ที่แท้"โอฬาร"โต้โผใหญ่จัด"พยาน"สู้คดีปล่อยทุจริตข้าวให้ "ยิ่งลักษณ์"
"หมอชัย"พร้อมเป็นพยานให้ปากคำ ป.ป.ช. คดีจำนำข้าวช่วย"ยิ่งลักษณ์"ชี้มองเห็นผลประโยชน์ตกอยู่ที่ชาวนามากกว่า "พ่อค้า" ลั่นระบายจีทูจี ยังไม่มีผลชี้ขาดว่าผิด จะบอกนายกฯ ปล่อยปละละเลยไม่ได้ เผย"โอฬาร"โต้โผใหญ่จัดหา"คน"หักล้างข้อมูล
นายสัตว์แพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการอิสระหนึ่งในรายชื่อพยานคดีปล่อยปละเลยการทุจริตโครงการจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า พร้อมที่จะเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีปล่อยปละเลยการทุจริตโครงการจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ไม่ได้เป็นการบิดเบือนราคาตลาดหรือทำให้กระบวนการค้าข้าวของประเทศไทยเสียหาย แต่เป็นการแทรกแซงกระบวนการค้าข้าว ให้มีความยุติธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งปั้นผลประโยชน์ที่เหมาะสมระหว่าง ชาวนา โรงสี และผู้ส่งออก ที่มีปัญหาการเหลือมล้ำในเรื่องผลประโยชน์ตอบแทนมาตลอด โดยเฉพาะชาวนา ที่ถูกกดราคารับซื้อข้าวมาตลอด
“เรื่องนี้ผมอยากให้สังคมมองดูผลประโยชน์ที่ชาวนาได้รับเป็นหลัก เพราะในอดีตที่ผ่านมา กลไกลการค้าข้าวของไทยมีปัญหา ไม่เสรี ไม่เป็นธรรม ชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่เมื่อมีโครงการรับจำนำเกิดขึ้น รัฐเข้าไปแทรกแซงราคา เข้าไปเขียนกติกาใหม่ ทำให้ชาวนาก็ได้รับประโยชน์มากขึ้น ซึ่งผมมีข้อมูลหลายส่วนที่เตรียมไว้สำหรับการชี้แจงต่อป.ป.ช. อาทิ ความคาดเคลื่อนในข้อมูลงานวิจัยของ ทีดีอาร์ไอ และความไม่สมบูรณ์ในข้อมูลของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี ในเรื่องการลงบัญชีตัวเลขข้อมูลบางส่วนที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ ป.ป.ช.ได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน”
เมื่อถามว่า แต่โครงการนี้ถูกตรวจสอบว่ามีปัญหาการทุจริตเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ นายสัตว์แพทย์ชัย กล่าวว่า “เรื่องการระบายข้าว ไม่ว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด กับใคร ผมอยากให้มองเรื่องราคาระบายข้าวที่รัฐบาลได้รับไปว่ามีความเหมาะสมไหน ส่วนขั้นตอนการดำเนินการหากตรวจพบปัญหาการทุจริตส่วนไหน ใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องถูกจัดการให้เด็ดขาด”
“แต่เรื่องการทุจริตผมอยากตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้นายกฯ ถูกกล่าวหาว่า ปล่อยปละละเลยการทุจริต แต่ถามว่าคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะเรื่องการระบายจีทูจี ถูกตัดสินว่ามีความผิดหรือยัง ถือยังไม่มีการตัดสินอะไรจะมาบอกว่าผิดแล้วผมว่ามันไม่ถูกต้อง คิดดูซิ คดีระบายข้าวจีทูจี ยังไม่ไปถึงไหน แต่คดีนายกฯ วิ่งแซงหน้าไปไกลแล้ว”
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าข้าวในสต็อกรัฐบาล หายไปจำนวนเกือบ 3 ล้านตันนั้น นายสัตว์แพทย์ชัย ระบุว่าควรจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างจริงจัง ถ้าผลสรุปออกมาว่าข้าวหายไปจริง ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าผลการตรวจสอบออกมาว่าไม่เป็นความจริง ผู้ที่ออกมาให้ข่าวทำให้เรื่องนี้เสียหายก็จะต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาถูกระบุว่าเป็นนักวิชาการสายเสื้อแดง การให้ความเห็นในคดีก็จะต้องยืนอยู่ฝั่งรัฐบาล นายสัตว์แพทย์ชัย ตอบว่า “สังคมจะคิดอย่างไรผมไม่ทราบ แต่ผมแสดงความเห็นตามหลักการและข้อเท็จจริงที่ผมศึกษามาเท่านั้น”
