“สุเทพ” ประกาศ 3 ขั้นตอนสู้ครั้งสุดท้าย นัดดีเดย์ 14 พ.ค.นี้
“กำนันสุเทพ” ประกาศ 3 ขั้นตอนต่อสู้ครั้งสุดท้าย นัดวัน “ดีเดย์” 14 พ.ค.นี้ ลั่นจุดยืนต้องขับไล่รบ.ทรราช ตั้งรบ. – สภาประชาชน ปฏิรูปประเทศไทย – ทำพิธีสัตยาธิษฐาน 5 พ.ค. ทำบุญใหญ่ประเทศ 13 พ.ค.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2557 เวลา 19.10 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอประกาศว่า ต่อไปนี้จะเป็นการต่อสู้ขั้นสุดท้ายของมวลมหาประชาชน โดยเราจะกำหนดขั้นตอนในการต่อสู้เป็น 3 ขั้นตอนด้วยกัน
1.เราจะทำพิธีตั้งสัตยาธิษฐาน เพื่อจะทำความดีให้กับแผ่นดิน ทุ่มเทชีวิตจิดใจต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดินให้เป็นผลสำเร็จให้ได้ โดยจะกระทำกันในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เวลา 17.00 น. เนื่องจากเป็นวันฉัตรมงคล เชิญชวนพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ โดยจะมีการชุมนุมใหญ่ใส่เสื้อสีเหลือง ติดธงชาติ แขวนนกหวีด แล้วไปร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บริเวณ หน้าวัดพระแก้ว สนามหลวง
“และเมื่อเสร็จพิธีนั้น จะได้ทำพิธีตั้งสัตยาธิษฐานว่าเราทั้งหลายจะดำเนินการด้วยความสันติ อหิงสา เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ขจัด ขับไล่ผู้ที่คิดร้ายต่อบ้านเมืองให้พ้นไป แล้วเราจะได้ร่วมกันสรรหาคนดีที่ซื่อสัตย์สุจริต พร้อมที่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนมาร่วมเป็นรัฐบาลนำประเทศไปสู่การปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง” นายสุเทพ กล่าว
2.เราจะจัดทำบุญประเทศครั้งใหญ่ ขับไล่เสนียดให้หมดไปจากประเทศไทย ในวันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา
และ 3.การปฏิบัติการร่วมกันของมวลมหาประชาชนในการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยกลับมาเป็นของประชาชน ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 ซึ่งมวลมหาประชาชนไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องเรียกคืนอำนาจอธิปไตยภายใต้การมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรค 1 และประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รับรองไว้ชัดเจนว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เพราะขณะนี้พบว่ามีเพียงคณะบุคคลที่อ้างว่าเป็นคณะรัฐมนตรี และเป็นคณะรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่ง พ้นอำนาจไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ยุบสภา 9 ธันวาคม 2556 คณะบุคคลที่มีอยู่ในขณะนี้ ไม่มีอำนาจเต็มในการบริหารบ้านเมือง อยู่เพียงปฏิบัติหน้าที่เพียงชั่วคราว และมีอำนาจอยู่จำกัดเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชาติ ปัญหาประชาชนได้
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า มวลมหาประชาชนกระทำการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยเรียบร้อยแล้วนั้น จะดำเนินการต่ออีก 2 ขั้นตอน คือ
1.จะจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน มีนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนได้รับการยอมรับนับถือ ซื่อสัตย์สุจริต มีความจงรักภักดีต่อแผ่นดิน มีความรู้ความสามารถ ตั้งใจปฏิรูปประเทศ รัฐบาลของประชาชนนี้จะเป็นรัฐบาลที่ปลอดจากนักการเมืองโดยสิ้นเชิง ต้องไม่ให้รัฐบาลของประชาชนถูกแทรกแซงโดยนักการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ต้องไม่มีแม้แต่ตัวแทนของนักการเมือง ที่มักนิยมกันว่านอมินี ไม่ว่าจะเป็นนอมินีของพรรคไหนทั้งสิ้น และในรัฐบาลนี้ก็จะไม่มีแม้แต่คนของกปปส.ร่วมอยู่ในคณะรัฐบาลด้วย
2.เราจะดำเนินการให้มีสภานิติบัญญัติของประชาชน เพื่อทำหน้าที่ในการตรากฎหมาย แก้ไขกฎหมาย ร่วมมือกับรัฐบาลของประชาชนทำการเร่งรัดปฏิรูปประเทศตามเจตนารมย์ของมวลมหาประชาชน รัฐบาลของประชาชน และสภานิติบัญญัติของประชาชน จะทำหน้าที่เยียวยาแก้ไขปัญหาของประเทศทันที เช่น ปัญหาชาวนา ต้องจ่ายเงินของชาวนาให้ครบภายใน 30 วันหลังจากเป็นรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลของประชาชนจะทำการปฏิรูปประเทศ พร้อม ๆ กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจเรียกความเชื่อมั่นในประชาคมโลกกลับคืนมา โดยจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 18 เดือน ไม่ได้เสียเวลาเนิ่นนานไปเลย ไม่ได้เสียเวลาเนิ่นนานไปกว่าที่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังในขณะนี้ และไม่รู้อนาคตว่าจะจบเมื่อไหร่ ที่สำคัญก็คือ ในระหว่างที่ดำเนินการปฏิรูปประเทศ และดำเนินการแก้ไขเยียวยาฟื้นฟูประเทศนั้น รัฐบาลของประชาชนจะไม่มีการสมยอมตามข้อเรียกร้องของฝ่ายทรราชที่จะเรียกร้องให้นิรโทษกรรม หรือคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นของแผ่นดินเพราะได้มาด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นแต่ประการใดทั้งสิ้น ต้องไม่มีการสมยอมในเรื่องเหล่านี้โดยเด็ดขาด และเรามวลมหาประชาชนเมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้ว จัดให้มีสภานิติบัญญัติไปแล้ว ก็จะกลับไปอยู่ที่บ้านคอยเฝ้าดูติดตามควบคุมรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาให้ทำตามเจตนารมย์ของประชาชน
“ฉะนั้นรัฐบาลของประชาชน และสภานิติบัญญัติของประชาชน จะต้องยึดมั่นในวิถีทางที่จะเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอย่างมีคุณธรรม ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นี่คือจุดยืนเป้าหมายการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนที่ขอประกาศในวันนี้” นายสุเทพ กล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากแฟนเพจ Suthep Thaugsuban