‘ผอ.สำนักอุทยานฯ’ ไม่รับปากย้ายหน.แก่งกระจานออกพื้นที่เปิดทางสืบคดีบิลลี่
กลุ่มนักศึกษายื่นหนังสือกรมอุทยานฯ เร่งตามหา ‘บิลลี่’ หลังสูญหายปริศนา 1 อาทิตย์ ‘ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ’ เผยรองอธิบดีลงนามแต่งตั้ง คกก.สืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว แต่ไม่รับปากย้ายหน.แก่งกระจานออกจากพื้นที่เปิดทางสางคดี
วันที่ 24 เมษายน 2557 ที่กรมป่าไม้ ถ.พหลโยธิน กลุ่มเสรีนนทรี ม.เกษตรศาสตร์ กลุ่มสะพานสูง ม.ธรรมศาสตร์ กลุ่มกล้าพะยอม ม.รังสิต และศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย รวมตัวกันในนาม ‘กลุ่มนิสิตนักศึกษาและนักกิจกรรมเพื่อสังคม’ พร้อมชาวกะเหรี่ยง ราว 50 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายนิพนธ์ โชติบาล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อเรียกร้องให้ใส่ใจในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลอุทยานแห่งชาติต่อการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 เมษายน 2557 จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 1 อาทิตย์แล้ว โดยมีนายสมัคร ดอนนาปี ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบหนังสือ
ทั้งนี้ หนังสือได้ระบุถึงข้อเรียกร้องในระยะสั้นต่อกรมอุทยานฯ ให้เร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และมีคำสั่งโดยตรงถึงข้าราชการใต้การบังคับบัญชาที่มีหน้าที่รับผิดชอบและมีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความร่วมมือกับการสอบสวนข้อเท็จจริงแก่ตำรวจ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) หรือองค์กรอื่น ๆ พร้อมชี้แจงผลการสอบข้อเท็จจริงแก่สังคม
สำหรับระยะยาวนั้นจะต้องสร้างแนวคิดและวิธีการจัดการป่าไม้ใหม่บนพื้นฐานของความเข้าใจวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เท่าเทียมในความเป็นมนุษย์ และออกกฎหมายบังคับใช้ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยในเขตป่า เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
นอกจากนี้รัฐต้องให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย โดยออกกฎหมายเป็นฐานความผิดอาญาและกำหนดโทษที่สอดคล้องกับความร้ายแรงของการกระทำผิด พร้อมกำหนดให้มีการเยียวยาและชดเชยที่มีประสิทธิผลตามหลักกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมทั้งอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่น ๆ ที่ไร้มนุษยธรรม
น.ส.สุนี บุญชูเชิด ชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย กล่าวว่า ครอบครัวรอบิลลี่อยู่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยตามหา ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบเช่นนี้ เพราะกะเหรี่ยงก็เป็นคน ทั้งนี้ยอมรับชาวบ้านต่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพื่อความถูกต้องในการได้ครอบครองซึ่งสิทธิดั้งเดิม เราก็ต้องต่อสู้
ด้านนายอัครพล ตีบไธสง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ไทยมีสถิติการหายตัวไปของนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนมากเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย ซึ่งบ่งบอกถึงการขัดผลประโยชน์และถูกปฏิบัติจากผู้มีอำนาจเยี่ยงไม่ใช่คน อันเนื่องจากการพัฒนาที่ประชาชนไม่เคยรับประโยชน์อย่างแท้จริง ยกเว้นเพื่อตอบสนองอำนาจทุนนิยม ดังเช่นกรณีเหมืองแร่ทองคำ อ.วังสะพุง จ.เลย
“ผลกระทบที่มีต่อชีวิตหรือสุขภาพมิใช่หรือที่รัฐควรให้ความสำคัญกว่าการได้รับเงินเพียงเล็กน้อยจากการปล่อยการสัมปทานเหมืองแร่ทองคำ” นักศึกษา ม.รังสิต กล่าว และว่า ไทยควรเป็นประเทศเกษตรกรรม และจัดให้มีการดูแลคนทุกกลุ่มชนชั้น แล้วประเทศหนึ่งจึงจะอยู่รอดได้
ขณะที่นายสมัคร ดอนนาปี ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการหายไปของบิลลี่ ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่องก็พยายามตรวจสอบและดูแล โดยเบื้องต้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้ยืนยันการบังคับให้บุคคลสูญหายไม่ใช่นโยบายของกรมอุทยานฯ ไม่ว่าจะกระทำผิดในลักษณะใดก็ตาม
ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ให้มีคำสั่งโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกจากพื้นที่ชั่วคราวนั้น จะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปพิจารณา คาดใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งสุดท้ายหากพบมีความผิดจริงจะดำเนินการลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที แต่ในเบื้องต้นจะต้องให้ความเป็นธรรมฝ่ายที่ถูกกล่าวหาด้วย เพราะหากมีคำสั่งโยกย้ายโดยที่ไม่ได้ทำอาจทำลายขวัญกำลังใจได้ .