นิธิ เอียวศรีวงศ์: สถาบันฯ ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากเกินไป
“..สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองกันมากเกินไป ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ซึ่งการที่เรานำเอาสถาบันฯ มาเกี่ยวข้องกับทางการเมืองแบบนี้ผลที่สุดก็คือจะทำให้ภาพลักษณ์ทางสถาบันฯ กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย อันนี้ก็ทำให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง..”
กรณี พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการมงกุฎวัฒนะ จัดตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดินเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 แฟนเพจ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ได้โพสต์ข้อความของพล.ต. เหรียญทอง มีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ระบุว่า องค์กรเก็บขยะแผ่นดินมีความจำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่มีขีดความสามารถอย่างเพียงพอที่จะรับมือกับอาวุธสงครามจากกองกำลังติดอาวุธของขบวนการก่อการร้ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและขอความกรุณาจากผู้บัญชาการ สำนักตำรวจแห่งชาติ ได้โปรดเข้าใจถึงความจำเป็น โดยอย่าได้ดำเนินคดีอาวุธสงครามกับองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน
ทั้งนี้ ข้อความดังกล่าวระบุด้วยว่าองค์กรเก็บขยะแผ่นดินจะเตรียมพร้อมระวังป้องกันตนเอง ณ ที่ตั้งสำนักงานและที่พักอาศัยเท่านั้น
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ปัจจุบันเป็นนักวิชาการอิสระ ในประเด็นกรณีการจัดตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน
อาจารย์นิธิ ระบุว่า การก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดินนี้ ใช้ทั้งวิธีการที่ส่อไปในทางรุนแรง เช่น กองกำลังติดอาวุธสงคราม, เรี่ยไร่เงินเพื่อตามจับผู้ที่ทำผิดกฎหมายมาตรา 112 และวิธีการจะจัดการยังไงก็ไม่ชัดเจน ดูเหมือนว่าจะใช้ความรุนแรงในการจัดการ และอาจส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในทางอ้อม
อาจารย์นิธิยังระบุด้วยว่า ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา สถาบันพระมหากษัตริย์ ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองมากเกินไป และการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความเสียหายแก่สถาบันฯ
“สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองกันมากเกินไป ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ซึ่งการที่เรานำเอาสถาบันฯ มาเกี่ยวข้องกับทางการเมืองแบบนี้ผลที่สุดก็คือจะทำให้ภาพลักษณ์ทางสถาบันฯ กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย อันนี้ก็ทำให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง” นักวิชาการรายนี้ระบุ
อาจารย์นิธิ ยังเปรียบเทียบกรณีการก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดินที่นำไปสู่กรณีบุตรสาวชื่อ 'โรส' ถูกพ่อแม่ตัวเองแจ้งจับ เนื่องจากถ่ายคลิปพาดพิงเบื้องสูง ว่า "เหตุการณ์นี้ พ่อแม่แจ้งความจับลูกตัวเองได้ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะตามธรรมชาติ พ่อแม่ลูกย่อมมีความผูกพันกัน และหากเทียบกันแล้ว ลูกสาวที่โจมตีสถาบันฯ กับการกระทำขององค์กรเก็บขยะแผ่นดินที่คุกคามสิทธิรวมทั้งพยายามที่จะกลายเป็นกองกำลังติดอาวุธสงครามในการเที่ยวไล่ล่าคนนั้น เทียบกันไม่ได้เลย
“นี่ยังไม่ได้พูดถึงกรณีว่าผิดกฎหมายหรือไม่ผิดกฎหมายจากการกระทำทั้งหมดเหล่านี้ อันไหนจะได้รับอันตรายต่อสถาบันฯ ยิ่งกว่ากัน ซึ่งคนที่จงรักภักดีเพื่อจะโหนเอาประโยชน์ใส่ตัวคงไม่รู้สึก แต่คนที่รู้สึกจริงๆ คือคนที่มีความจงรักภักดีต่อตัวสถาบัน ผมคิดว่าถ้าเขาไม่เดือนร้อนกับเรื่องเหล่านี้ คุณก็คิดอะไรสั้นเกินไปแล้ว” อาจารย์นิธิ ระบุ
ส่วนกรณีข่าวลือว่า พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร จะวางมือจากการเมืองนั้น อาจารย์นิธิ ให้ความเห็นเรื่องบทบาทของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ว่า "ไม่ว่า พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร จะวางมือหรือยังคงเล่นการเมืองอยู่ กลุ่ม นปช. ก็ยังคงจับมือกันแน่น นั่นไม่ใช่เป็นเพราะ พ.ต.ท ทักษิณ แต่เป็นเพราะภัยคุกคามของระบบประชาธิปไตยยังคงอยู่ ตราบใดที่ยังคงเป็นอย่างนี้ จะใช่คนเสื้อแดงหรือไม่ใช่คนเสื้อแดง เขาก็คงไม่แตกกัน แม้ พ.ต.ท ทักษิณ จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่เกี่ยวกัน"
ภาพประกอบจาก : ศูนย์ข้อมูลการเมืองไทย