สภาลูกจ้างฯ ยื่นหนังสือ พท.ขึ้น 300 บาท สนง.ศก.คลังฯ หนุนไม่กระทบเงินเฟ้อ
130 องค์กรลูกจ้าง กราดหอการค้าหยุดค้านขึ้นค่าแรง สนง.เศรษฐกิจการคลัง ชี้แรงงาน 5.4 ล้านคนค่าจ้างต่ำกว่า 300 อัตราใหม่ไม่กระทบเงินเฟ้อ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยทั้งราคาน้ำมัน การหมุนเวียนแรงงานภาคเกษตร-อุตสฯ เชื่อรัฐบาลดูแลได้โดยควบคุมราคาสินค้า ลดค่าครองชีพ ลดภาษีนิติบุคคล
วันที่ 28 ก.ค.54 สภาองค์การลูกจ้าง สภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทยกว่า 130 องค์กร ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย เพื่อสนับสนุนนโยบายการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน นำโดยนายอินชวน ขันคำ เลขาธิการสภาองค์การลูกจ้าง
นายอินชวน กล่าวว่ามายื่นหนังสือเพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจพรรคเพื่อไทย ในการจะผลักดันนโยบายค่าแรง 300 บาท และวิงวอนสภาหอการค้าให้หยุดต่อต้าน เพราะต้นทุนที่กล่าวอ้างไม่เป็นความจริง คนงานในภาคการผลิตรู้ดีว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งภาคแรงงานพร้อมผลิตแรงงานคุณภาพ
ด้าน นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.ได้ประเมินว่าการปรับขึ้นอัตราค่าแรงเป็น 300 บาท จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อระดับเงินเฟ้อมากนัก และไม่กังวลว่าเศรษฐกิจจะโอเวอร์ฮีท เพราะการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อนั้นเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ใช่เฉพาะค่าแรงที่ปรับขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยจากราคาน้ำมัน ขณะเดียวกันยังมีหลายมาตรการที่รัฐบาลจะเข้ามาดูแล เช่น การควบคุมราคาสินค้า การลดค่าครองชีพ รวมถึงมาตรการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และการเสริมสภาพคล่อง เป็นการทดแทน
นายนริศ ยังกล่าว่า มีหลายอุตสาหกรรมที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ระดับต่ำกว่า 60% ซึ่งยังขยายกำลังการผลิตได้อีกมาก เมื่อยังไม่มีการผลิตก็ถือว่ายังไม่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ยกเว้นบางอุตสาหกรรมที่กำลังการผลิตใกล้เต็ม เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิคส์ นอกจากนี้ภาคแรงงานยังมีปัญหาขาดแคลน และมีการหมุนเวียนตามฤดูกาลของแรงงานภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ประเด็นเหล่านี้มีผลต่อการขยายตัวของเงินเฟ้อทั้งสิ้น
ทั้งนี้ สศค.ได้วิเคราะห์ว่ามีจำนวนแรงงานราว 5.4 ล้านคน ที่มีอัตราค่าแรงต่ำกว่า 300 บาท โดยอัตราใหม่ถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นถึง 40% ซึ่งหากมีการปรับจริง ผลที่เกิดขึ้นในทันทีคือจะทำให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ 2% .