“ผมมีเพื่อนอยู่ทั้งฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล ในส่วนของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เขาเห็นว่าข้อมูลที่ผมนำเสนอออกไปในทางสนับสนุนรัฐบาล เขาก็อาจจะชอบใจ มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ต่อไปในอนาคต ถ้าข้อมูลที่ผมชี้ออกไป อยู่ตรงข้ามกัน เขาอาจจะไม่ชอบผมก็ได้"
นายสัตว์แพทย์ชัย กล่าวว่า "ในช่วงก่อนถูกเสนอชื่อเป็นหนึ่งในพยานคดีรับจำข้าวครั้งนี้ ได้มีโอกาสพบปะกับ ท่านนายกฯ ไม่กี่ครั้ง แต่ท่านก็ขอบคุณผมที่ไม่รังเกียจ และเข้ามาช่วยเป็นพยานให้ ซึ่งผมก็ได้ตอบไปว่า ไม่ต้องขอบคุณผม เพราะสิ่งที่ผมจะพูด ยึดถือข้อเท็จจริงเป็นหลักไม่ได้เข้าข้างใคร”
เมื่อถามว่า ใครเป็นคนเชิญให้มาเป็นพยานครั้งนี้ นายสัตว์แพทย์ชัย ตอบว่า “ดร.โอฬาร ไชยประวัติ และทีมงาน 4-5 คนติดต่อมา ก่อนหน้านี้มีการนัดเจอกันแล้วที่ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ท่านถามว่าพร้อมจะมาเป็นพยานหรือไม่ อยากให้มาพูดเรื่องการบิดเบือนราคาข้าวในตลาด ผมก็ตอบว่าพร้อม ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร”
เมื่อถามว่า มีการยื่นข้อเสนออะไรตอบแทนหรือไม่ นายสัตว์แพทย์ชัย ตอบว่า "ไม่มี และผมก็ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองอะไร ไม่มีเรื่องตำแหน่งอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ที่เข้ามาช่วยเป็นพยานให้ครั้งนี้ เพราะอยากทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวนา"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.โอฬาร ไชยประวัติ เป็นหนึ่งในบุคคล ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุชื่อเป็นพยานคดีนี้ด้วย ในฐานะเป็นที่ปรึกษาและจัดทำนโยบายโครงการรับจำนำข้าวให้แก่พรรคเพื่อไทยในการหาเสียงเลือกตั้ง
โดยดร.โอฬาร จะชี้แจงให้เห็นว่า เหตุผลในการกำหนดราคารับจำนำข้าวที่ 15,000 บาท มีเหตุผลอย่างไรที่ไม่กำหนดราคาจำนำตามราคาตลาดในเวลานั้น และเป็นพยานบุคคลนำสืบเพื่อหักล้างระบบการประกับความเสี่ยงด้านราคาข้าวที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอแนะให้รัฐบาลนำระบบการประกันความเสี่ยงด้านราคาข้าวมาใช้เป็นนโยบายของรัฐบาล ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นไปตามความประสงค์ที่จะทำให้เกษตรกรยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้น ทั้งระบบราคาส่งออกข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้น มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมเพื่อความกินดีอยู่ดีของพี่น้องชาวไทย และหักล้างรายงานของสถาบันวินจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ตามข้ออ้างและข้อกล่าวหาของนายนิพนธ์ พัวพงศกร และนายจิตรกร จารุพงษ์ ผู้จัดทำผลการวิจัยของสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่อง โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต : การแสวงหาค่าตอบแทนส่วนเกิน และเศรษฐศาสตร์การเมืองของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก