“ศอ.รส.” เตรียมหน่วยอรินทราช จับแกนนำกปปส. เริ่มปฏิบัติการ 12 พ.ค.
“ศอ.รส.” เตรียมหน่วยอรินทราช จับ “แกนนำกปปส.” เริ่มปฏิบัติการ 12 พ.ค. ขู่อาจมีคนบาดเจ็บ ลั่นยกระดับบังคับให้กฎหมายเด็ดขาดคุมชุมนุม อ้างยึดทำเนียบ-ปิดล้อมสื่อ-ซ่องสุมกำลัง ย้ำตั้งนายกฯม. 7 ทำไม่ได้
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2557 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ว่า ตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม รวมถึงกลุ่มการเมืองและกลุ่มผู้สนับสนุนบางกลุ่ม ได้พยายามเรียกร้องไปยังบุคคลสำคัญ เช่น ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมกันคัดเลือกและทูลเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ศอ.รส.ขอยืนยันว่าข้อเรียกร้องตามนายสุเทพ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถกระทำได้โดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
“การแต่งตั้งนายกฯต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 171 มาตรา 172 และมาตรา 173 โดยนายกฯต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าปัจจุบันยังไม่อาจมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำหน้าที่คัดเลือกและให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายกฯได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ” นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวต่อว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีคณะรัฐมนตรีที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี อยู่ การดำเนินการที่จะให้มีนายกฯคนกลาง จึงเป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจกระทำได้ และโดยเฉพาะการดำเนินการเพื่อจัดตั้งนายกฯหรือคณะรัฐมนตรีขึ้นอีกชุดหนึ่ง ในขณะที่คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ นอกจากจะเป็นการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายแล้ว ยังจะเป็นการล่วงละเมิดพระราชอำนาจต่อองค์พระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง
“ศอ.รส.มีความเชื่อมั่นต่อความเป็นผู้รักษากฎหมาย และเป็นผู้ใหญ่สำคัญในบ้านเมืองที่จะไม่กระทำในสิ่งที่นอกเหนือกฎหมาย ซึ่งในที่นี่ขอแสดงความเคารพและความศรัทธาเชื่อมั่น ดังนั้นการที่ ศอ.รส.จำเป็นต้องมีแถลงการณ์ก็เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจอันถูกต้อง และหลีกเลี่ยงเหตุความไม่สงบและเหตุร้ายแรงต่างๆที่จะเกิดขึ้น” นายธาริต กล่าว
นายธาริต กล่าวต่อว่า ศอ.รส.จึงขอเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก รวมถึงกลุ่มการเมืองและกลุ่มผู้สนับสนุนบางกลุ่ม ยุติการกระทำผิดต่อกฎหมายด้วยการคัดเลือกและทูลเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนอกจากจะเป็นความผิดต่อกฎหมายแล้ว ยังจะเป็นสาเหตุให้เกิดความรุนแรงและเหตุร้ายขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันมีข้อมูลเพียงพอที่บ่งชี้ได้ว่าจะเกิดความรุนแรงและเหตุร้ายขึ้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ศอ.รส. โดยเฉพาะหากยังมีการคัดเลือกและเสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีขึ้นมาใหม่ตามที่กปปส. เรียกร้อง จะต้องเกิดความไม่พอใจจากมวลชนอีกกลุ่มหนึ่งอย่างรุนแรงและลุกลามไปถึงการก่อเหตุร้ายและเข้าปะทะกันอย่างแน่นอน จนอาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองได้ในที่สุด
นายธาริต กล่าวต่อว่า ศอ.รส.ขอแสดงความเสียใจต่อพี่น้องประชาชนที่เคยคาดหวังว่า สถานการณ์โดยรวมจะผ่อนคลาย ดีขึ้น แต่นายสุเทพ กับแกนนำกปปส. กลับยกระดับเพิ่มความตึงเครียดของสถานการณ์มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการประกาศคัดเลือกแต่งตั้งนายกฯนอกกฎหมายดังกล่าว และการกระทำอุกอาจ เช่น การบุกเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลแล้วประกาศจัดตั้งเป็นกองบัญชาการ การเข้าปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ และการซ่องสุมกำลังพร้อมอาวุธต่างๆ จนขณะนี้อาจกล่าวได้ว่าถึงจุดวิกฤตมากที่สุดแล้ว
“ศอ.รส. จึงจำเป็นจะต้องยกระดับการใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดและเข้มข้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดในเวลาอันใกล้นี้ จึงขอให้พี่น้องประชาชนแยกตัวออกจากกลุ่มผู้ชุมนุม และแจ้งเตือน บุตรหลาน ญาติมิตรให้หลีกเลี่ยงออกห่างจากที่ชุมนุมให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของ พี่น้องประชาชน” นายธาริต กล่าว
นายธาริต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ศอ.รส.จะมีการเข้าจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งไม่ใช่การสลายการชุมนุม โดยขณะนี้ได้เตรียมหน่วยอรินทราช และหน่วยปฏิบัติการอื่นๆของตำรวจเข้าปฏิบัติการ จากเดิมที่มีหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และแกนนำกปปส.รวม 14 หมาย แต่หลังจากวันที่ 8 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องแกนนำกปปส.อีกรวม 51 ราย ใน 10 ข้อหา โดยศาลจะนัดฟังคำสั่งในวันที่ 12 พฤษภาคม เราคาดหมายว่าจะได้รับหมายจับอย่างแน่นอน
“ถ้าได้หมายจับหน่วยปฏิบัติการได้เตรียมพร้อมเต็มพิกัดแล้ว และจะเริ่มลงมือปฏิบัติการทันที ซึ่งเป็นการยกระดับบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีการบาดเจ็บ กระทบกระทั่ง จึงขอให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแยกตัวออกจากแกนนำกปปส.ทันที ส่วนจะมียุทธวิธีอื่นๆหรือไม่ ยังไม่เปิดเผยได้” นายธาริต กล่าว