แถลงการณ์ "ผบ.ทบ." 7 ข้อ เตือนห้ามใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงคราม
"ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็น ต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ"
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยคำแถลงการณ์ 7 ข้อ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ดังนี้ โดยมีเนื้อหาดังนี้
1.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกพวก ทุกฝ่ายที่กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความสงบเรียบร้อย ทั้งด้วยวิธีการทางกฎหมายก็ดี หรือการพูดคุยเจรจาก็ดี หรือสันติวิธีอื่นๆก็ดี
อย่างไรก็ตามการใช้ช่องทางตามกฎหมาย หรือการพูดคุยประชุมหารือกัน อาจไม่ประสบผลมากนักในห้วงเวลานี้ เพราะมีข้อถกเถียงและโต้แย้งมากมาย และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์ ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นทุกฝ่ายควรดำเนินการด้วยวิธีการอันสงบสันติ ไม่สร้างเงื่อนไขและปัญหาเพิ่มมากขึ้น ต้องหยุดสร้างความรุนแรง และช่วยกันนำพาประเทศชาติออกจากความขัดแย้งให้ได้โดยเร็ว
2.จากสถานการณ์การใช้อาวุธเมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำ ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น จึงขอให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ช่วยกันประณามทุกฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง และใช้อาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอให้ส่งข้อมูลหรือเบาะแสให้กองทัพบกทันทีเมื่อได้รับทราบ
3.การที่หลายฝ่ายกล่าวพาดพิง ผบ.ทบ. และผบ.เหล่าทัพ ว่าอยู่เฉยไม่ดำเนินการใดๆ ขอเรียนว่ากองทัพได้ดำเนินการทุกอย่างมาด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาในครั้งนี้ มีความซับซ้อน และมีผลกระทบในหลายมิติ
4.ขอเตือนผู้ที่กล่าวให้ร้ายกองทัพ ให้ระมัดระวังคำพูด ซึ่งถือว่าเป็นการหมิ่นเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพ ทหารทุกคนไม่สามารถยอมรับได้
5.ขอเตือนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธสงครามต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้หยุดการกระทำนั้นตั้งแต่บัดนี้ เพราะหากสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทหารอาจจำเป็น ต้องออกมาระงับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม
6.หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นจนมีแนวโน้มถึงขั้นจะเกิดการจลาจล เพื่อความสงบเรียบร้อย กองทัพอาจมีความจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ในขั้นนั้นหากมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มบุคคล หรือกองกำลังติดอาวุธ ตอบโต้กองทัพ หรือทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อีก บุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มบุคคลนั้น จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ใช้มาตราการทางกฏหมายปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวอาจจะไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆได้ เช่นกันกับกลุ่มบุคคลที่มีความคิดจะบุกรุกหรือปิดล้อมหน่วยทหาร ขอให้ยุติแนวคิดการกระทำดังกล่าวโดยทันที
7. กองทัพเป็นของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนคนไทยทุกคน มิได้เป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่กองทัพก็ต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติและประชาชน เมื่อมีความจำเป็น อย่างเต็มความสามารถ