“ศอ.รส.” ประณามปธ.ศาลปกครอง แทรกแซงแต่งตั้งตร. จี้ทบทวนตัวเอง
“ศอ.รส.” ประณาม “ปธ.ศาลปกครอง” แทรกแซงแต่งตั้งตร. จี้ทบทวนตัวเอง ซัดกระทำขัดจริยธรรมรธน. เทียบตัดสินคดีคืนตำแหน่ง "ถวิล" ชี้กระทบความน่าเชื่อถือ
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2557 ที่บช.ปส. น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงผลการประชุมศอ.รส. ว่า ศอ.รส.ได้รับทราบกรณีมีการนำเสนอภาพถ่ายเอกสาร ซึ่งนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ที่ได้ทำบันทึกไปถึงพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้สนับสนุนให้พ.ต.ท. ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับ ให้ไปขึ้นเป็นผู้กำกับการ โดยให้เหตุผลว่าได้ช่วยดูแลการปฏิบัติภารกิจของประธานศาลปกครองสูงสุดในหลายโอกาส
"ศอ.รส. มีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจอย่างชัดเจน ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองก็ได้ออกมาแถลงรับว่าได้ทำบันทึกดังกล่าวจริง และแม้จะพยายามอธิบายว่าเป็นเพียงการชื่นชมข้าราชการตำรวจคนดังกล่าวของประธานศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาของการทำบันทึกและการออกมายอมรับดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำที่สมควรตำหนิและประณามอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกระทำผิดต่อจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ โดยผู้นำสูงสุดของฝ่ายตุลาการในศาลปกครอง" น.ส.สิริมา กล่าว
น.ส.สิริมา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดเพิ่งจะมีคำพิพากษาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี นั้นเป็นการใช้ดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรีโดยมิชอบ ซึ่งก็ยังเป็นข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอยู่ด้วย แต่กระนั้นการกระทำของนายกรัฐมนตรีก็ยังเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่การกระทำของเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองกับประธานศาลปกครองสูงสุดในกรณีนี้ เป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจ ซ้ำร้ายกลับเป็นการกระทำผิดต่อจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้งด้วย
"แม้ว่าศอ.รส.จะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีในกรณีนี้ก็ตาม แต่ศอ.รส.ก็ห่วงใยว่ากรณีนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะเพิ่มความไม่เชื่อถือคำพิพากษาคดีของนายกรัฐมนตรี เรื่องการโยกย้ายนายถวิล อันจะนำไปเป็นประเด็นเพิ่มความขัดแย้งของคน 2 กลุ่มใหญ่ ซึ่งเป็นภารกิจของศอ.รส.ด้วยที่จะต้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในที่สุด ศอ.รส.จึงขอเรียกร้องให้บุคคลทั้งสองในศาลปกครองดังกล่าวพิจารณาตนเองด้วย" น.ส.สิริมา กล่าว