ยันปัญหาประเทศมีทางออก “วิชา” ยกประโยชน์ปชช.คือกฎหมายสูงสุด
“โฆษกป.ป.ช.” ลั่นกระบวนการทางการเมือง – กฎหมาย ไร้ทางตัน ระบุมีทางออกเสมอ เทียบภาษิตโบราณประโยชน์ของประชาชนคือกฎหมาย ยันไม่มีประเทศไหนร่างรธน.ครบหมด ชี้ทำเหมือนฝรั่งเศส ยกศาลรธน.แก้ไขปัญหา – เตรียมสอบพยานคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” อาจโยงเข้าคดี “บุญทรง”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 วิชา มหาคุณ โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในสภาวะวุ่นวายว่า ในฐานะเป็นคนไทยก็ต้องห่วงประเทศอยู่แล้ว เพราะถ้ายืดเยื้อยาวนานต่อไปมันก็ไม่ดี เพราะว่าการบริหารราชการแผ่นดินมันไม่ใช่ทำแบบเล่นขายของ แต่ต้องรับผิดชอบประชาชนกว่า 70 ล้านคน และต้องมีความรับผิดชอบที่มากกว่าการทำงานในระดับปกติ ไม่ใช่เหมือนทำงานในบริษัท
นายวิชา กล่าวว่า ทางออกที่พอมองเห็นในตอนนี้ บรรดาส.ว.ก็พยายามหาทางทำกันอยู่ ดังนั้นก็ต้องรอฟังว่าเขาจะทำอะไรอย่างไร อย่างไรก็ดีก็ให้กำลังใจเขา ซึ่งนายปานเทพ กล้าณรงค์หาญ ประธาน ป.ป.ช. ก็แสดงความรู้สึกในฐานะที่เขาเชิญไป แต่ว่าไม่ได้ให้ความเห็นอะไร เป็นเพียงแต่ว่าให้กำลังใจเท่านั้น เพราะว่าอยู่ในองค์กรบริหารด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 (สสร.50) กรณีเสนอนายกรัฐมนตรีคนกลางสามารถทำได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า อย่าให้พูดเลย เดี๋ยวมีคนหาว่าเข้าไปสนับสนุน หรือเป็นกบฏอีกคนหนึ่งอีก เอาเป็นว่า ในกระบวนการทางการเมือง และทางกฎหมาย มันไม่มีทางตัน มันมีทางออกเสมอ
“เขามีภาษิตกฎหมายอยู่ว่า ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฎหมายสูงสุด นี่คือหัวใจของกฎหมายมหาชน อะไรก็ตามที่เอื้อประชาชนส่วนใหญ่ อันนั้นคือกฎหมายสูงสุดมาตั้งแต่สมัยโรมัน” นายวิชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯควรมีที่มาอย่างไร และควรมีเร็ว ๆ นี้เพื่อประเทศจะได้มีทางออกหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ขนาดส.ว.ทั้งหลายยังคิดกันอยู่ มาถามตนช่วงสั้น ๆ คงไม่ได้ เพราะเรื่องอย่างนี้ต้องพูดกันเป็นวัน อย่างไรก็ดีถ้าเกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้มันดีอยู่แล้ว เพราะมันเป็นปัญหายืดเยื้อยาวนาน ต้องยอมรับว่า เราร่างรัฐธรรมนูญไม่สามารถที่จะทำให้ทุกอย่างอยู่ในกฎหมาย แต่ไม่มีประเทศไหนร่างรัฐธรรมนูญครบถ้วนหมด ฉะนั้นจึงต้องมีองค์กรที่ชี้ขาดหรือแก้ไข
“เพราะอย่างนั้นถึงได้มีการเสนอเหมือนประเทศฝรั่งเศส เวลาเขาเกิดทางตัน เขาจะให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคนชี้ขาด เพื่อการแก้ไขปัญหา ไม่ได้ชี้ว่าใครผิดถูก แต่ให้เป็นผู้แก้ไขปัญหา” นายวิชา กล่าว
นายวิชา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยว่า คดีอาญาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และต้องมาดูว่ามีข้อมูลอะไรขาดอยู่ เพราะว่าทางอาญาจะต้องรอบคอบ และมีข้อมูลยืนยันหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะส่งให้อัยการฟ้องหรือไม่ มันต้องมีเรื่องเจตนาทุจริต เจตนาละเว้น หรือเจตนาที่จะไม่กระทำการใด ๆ รวมถึงจะต้องพิจารณาพยานที่เขาส่งมาว่าจะเรียกใครมาให้ถ้อยคำในทางอาญาได้บ้าง
นายวิชา กล่าวอีกว่า ที่ประเมินว่า 2 เดือนจบคือต้องมีเป้าหมายไว้ แต่ว่าอาจจะเสร็จหรือไม่ในอนาคตใครจะรู้ แต่ก็ต้องเดินไปให้ถึงเป้าหมาย ส่วนพยานที่น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างมานั้น ดูแล้วก็มีบางคนที่มีความจำเป็น แต่ว่าก็ยังไม่ได้มีมติ ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะต้องพิจารณากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสามารถเชื่อมโยงกับคดีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วยหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า มีบางส่วน คือเราไต่สวนแล้ว แต่หากว่านายบุญทรงยืนยันข้อเท็จจริงที่ชัดเจนขึ้น ก็จะนำมาประกอบด้วย แต่ในคดีของนายบุญทรงคงจะไม่เสร็จพร้อมกับคดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาบริษัทต่าง ๆ มากมาย และก็ยังหลาย ๆ บริษัทที่บอกว่า ถูกกล่าวหาไป และยินดีให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์ ซึ่งเขาหวังว่าเราจะกันไว้เป็นพยาน
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากแฟ้มภาพสำนักข่าวอิศรา