อย่าห่วง! “นิวัฒน์ธำรง” ยันทำสัญญาป้องข้าวหาย - ขายแล้วกว่า 21 ล.ตัน
“นิวัฒน์ธำรง” เผยไม่ต้องห่วงข้าวเสียหาย ระบุ “อคส. – อ.ต.ก.” ทำสัญญารับผิดชอบไว้แล้ว ระบุปัจจุบันเหลือข้าว 13 ล้านตัน ขายไปทั้งหมดตั้งแต่เริ่มโครงการ 21 ล้านตัน ได้เงินกว่า 2.1 แสนล้านบาท
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2557 เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เดินทางเข้ายื่นเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า วันนี้เข้ามาให้ข้อมูลประกอบการให้ปากคำต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากการเข้ามาให้ถ้อยคำครั้งที่แล้ว โดยในส่วนกรณีข้าวในสต็อคไม่มีการสูญหาย หรือหากมีการสูญหายและเสียหายจากรณีต่าง ๆ จะมีผู้รับผิดชอบนั้น ทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ได้ทำสัญญากับผู้เกี่ยวข้อง คือ คลังสินค้าผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว บริษัท เซอร์เวเยอร์ประกันภัย ให้รับผิดชอบสต็อคข้าวของรัฐ อีกทั้งได้แนบหนังสือยืนยันการมีข้าวเพิ่มอีก 2.98 ล้านตันให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วย
“คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ควรจะบันทึกบัญชีข้าวจำนวน 2.98 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้การขาดทุนของโครงการนี้ ลดลงได้ประมาณ 74,000 ล้านบาท” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบข้าวล็อตสุดท้ายก่อนปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่ามีข้าวอยู่ประมาณ 19.9 ล้านตัน มีภาระผูกพัน หรือสัญญาซื้อขาย 6 ล้านตัน ทำสัญญาขายในเดือนมีนาคม – เมษายนราว 1 ล้านตัน ดังนั้นจึงเหลืออยู่ประมาณ 13 ล้านตัน แบ่งเป็นประเภทเม็ดข้าว 9 – 10 ล้านตัน ที่เหลือคือประเภทปลายข้าว
“ส่วนที่ขายไปทั้งหมดตั้งแต่เริ่มโครงการคือ 21 ล้านตัน ส่งมอบแล้ว 15 ล้านตัน เหลือที่จะส่งอีก 6 ล้านตัน รวมทั้งสิ้นเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 213,500 ล้านบาท” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ส่วนในเกณฑ์การคิดค่าเปลี่ยนแปลงสภาพข้าวหรือค่าเสื่อมสภาพข้าวนั้น ผลจากการศึกษาของคณะทำงานพิจารณากำหนดกรอบคุณภาพและกลไกราคาตามสภาพข้าวสารในสต็อคของรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 ระบุว่า ค่าเสื่อมสภาพข้าวคิดเพียง 0 – 10 เปอร์เซ็นต์ หลังจากการเก็บไว้ 1 ปี 0 – 20 เปอร์เซ็นต์ หลังปีที่ 2 และ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ หลังปีที่ 3
“ขณะที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี หรือหลัง 5 ปีแล้ว มูลค่าข้าวเท่ากับ 0 บาท ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผลการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ คำนวณสูงเกินกว่าความเป็นจริง” นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องหลักเกณฑ์การกำหนดราคาในการจำหน่ายข้าวสารของรัฐบาลนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้ใช้หลักเกณฑ์โดยพิจารณาจากราคาขายข้าวในประเทศ ราคาขายข้าวของประเทศต่าง ๆ ในตลาดโลก ค่าเสื่อมสภาพข้าว และปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งหลักเกณฑ์นี้ใช้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี