ภาคเอกชนทุ่มงบ 20 ล. กระตุ้นท่องเที่ยวเชียงรายหลังแผ่นดินไหว
‘อภิชา ตระสินธุ์’ วอนสื่อเสนอข่าวแผ่นดินไหวเชียงรายสร้างสรรค์ หวั่นกระทบท่องเที่ยวหลังยอดลด 5% ภาคเอกชนลงขัน 20 ล้านบ.สมทบทุนกู้วิกฤตเน้นเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ-วัฒนธรรม ระบุเตรียมหารือนักวิชาการกำหนดแผนรับมือภัยพิบัติระยะยาว
วันที่ 15 พฤษภาคม 2557 สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จัดเสวนา ‘แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ ณ โรงแรม เอส 31 สุขุมวิท
นายอภิชา ตระสินธุ์ นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.เชียงราย กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงแผนการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมืองเชียงราย ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เกษตรกรรม ส่วนสิ่งปลูกสร้างได้รับผลกระทบน้อย ยกเว้นวัดร่องขุ่น ซึ่งส่วนตัวมองเป็นผลดีกับวัดเอง เพราะจะทำให้คนไทยเห็นความสำคัญของสถานที่แห่งนี้จนเกิดจิตสาธารณะในการร่วมฟื้นฟูให้กลับมาเร็วขึ้น
สำหรับมาตรการรับมือระยะยาวนั้น นายกฯ ท่องเที่ยวเชียงราย มองว่าเร็วเกินไปที่จะระบุ เพราะเรายังใหม่กับเรื่องแผ่นดินไหวมาก ดังนั้นภาคเอกชนจึงเสนอให้จัดเวทีหารือร่วมกับนักวิชาการระดับชาติก่อนจะกำหนดมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการหารือกับหน่วยงานระดับจังหวัดแล้ว
นายอภิชา กล่าวถึงมูลค่าความเสียหายด้านการท่องเที่ยวด้วยว่า ปัจจุบันมีสัดส่วนการยกเลิกการจองเข้าพักใน จ.เชียงราย คิดเป็นร้อยละ 5 และยังมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจอยู่ด้วย ทำให้ภาคเอกชนต้องจับมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ เตรียมเชิญสื่อมวลชนลงพื้นที่จริงและขอความร่วมมือให้นำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ เพราะความจริงแล้วพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวสร้างความเสียหายเพียงบางส่วน ดังนั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาได้ตามปกติ
นอกจากนี้ภาคเอกชนเตรียมจัดทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว และร่วมกับภาครัฐในการสมทบทุนเพื่อกอบกู้สถานการณ์ คาดว่าใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท และขอความร่วมมือให้ทุกกระทรวงจัดงานสัมมนาในพื้นที่แทนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อไป
นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.เชียงราย กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการพัฒนาแผนการรับมือและแผนพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองเชียงราย ภายใต้บริบทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น หนึ่งในกิจกรรมหลักมีการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม เพราะภาคเอกชนมองว่าเมืองทุกวันนี้จากที่เคยเงียบสงบและมลภาวะน้อย กลายเป็นเมืองที่มีมลภาวะมากจากรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น จึงมีแนวคิดส่งเสริมการขี่รถจักรยานแทน เพื่อหวังให้เชียงรายกลายเป็นเมืองจักรยานของไทย ทั้งในแง่การแข่งขัน ท่องเที่ยว และขี่ในชีวิตประจำวัน
“เราสนับสนุนให้มีเลนจักรยานและส่งเสริมให้เมืองโบราณเชียงแสนเป็นเมืองพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีการจัดทำการตลาดเชิงรุกเพื่อดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชั้นดี” นายอภิชา กล่าว และว่าจ.เชียงรายมีนักท่องเที่ยวราว 2.7 ล้านคน/ปี รายได้หมุนเวียน 1.8 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น .