สั่ง"ดร.กบ-ธงทอง"ตัวกลางประสานรบ.ยุติขัดแย้ง-เตรียมแผนส่งม็อบกลับบ้าน
"พล.อ.ประยุทธ์" สั่ง "ดร.กบ-ธงทอง" ตัวกลางประสานฝ่ายการเมืองยุติความขัดแย้ง ให้ปลัดมหาดไทย คุม "กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน" ห้ามเคลื่อนไหวต่อต้าน มอบคมนาคม วางแผนขนม็อบกลับบ้าน ระบุเหตุทหารต้องออกมา "เพื่อความสงบ" ประเทศแตกแยก "คนล้มตาย"พอแล้ว
แหล่งข่าวจากกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผอ.กอ.รส. ได้มอบหมายให้ นายอําพน กิตติอําพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานกับฝ่ายการเมืองของรัฐบาล ในการหาแนวทางยุติความขัดแย้งในประเทศไทยให้หมดไปโดยเร็ว
" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเหตุผลที่ทหารต้องออกมา เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศ บ้านเมืองแตกแยก คนล้มตายมาพอแล้ว เมื่อได้ปรึกษากันดีแล้ว จึงเห็นว่าทหารควรออกมา"
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า "ออกมาคราวนี้เอาจริง จะต้องแก้ไขปัญหาให้ยุติโดยเร็ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปควบคุมดูแลกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน ห้ามมีเหตุการณ์ปิดล้อม ยึดรถยึดอะไรจะต้องไม่มีด้วย"
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม รับไปจัดทำแผนรองรับการให้บริการขนส่งผู้ชุมนุมกลับภูมิลำเนาด้วย และขอให้หน่วยงานราชการทุกแห่ง กลับไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเองเพื่อรับใช้ประชาชน และยืนยันว่าการดำเนินงานของ กอ.รส. จะไม่กระทบหรือขัดหลักสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด
"การประชุมครั้งนี้ ใช้เวลาชั่วโมงเศษๆ โดยตอนหนึ่งของการประชุม นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าคดีความเป็นอย่างไรบ้าง ไปถึงไหนแล้ว เรื่องที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวน ก่อนจะสอบถามถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ (อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ) ว่ามาเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ เมื่อทราบว่านายธาริต มาร่วมประชุมด้วย ก็ถามถึงเรื่องการฟ้องร้องคดีต่างๆ พร้อมระบุว่า พอได้แล้วนะ ถ้าจะฟ้องอะไรอีก ให้มาฟ้องผม ซึ่งนายธาริต ก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไร นอกจากบอกว่า ครับๆๆๆ"
รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ระบุถึงการเลือกตั้งด้วย โดยเน้นย้ำว่าหากบ้านเมืองไม่สงบเลือกตั้งไปก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก