วนคนที่ยังไม่เข้าใจก็ได้บอกตำรวจไปว่าให้เชิญตัวมาพูดคุย สำหรับที่คนปล่อยตัวไปแล้วได้มีการได้มีการเซ็นรับรองว่าปล่อยตัวแล้วจะไม่ไปปลุกปั่น หรือไปนำมวลชนมาชุมนุม และถ้าหากฝ่าฝืนก็จะมีมาตรการดำเนินการกับคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะรับเงื่อนไขดังกล่าว
“ในส่วนของแกนนำ นปช. ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว แต่ยืนยันว่าเขามีความเป็นอยู่ที่ดี กินได้ นอนหลับ ซึ่งถ้าถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีการปล่อยตัวออกมา แต่คนที่คดีติดตัวจะต้องถูกดำเนินคดีต่อ สำหรับคนที่ถืออาวุธสงครามถือว่าเป็นโจรก็ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด” พล.ท.ธีรชัย กล่าว