“จารุพงศ์”ร่อนหนังสือด่วนห้าม ขรก.ร่วม“สุเทพ”ยันรบ.มีอำนาจอยู่
“จารุพงศ์” ร่อนหนังสือด่วนที่สุด สั่งห้าม “ปลัดมหาดไทย – อธิบดีกรม – ผู้ว่าฯ – ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ” ปฏิบัติตามคำสั่ง “สุเทพ” ยันรัฐบาลยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ระบุหากขัดขืนอาจนำไปสู่โทษทางวินัย อาญา และแพ่งได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง ปลัดกระทรวงมหาดไทย, รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, อธิบดีกรม, ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยสั่งห้ามข้าราชการทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมกาประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่เตรียมเรียกพบปลัดกระทรวง และข้าราชการทุกหน่วยงาน ทั้งนี้หากข้าราชการคนใดปฏิบัติตามจะนำไปสู่การพิจารณาโทษทางวินัย รวมไปถึงอาจมีการพิจารณาคดีทางอาญาและแพ่งด้วย
โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ขอแจ้งให้ทราบว่า การกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขัดกับมาตรา 68 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหกษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ซึ่งนายสุเทพ และพวก ได้ถูกออกหมายจับ ฐานเป็นกบฏดังที่ได้ทราบโดยทั่วไป แต่นายสุเทพ และพวก ก็มิได้หยุดพฤติการณ์อันเป็นกบฏ ทั้งยังบังอาจตั้งตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และข่มขู่ข้าราชการให้ไปรายงานตัวดังกล่าวข้างต้น
“กระทรวงมหาดไทย ขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 181 โดยชอบ และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับบัญชาข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2553 ทุกประการ หากข้าราชการผู้ใดปฏิบัติตามคำสั่งของนายสุเทพ จะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้อื่น ซึ่งมิใช่ผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย อันอาจนำไปสู่การพิจารณาโทษทางวินัย และหากก่อให้เกิดความเสียหาย ก็อาจมีการพิจารณาดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งต่อไป” หนังสือดังกล่าว ระบุ
(อ่านเอกสารฉบับเต็ม)