บ้านมั่นคงชุมแพ ร้องออมสิน ขายที่ดิน 2.5 ล้าน ช่วยชุมชนทำนารวม
เขียนวันที่
วันพุธ ที่ 20 กรกฎาคม 2554 เวลา 16:24 น.
เขียนโดย
ธิดามนต์ พิมพาชัย ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน
หมวดหมู่
เครือข่ายบ้านมั่นคง เมืองชุมแพ ร้องธ.ออมสิน ขายที่ดินราคาเดิม ช่วยชาวบ้านลงขันทำนารวม สร้างความยั่งยืนให้ชุมชน ด้านธนาคารรับปากเห็นใจรากหญ้า รอเข้าที่ประชุม
วันที่ 20 ก.ค. 54 ชาวบ้านจากเครือข่ายบ้านมั่นคง เมืองชุมแพ จ.ขอนแก่น กว่า 200 คน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ กรณีที่ดินที่ขอซื้อเพื่อทำโครงการบ้านมั่นคง มีราคาพุ่งสูงกว่าเท่าตัว
ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ประสบปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย และได้รับคัดเลือกเข้าโครงการบ้านมั่นคง โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณผ่านสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เพื่อซื้อที่ดินสร้างที่อยู่อาศัยภายใต้การจัดการอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งชาวบ้านชุมแพมีแผนการที่จะทำ โครงการลงขันนารวมเพื่อซื้อที่ดิน
นางสนอง รวยสูงเนิน ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่าปัญหาที่มาเรียกร้องวันนี้ว่า เพราะชาวบ้านต้องการซื้อที่ดิน ที่ธนาคารออมสินประกาศขาย รหัส KKN 5311 ตามโฉนดเลขที่ นส. 3 ก. 1680 และ 17249 17250 17445 และ 17677 จำนวน 38 ไร่ 5 ตารางวา ราคา 2.5 ล้านบ้าน ซึ่งได้ดำเนินการตามขั้นตอนโครงการบ้านมั่นคง โดยขอกู้จาก พอช. ในวงเงิน 2 ล้านบาท และผ่านการอนุมัติแล้ว ต่อมาทราบภายหลังว่า ธนาคารได้ขึ้นราคาที่ดิน เป็น 4.6 ล้านบาท
“พอถามกับธนาคารออมสินสาขาชุมแพก็ไม่ได้รับคำตอบถึงราคาที่แน่ชัด และไม่มีอำนาจตัดสินใจขาย ชาวบ้านจึงต้องเดินทางมาหาคำตอบที่ชัดเจน ที่สำนักงานใหญ่ ว่าจะสามารถซื้อในราคาเดิมที่วางแผนไว้ได้หรือไม่ ” นางสนองกล่าว
ตัวแทนชาวบ้านยังกล่าวอีกว่า จะนำที่ดินแปลงดังกล่าว ไปใช้ประโยชน์ร่วมกันในลักษณะ การทำนารวม เพื่อความยั่งยืนของชุมชน ซึ่งปัจจุบันเครือข่ายบ้านมั่นคง เมืองชุมแพ มีสมาชิก 955 ครัวเรือน รวม 4,000 คน โดยจะลงขันกันออมโครงการละ 1,875 บาท ต่อเดือน
“พวกเราเป็นคนจน อยากซื้อที่ดินจากท่านไปเพื่อหวังประกอบอาชีพ คือการทำนาร่วมกัน ไม่ได้หวังร่ำรวย อยู่ในโครงการบ้านมั่นคง มีบ้านแล้วแต่ก็เป็นหนี้ เคยเช่านาทำแล้วได้ผลดี จึงอยากมีที่ดินเป็นของตนเอง ซึ่งจะทำให้สมาชิกมีรายได้ มีหลักประกันว่าจะจ่ายหนี้ให้กับ พอช.ได้”
ทั้งนี้ชาวบ้านยังออกแถลงการณ์ ระบุข้อเรียกร้องต่อธนาคารออมสิน ให้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวในราคาที่ประกาศไว้ 2.5 ล้านบาท ภายใน วันที่ 20 ส.ค. 54
ด้านนายศิริชัย วงศาโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานบริหารหนี้ และกฎหมาย เป็นตัวแทนมารับเรื่องร้องเรียน และชี้แจงถึงสาเหตุที่ราคาที่ดินที่เพิ่มว่า อ้างอิงตามราคาตลาด ร่วมกับการพิจารณาราคาที่เข้าซื้อจากกรมบังคับคดีจึงอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้
“กรณีนี้ เป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านเพื่อที่ดินทำกินร่วมกัน ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ธนาคารที่สนับสนุนประชาชนฐานราก และราคา 2.5 ล้านบาทที่เสนอมา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ต้องผ่านกรรมการก่อน ซึ่งจะติดต่อกลับไปทราบภายใน 1 สัปดาห์ มั่นใจว่าธนาคารจะช่วยเหลือชาวบ้านอย่างแน่นอน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้รับคำตอบจากตัวแทนธนาคารชาวบ้านต่างปรบมือแสดงความพอใจ โดยหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือ ทั้งนี้ โครงการบ้านมั่นคง เป็นการสนับสนุนให้ผู้ไร้ที่อยู่อาศัย มีบ้านเป็นของตนเอง และมีระบบสาธารณูปโภคที่ดี ภายใต้การจัดการอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งรัฐบาลอนุมัติงบประมาณผ่าน พอช.เพื่อซื้อที่ดิน และสร้างบ้าน ให้ชุมชนบริหารจัดการเองตั้งแต่ การสำรวจจัดหาที่ดิน ออกแบบบ้าน และก่อสร้างร่วมกับสถาปนิก และคืนเงินเพื่อช่วยเหลือกลุ่มอื่นๆต่อไป จึงต้องมีการออมทรัพย์ตามความเหมาะสมของแต่ละชุมชน