เผยเหตุ"ปู"ใช้บริการ"ดร.กบ"คดีข้าว-ขอ ป.ป.ช.สอบพยานซ้ำ 23 เม.ย.นี้
ทีมทนายความ "ยิ่งลักษณ์" เตรียมยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช. เรียกตัวพยานที่ถูกตัดชื่อทิ้งสอบปากคำใหม่ 23 เม.ย.นี้ ยันทุกคนมีความสำคัญต่อคดี เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานผู้ถูกกล่าวหา ตัดทิ้งไม่ได้ -เผยเหตุเรียกใช้บริการ "ดร.กบ" เข้าใจขั้นตอนเสนอมติครม.ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในคดีกล่าวหาปล่อยปละละเลยการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในวันที่ 23 เมษายน นี้ ทีมทนายความจะเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห้่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้พิจารณาเรียกตัวพยานที่ถูก ป.ป.ช. ตัดทิ้งออกไป จากพยานจำนวน 11 ปาก ที่ทีมทนายเคยร้องขอไปก่อนหน้านี้ มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง
"ทีมทนายความต้องการให้ ป.ป.ช. พิจารณาเชิญพยานที่ถูกตัดทิ้งออกไปก่อนหน้านี้ มาสอบปากคำใหม่อีกครั้ง เพราะรายชื่อพยานที่เราเสนอไปล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อการต่อสู้คดีนี้ของท่านนายกฯ อย่างมาก"
นายนรวิชญ์ ระบุว่า ในระบบการไต่สวนคดี ผู้ถูกกล่าว มีสิทธิขั้นพื้นฐานในการขอให้ ป.ป.ช. เรียกตัวพยานที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาเห็นว่า มีประโยชน์ในการต่อสู้คดีมาให้ปากคำได้ และ ป.ป.ช. ไม่ควรใช้อำนาจตัดพยานเหล่านี้ทิ้งออกไป โดยอ้างเหตุผลเพียงแค่ว่า ไม่มีความจำเป็นและมีข้อมูลอยู่แล้ว
"ป.ป.ช.อ้างว่าพยานที่เราเสนอไปไม่มีความจำเป็น มีข้อมูลอยู่แล้ว แต่เราคิดว่า ป.ป.ช.ทำไม่ถูก คดีนี้ฝ่ายเราถูกกล่าวหา เรามีสิทธิที่จะเสนอรายชื่อพยานที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีเข้าให้ปากคำ ป.ป.ช. จะมารู้ดีกว่าเราได้อย่างไร ซึ่งพยานที่เราเลือกมามีความสำคัญกับเราทั้งหมด มีผลต่อข้อมูลที่เราจะชี้แจง ไม่ควรมาตัดทิ้งหรือไม่ให้ความสำคัญกับการรับฟังข้อมูลของพยานฝ่ายเรา"
นายนรวิชญ์ ยังยกตัวอย่างความสำคัญของพยานในคดีนี้บางปากที่ถูก ป.ป.ช. ตัดทิ้งไปว่า ในคดีนี้ ป.ป.ช. มีการระบุถึงเรื่องของมติ ครม.ไว้ด้วย ทีมทนายความจึงได้เสนอชื่อของนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องมติครม.ดีที่สุด มาให้ปากคำ แต่ถูก ป.ป.ช.ตัดทิ้งไป
" ดร.กบ (นายอำพน กิตติอำพน) เป็นผู้ที่เข้าใจและรู้กระบวนการขั้นตอนเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ครม.เป็นอย่างดี เราไม่รู้ว่า ที่ป.ป.ช.ระบุว่า มีข้อมูลจากมติ ครม.อยู่แล้ว ป.ป.ช.เข้าใจข้อมูลเรื่องนี้ดีจริงหรือเปล่า เขาเลือกมติ ครม. มาใช้ประกอบการพิจารณาคดีครบถ้วนหรือเปล่า เราจึงอยากให้ ดร.กบ เข้าไปชี้แจงข้อมูลในเรื่องนี้ด้วยตนเอง แต่ก็ถูกตัดออกไป คิดดูซิแบบนี้ มันสมควรหรือไม่ เพราะถ้าป.ป.ช. เลือกมติ ครม.ผิดมาใช้ โดยที่ไม่รู้ตัว ฝ่ายเราจะผู้เสียหายทันที "
ทนายความส่วนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังระบุด้วยว่า "พยานที่เราขอไป ทั้งหมด 11 ปาก แต่ป.ป.ช. อนุญาต แค่ 4-5 คน เท่านั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ฝ่ายเราเสียเปรียบมาก ถ้าป.ป.ช.ต้องการให้การตัดสินคดีนี้ สิ้นกระแสความ ไม่ถูกมองว่า เลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม ควรจะเรียกพยานทั้งหมดตามที่เราเสนอไปมาสอบปากคำ ไม่ใช่เลือกแค่บางคน เพราะเราไม่ได้ขออะไรมากกว่านี้ "
เมื่อถามว่า ถ้าได้สอบพยานที่เหลือทั้งหมด มั่นใจว่าจะชี้แจงหักล้างข้อมูล ป.ป.ช.ได้ทั้งหมด นายนรวิชญ์ ตอบว่า "ผมตอบไม่ได้หรอกว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ถ้าเป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในคดี ผมมั่นใจว่าป.ป.ช.จะได้ข้อมูลจากฝ่ายเราเพิ่มมากขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่า โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการขนาดใหญ่ ผู้เกี่ยวข้องมีจำนวนมาก มีหลายระดับ มีหลายกลุ่ม เขาควรจะให้ความเป็นธรรมกับเรา ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหาที่ควรได้รับจากกระบวนการไต่สวน เราควรได้รับสิทธิการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่"
"ผมอยากจะย้ำอีกครั้ง ว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่ ผู้ถูกกล่าวหามีตำแหน่งเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ถ้าถูกชี้มูลความผิดและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะมีผลตามมากับประเทศเยอะ ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีที่สุด"
เมื่อถามว่า ถ้าป.ป.ช. ไม่เห็นชอบการเสนอรายชื่อพยานครั้งนี้อีกจะทำอย่างไร นายนรวิชญ์ ตอบว่า "ผมยังตอบไม่ได้ ต้องรอฟังผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการของ ป.ป.ช.อีกครั้งก่อน"
นายนรวิชญ์ ยังระบุด้วยว่า นอกจากการยื่นหนังสือขอให้ ป.ป.ช.สอบปากคำพยานเพิ่มเติมแล้ว ขณะนี้ทีมทนายความ อยู่ระหว่างการร่างสรุปคำชี้แจงปิดคดีนี้ เพื่อยื่นให้ ป.ป.ช.พิจารณาอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้
"ส่วนท่าทีของนายกฯ ยังไม่ได้แสดงความวิตกกังวลอะไรเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง เพืยงแต่ต้องการได้รับความเป็นธรรมการในพิจารณาไต่สวนคดีจาก ป.ป.ช.อย่างเต็มที่ก็เท่านั้น" ทนายความส่วนตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีนี้ระบุ