ถาวร เชื่อผบ.ทบ.ขยับใช้ยาแรง หวังคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความรุนแรง
แกนนำ กปปส. ปรับการชุมนุม หลังมีการประกาศกฎอัยการศึก ย้ำชัดการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ รอดูท่าที จะชุมนุมตามเงื่อนไขตามที่กองทัพบกกำหนด เชื่อการข่าวของทหาร รู้มีกองกำลังติดอาวุธพยายามก่อความไม่สงบเกิดขึ้น จึงอยู่นิ่งไม่ได้
วันที่ 20 พฤษภาคม นายถาวร เสนเนียม แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ให้สัมภาษณ์วิทยุ FM 101 ภายหลังที่มีการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เมื่อช่วงเวลา 03:00 น.โดยมองว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกประกาศกฎอัยการศึก เป็นการใช้ยาแรง เพื่อควบคุมสถานการณ์
“การข่าวของทหารคงรู้ว่ามามีกองกำลังติดอาวุธพยายามก่อความไม่สงบเกิดขึ้น อีกทั้งอาจมีความรุนแรงมากขึ้น และมีการจับอาวุธได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่จ.นครนายก ดังนั้นทหารคงนิ่งดูโดยไม่ขยับอะไรคงไม่ได้ ด้วยมีการนำอาวุธเข้ามาทางด้านตะวันออก และจากทางเหนือ”
สำหรับการเคลื่อนไหวของ กปปส. ต่อจากนี้ นายถาวร กล่าวว่า กปปส.ขับเคลื่อนมาถึงขนาดนี้ คงกลับบ้านไปหวังลมๆ แล้งๆ ไม่ได้ ดังนั้นจะชุมนุมในเงื่อนไขตามที่กองทัพบกประกาศมา ส่วนแผนการเดินขบวน หรือนัดให้รัฐวิสาหกิจหยุดงาน ก็ต้องหยุดไปก่อน
แกนนำ กปปส.กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้ครั้งสุดท้ายว่า กปปส.ได้ใช้แนวทางของวุฒิสภาดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 172 อีกทั้งถึงขั้นนี้ทุกฝ่ายก็ยอมรัฐว่า ความเป็นคณะรัฐมนตรีได้หมดไปแล้ว คนที่เหลืออยู่ทำหน้าที่รอรัฐบาลใหม่เท่านั้น ฉะนั้น สมาชิกวุฒิสภาสามารถทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีได้
เมื่อถามถึงชื่อนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของไทย จำเป็นหรือไม่ที่ กปปส.ต้องคัดกรองก่อน นายถาวร กล่าวว่า การเลือกนายกฯ เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา พร้อมยอมรับว่า มีความกังวลพอสมควร แต่ขอให้คนที่หาญกล้ามารับตำแหน่งนายกฯ คำนึงถึงการปฏิรูปประเทศไทยอย่างน้อย 5 เรื่องตามข้อเสนอของกปปส.ด้วย