เปิดใจ “2 ผู้เห็นต่างรัฐประหาร” ฉบับ พล.อ.ประยุทธ์

"...แต่ผมยอมรับว่าก็คิดไม่ถึงว่าทหารถึงขั้นจะจับเราเลยเหรอ เราแค่ประชาชนคนธรรมดาที่ถือกระดาษ A4 แค่แผ่นเดียว ไม่น่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคง .."

ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมประชาชนจำนวนหนึ่งที่มาร่วมชุมนุมต่อต้านการรัฐประหาร บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 พ.ค.2557

ในช่วงเย็นวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีโอกาศพูดคุยกับบุคคลทั้ง 2 รายที่ถูกจับกุมตัว ในเหตุการณ์ดังกล่าว 

นับจากบรรทัดนี้ไป คือ เหตุผล และข้อเท็จจริง ว่า ทำไม ผู้ชาย 2 คน นี้ ถึงเห็นต่าง กับการทำรัฐประหาร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการประเทศอยู่ในขณะนี้ 

------

นายเอ ( ขอปกปิดชื่อ )  

@ อะไรคือสาเหตุที่มาร่วมชุมนุมที่หน้าหอศิลป์

นายเอ : ผมมาเพื่อแสดงออกว่าผมอยากเลือกตั้ง และพอดีพรรคพวกเพื่อนฝูงอยากขอให้ถ่ายรูปส่งไปให้ดู

@ ช่วยเล่าสถานการณ์เมื่อถูกจับ?

นายเอ : เขาจับไปที่สนามเป้า คนที่โดนจับไปมีทั้งหมด 4 คน ตอนนี้ คนหนึ่งตอนนี้ไปต่างประเทศแล้ว เขาเป็นนักเรียนแพทย์ เขาจะไปญี่ปุ่นวันอาทิตย์นี้ อาเขาก็เลยมาประกันตัวไป ส่วนอีกคนก็ถูกพาไปเทเวศน์ ( หมายถึง ธนาพล อิ๋วสกุล ปัจจุบัน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ จ.ราชบุรี )  คนที่ไปญี่ปุ่น อาเขามารับไป เราดีใจกับเขาด้วยที่เขาได้ไปแล้ว

@ ตอนถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายที่สนามเป้า ได้รับการปฏิบัติอย่างไรบ้าง ?

นายเอ : ทหารเขาก็ดูแลดี ตอนเช้าซื้อข้าวมาให้ ตอนแรกเขาจะให้นอนรวมกันคนละมุม แต่เขาก็เปลี่ยนใจให้คนที่ไปเทเวศน์ ไปอยู่อีกห้องคนเดียว ส่วนอีกห้องก็มีผม มีคุณคนนั้น ( ชี้ไปที่ผู้ถูกจับกุมอีกคน ) และมีนักเรียนแพทย์ นอนฟูกกันคนละมุม แล้วในห้องก็มีทหารเกณฑ์ ประมาณ 6-7 คน นอนขวางประตูกระจกไว้ เขาคงคิดว่าเราจะหนี เราไม่หนีหรอก จะหนีได้ยังไง เวลาเข้าห้องน้ำก็จะมีทหารไปเฝ้าด้วย 1 คน

@ ตอนที่ถูกจับมาแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารบอกกล่าวหรือสอบถามอะไรบ้าง ?

นายเอ : ตอนจับไป เขาก็ถามว่าชื่ออะไร ทำงานอะไร เขาก็ถามว่าทำไมถึงมา ผมก็บอกว่าผมอยากเลือกตั้ง ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แล้วเพื่อนๆ เขาอยากเห็นรูป ผมก็จะมาถ่ายรูปไปให้เพื่อนดู

@ มีความคิดจะสู้คดีหรือเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านช่องทางใดๆ หรือไม่ ?

นาย เอ : ผมก็ไม่รู้จะสู้อะไรเขาได้ ผมก็เป็นคนธรรมดาคนนึง แต่คดีผมนี่ไม่มีอะไร ก็น่าจะปล่อยผมได้ และตอนนี้ผมเห็นข่าวบอกว่าผมเป็นเขมร ช่วยแก้ข้อเท็จจริงให้ผมด้วย ผมเป็นคนไทย ผมมีบัตรประชาชน
…

นาย บี ( ขอปกปิดชื่อ )

@ ช่วยเล่าถึงสาเหตุที่มาร่วมชุมนุมที่หน้าหอศิลป์ และเหตุการณ์ขณะถูกจับกุม ?

นายบี : ผมมาร่วมชุมนุมเพราะกลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์รวมตัวกันเพื่อที่จะต่อต้านการรัฐประหาร ตอนที่ผมทำงานอยู่ก็ได้เห็นข่าวสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย พอตอนเย็น เลิกงานเสร็จ ก็เห็นว่าเขามารวมตัวกันที่หอศิลป์ ผมก็ไปด้วย ก็ทำป้ายไป

ผมไปชุมนุมอย่างสงบ สันติ ไม่มีอาวุธ คนที่ไปวันนั้นก็ไม่มีแกนนำ เป็นคนธรรมดาทั้งนั้น ผมเองก็ไม่ได้เป็นแกนนำ ผมไปอยู่ที่นั่นประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วพอประมาณ 1 ทุ่ม ทหารก็ขึ้นมาบนสกายวอล์ค แล้วเขาก็ขึ้นมาจับผมที่สกายวอล์คเลย แล้วเขาก็บอกว่าละเมิดกฎอัยการศึก ผมก็ให้จับแต่โดยดี ไม่ได้ขัดขืนอะไรทั้งสิ้น

แต่ผมยอมรับว่าก็คิดไม่ถึงว่าทหารถึงขั้นจะจับเราเลยเหรอ เราแค่ประชาชนคนธรรมดาที่ถือกระดาษ A4 แค่แผ่นเดียว ไม่น่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคง

@ ช่วยเล่าสถานการณ์เมื่อถูกจับ ?

นาย บี: เมื่อผมโดนจับมาคนแรก ผมก็เห็นคนที่สองคือคุณธนาพล ก็ถูกจับมาขึ้นรถคันเดียวกัน แล้วต่อมาก็เห็นคุณลุง ถูกจับมาขึ้นรถคันที่อยู่หน้าผม

@ ตอนที่ถูกจับมาแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารบอกกล่าวหรือสอบถามอะไรบ้าง ?

นาย บี : เมื่อมาถึง มีการตรวจสอบข้อมูลแต่ละคนแล้ว เขาก็เริ่มรู้ว่าใครเป็นใคร ตอนแรก เจ้าหน้าที่เขาจะให้เรานอนรวมกัน แต่ต่อมามีเจ้าหน้าที่ทหารมารายงานอะไรบางอย่าง ก็เลยมีการแยกคุณธนาพล ( อิ๋วสกุล ) ออกไป

ทหารที่นอนเฝ้าเราในห้อง มีประมาณ 7 คน และที่อยู่ข้างนอกอีกที่เราเห็นประมาณ 10 กว่าคน แล้วบรรยากาศในค่ายนั้น ก็เนื่องจากตอนนี้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ที่นั่นก็เป็นศูนย์บัญชาการที่ต้องทำงาน 24 ชั่วโมงด้วย

@ ตอนถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายที่สนามเป้า ได้รับการปฏิบัติอย่างไรบ้าง?

นาย บี : ตอนที่เราโดนจับ ตอนอยู่บนรถ ยังใช้โทรศัพท์ได้อยู่ แต่พอมาถึงค่ายก็โดนยึดโทรศัพท์ ยึดทรัพย์สินและทำบัญชีบันทึกทรัพย์สินทั้งหมด แล้วตอนเช้า เจ้าหน้าที่เขาก็อนุญาตให้โทรหาญาติ แต่ไม่ให้บอกว่าอยู่ที่ไหน
เขาถามข้อมูลเบื้องต้น ชื่อ ที่อยู่ พ่อ แม่ ทำอะไรที่ไหน และตรวจสอบโทรศัพท์ทุกคน ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และบัตรประชาชนที่ถ่ายสำเนาไปเขาก็รีบโทรแจ้งเลขที่บัตรเพื่อจะตรวจสอบข้อมูลของทุกคน

ตอนที่ถูกจับ เจ้าหน้าที่อ้างถึงกฎอัยการศึก แต่เขาไม่มีการแจ้งสิทธิ ใดๆ  

@ มีความคิดจะสู้คดีหรือเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านช่องทางใดๆ หรือไม่ ?

นาย บี : ก็มีความหวังว่าคงไม่นานหรอก เขาก็จะปล่อยตัวเรา เพราะตอนที่ผมถูกจับไปอยู่ที่ค่าย เจ้าหน้าที่เขาก็เข้าใจนะว่าเป็นความเห็นต่างทางการเมืองเท่านั้น ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาผมที่ชัดเจน ไม่มีความชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมายที่จะดำเนินการกับผม แต่ถ้าเขาใช้กฎอัยการศึกกับผม อย่างมากที่สุดคือการคุมตัว 7 วัน
 …

ทั้งหมดนี่ คือ เหตุผลและข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้น ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยจากบุคคลทั้งสอง ก่อนหน้าที่จะถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไป

และปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันข้อมูลชัดเจนว่า ได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วหรือยัง?  

ขณะที่ล่าสุดในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาแถลงข่าวกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า กรณีมีการปลุกระดมให้ผู้ชุมนุมประท้วงในสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก หรือไลน์ โดยมีค่าตอบแทนจูงใจ 400 - 1,000 บาท รวมถึงมีนายทุนตู้ม้าเถื่อนสนับสนุนมวลชนให้ต่อต้านเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง

"คสช.ชี้แจงถึงสถานการณ์ว่า คสช.กำลังเร่งพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกให้กับชาติบ้านเมือง และรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศอย่างเต็มกำลัง แต่ขอวิงวอนกับพี่น้องประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่ประสงค์หวังดี" พ.อ.ณัฐวัฒน์ ระบุ