“อภิสิทธิ์” เสนอ “เว้นวรรคการเมือง” ไม่ลงเลือกตั้งถ้าปฏิรูปเสร็จ
“อภิสิทธิ์” เสนอ “เว้นวรรคการเมือง” ไม่ลงเลือกตั้ง ถ้าปฏิรูปเสร็จ และทุกฝ่ายทำตามข้อเสนอ ยึดหลักการยุติความสูญเสีย ป้องสถาบันฯไม่ให้ถูกดึงสู่ความขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีเสนอทางออกประเทศ ระบุว่า ข้อเสนอนี้ต้องการหยุดยั้งไม่ให้เกิดความเสียหาย คือ 1.ไม่ต้องการเห็นความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตเลือดเนื้อประชาชนอีกต่อไป 2.ไม่ต้องการเห็นการสูญเสียประชาธิปไตยหรือการเดินออกนอกรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถสะสางปัญหาได้จริง แต่จะเป็นการผูกปมขัดแย้งในอนาคต และ 3.ไม่ต้องการให้มีการดึงสถาบันที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งทางการเมืองทั้งศาล และสถาบันสูงสุดลงมาสู่ความขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อเสนอประกอบไปด้วย 1.ตอบโจทย์ประเทศให้มีการปฏิรูปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ประชาชนมั่นใจว่านักการเมืองจะคัดค้านไม่ได้ ต้องมีหลักประกันคุ้มครองว่าคนสูญเสียประโยชน์ไม่สามารถคัดค้านได้ 2.การปฏิรูปอาจไม่สามารถจบก่อนการเลือกตั้ง จึงมีข้อเสนอช่วงเปลี่ยนผ่านการการเลือกตั้งทั้งรัฐบาลและสภา 3.มีการเลือกตั้งโดยเร็วเมื่อมีการเลือกตั้งที่เสรี สุจริต เที่ยงธรรม ประชาชนและพรรคการเมืองทุกฝ่ายยอมรับประสบความสำเร็จในการมีสภาและรัฐบาล และ 4.ข้อเสนอนี้ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตัว ส่วนกลุ่มของใครทั้งสิ้น คดีความต้องดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอมีหลักการและเป้าหมายชัดเจน แต่จะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอนี้ ซึ่งพูดตั้งแต่วันแรกว่าข้อเสนอในลักษณะนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกใจฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่มั่นใจว่าเป็นข้อเสนอที่ยึดประโยชน์ส่วนรวมมีเหตุผล หลักการรองรับ ที่จะทำให้คนที่จะปฏิเสธต้องให้เหตุผลที่ดีกับสังคมว่าทำไมไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว และเมื่อข้อเสนอไม่ถูกใจทุกคน ดังนั้นต้องขอให้ทุกฝ่ายพิจารณาข้อเสนอโดยยึดเอาประโยชน์สูงสุดของส่วนรวมเป็นหลัก
“ขณะเดียวกันผมก็ต้องตอบคำถามกับประชาชนและสังคม เพราะผมไม่เป็นกลาง ไม่ใช่คนกลาง และยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา จึงต้องตอบว่าในแผนของผมนั้น ผมอยู่ตรงไหน ได้ประโยชน์หรือไม่ ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ความจริงใจว่าผมไม่ได้ทำเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ส่วนตน หากทุกฝ่ายยอมรับข้อเสนอ ผมจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ผมจะไม่มีสถานะทางการเมืองที่จะได้ประโยชน์ แต่เป็นประชาชนที่จะสนับสนุนให้การปฏิรูปประสบความสำเร็จ ผมขอขอบคุณหลายฝ่ายที่สนใจให้โอกาสผมช่วยหาทางออกให้ประเทศ จึงขอโอกาสให้กับประเทศ ด้วยการวางทางเลือกให้ทุกฝ่ายพิจารณา และให้สังคมมั่นใจว่าผมไม่มีประโยชน์ที่จะได้จากแผนนี้นอกจากหวังว่าประเทศจะมีทางออกและเกิดการปฏิรูปได้เท่านั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า เตรียมเสนอทางทางเลือกในการแก้ปัญหาประเทศจากวิกฤติ ภายหลังพบปะกับฝ่ายต่าง ๆ เสร็จสิ้น ซึ่งจะลงรายละเอียดทั้งหมดอย่างเป็นรูปธรรมไม่เกินวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 โดยอยู่บนหลักการที่ทุกฝ่ายมีความห่วงใยต่อสภาพบ้านเมือง ทั้งจากความขัดแย้ง ปัญหาเศรษฐกิจ และความกังวลว่าอนาคตข้างหน้าจะดีกว่าปัจจุบันได้อย่างไร ในขณะที่ทางเดินจากฝ่ายต่าง ๆ ยังไม่เปลี่ยนแปลง รัฐบาลเดินหน้าเลือกตั้งไม่สนใจความขัดแย้งในบ้านเมือง แต่กลับมีเป้าหมายรักษาอำนาจให้นานที่สุด และหากมีการตัดสินที่เป็นผลลบต่อรัฐบาลจะขอพระบรมราชวินิจฉัยเป็นทางเลือกที่รัฐบาลเสนอให้ประชาชนและประเทศในขณะนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนความเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 13 – 14 พฤษภาคมนี้ มีเป้าหมายยึดคืนอำนาจให้กับประชาชน ในขณะที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็ประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ มีการคาดการณ์และกังวลว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนอาจนำไปสู่ความรุนแรง ความสูญเสีย ย้อนรอยปี 2549 เกิดการรัฐประหารเพื่อยับยั้งความรุนแรงและความสูญเสีย
“นอกจากนี้มีบางฝ่ายตั้งความหวังว่าคดีความจะเป็นคำตอบให้ประเทศได้ แต่มีแนวโน้มในขณะนี้ฝ่ายไม่พอใจในคำตัดสินอาจมีการปลุกระดมให้เกิดความขัดแย้งจากผลคำวินิจฉัย หรือในกรณีที่คำวินิจฉัยไม่สามารถให้คำตอบว่าจะเดินหน้าประเทศได้อย่างไรก็นำไปสู่ความขัดแย้งเช่นเดียวกัน ดังนั้นจากปัญหาที่อาจเกิดการปะทะมวลชน คดีความ หรือที่เสนอโดยคณะบุคคล ล้วนมีความเสี่ยงและอาจไม่สามารถให้คำตอบกับประเทศไทยได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากแฟนเพจ Abhisit Vejjajiva