ยิงพ่อลูกบันนังสตา ตำรวจคาดหักธุรกิจทำไม้ กอ.รมน.ดักคออย่าป้ายสี จนท.
ใต้ระอุหลังสงกรานต์ คนร้ายยิงดับหนุ่มวัย 31 ปีพร้อมลูกชายวัยแค่ 6 ขวบที่บันนังสตา ชาวบ้านวิจารณ์แซ่ด ตำรวจแจงหักผลประโยชน์ธุรกิจทำไม้ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้ารีบแถลงดักคออย่าปล่อยข่าวป้ายสีเจ้าหน้าที่รัฐ หนองจิกเดือด!ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน-นายก อบต.สังเวย ปิดล้อมที่บาเจาะ วิสามัญฯผู้ต้องหาคดีความมั่นคง
สถานการณ์ในช่วงกลางสัปดาห์ถึงสุดสัปดาห์ที่ชายแดนใต้หลังวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์กลับร้อนระอุขึ้นมาอีก เมื่อมีเหตุคนร้ายยิงสองพ่อลูกเสียชีวิตที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้มีข่าวลือตั้งข้อสงสัยในพื้นที่ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงได้เร่งชี้แจงผ่านสื่อทุกแขนงยืนยันว่าสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวของผู้ตายเอง
เหตุสังหารสองพ่อลูก เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. วันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย.2557 ตำรวจ สภ.บันนังสตา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบันนังสตาว่า มีเด็กถูกยิงเสียชีวิต ศพอยู่ที่โรงพยาบาล จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่าคือ ด.ช.ลุกมาน อภิบาลแบ อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 8 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ด.ช.ลุกมาน เป็นบุตรของ นายมุกตาร์ อาลีมามะ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา โดย นายมุกตาร์ ก็ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกันกับลูกชาย เหตุเกิดที่บ้านอูแบ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ มีการใช้ชื่อ นายอุสมาน อภิบาลแบ อยู่บ้านเลขที่ 339/2 หมู่ 6 ต.บันนังสตา เป็นบิดาของ ด.ช.ลุกมาน ขณะที่ฐานข้อมูลของทางการระบุว่า นายมุกตาร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่
ตำรวจคาดขัดผลประโยชน์ทำไม้
ต่อมาในวันศุกร์ที่ 18 เม.ย. เจ้าหน้าที่จากหน่วยวิทยาการ จ.ยะลา ได้เข้าไปเก็บหลักฐานยังจุดที่พบศพนายมุกตาร์และบุตรชาย พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก หัวกระสุนขนาด 9 มม. 1 หัว ขณะที่บนเนินดินข้างทางพบปลอกกระสุน ขนาด 5.56 (ใช้ได้กับปืนสงครามเอ็ม 16) จำนวน 7 ปลอก
นอกจากนั้นยังพบร่องรอยการลักลอบตัดไม้ และพบไม้กระยาเลย (ไม้มีแก่นหรือไม้ยืนต้นที่ไม่ใช่ไม้สัก) ซึ่งคาดว่าเป็นของนายมุกตาร์ อยู่ใกล้ๆ จุดเกิดเหตุจำนวนหลายท่อน
พ.ต.อ.สุคนธิ์ ศรีอรุณ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผกก.สส.ภ.จว.ยะลา) กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นป่าเขาห่างจากถนนในหมู่บ้านกว่า 5 กิโลเมตร นอกจากพบปลอกกระสุนปืนแล้ว ยังพบร่องรอยการลักลอบตัดไม้ และพบไม้กระยาเลยซึ่งคาดว่าเป็นของนายมุกตาร์ อยู่ใกล้ๆ จุดเกิดเหตุจำนวนหลายท่อน น่าจะมีมูลค่าหลายแสนบาท โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุยิงนายมุกตาร์และลูกชายน่าจะเกิดจากการขัดผลประโยชน์เรื่องการทำไม้ แต่ก็ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกต่อไป
กอ.รมน.ดักคออย่าฉวยโอกาสป้ายสีรัฐ
เหตุการณ์คนร้ายยิงนายมุกตาร์ ซึ่งถูกทางการระบุว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มก่อความไม่สงบ และยังยิงลูกชายวัยเพียง 6 ขวบเสียชีวิตด้วย ทำให้มีข่าวลือวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
จากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ และโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เปิดแถลงข่าวที่ค่ายสิรินธร ซึ่งเป็นฐานบัญชาการของ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ว่า พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค4) ได้แสดงความเสียใจต่อญาติ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการกระทำอย่างโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งใดๆ
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 มีความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และกลุ่มแนวร่วมจะฉกฉวยโอกาส และบิดเบือนการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อหาทางตอบโต้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ดังเช่นหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา จึงได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติพร้อมๆ กับเข้าไปชี้แจงสร้างความเข้าใจต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อป้องกันการเข้ามายุยง ปลุกปั่นของกลุ่มแนวร่วมและเครือข่ายองค์กรต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่
พร้อมกันนี้ก็ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เน้นเป้าหมายอ่อนแอ และเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการฉกฉวยโอกาส บิดเบือน กลับกลอก และตอบโต้ต่อผู้บริสุทธิ์ของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ รวมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้เร็วที่สุด โดยขอยืนยันว่าทุกคนจะได้รับการปฏิบัติภายใต้หลักกฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
หนองจิกระอุ! ยิงดับผู้ช่วย ผญบ.-นายก อบต.
สำหรับเหตุรุนแรงในวันพฤหัสบดีที่ 17 เม.ย.ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. ขณะที่ นายศราวุธ มณีโชติ อายุ 29 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กำลังเดินซื้อของบริเวณตลาดนัด ในพื้นที่หมู่ 6 ต.บ่อทอง อยู่นั้น มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดบริเวณตลาด จากนั้นคนที่นั่งซ้อนท้ายได้เดินลงจากรถ และใช้อาวุธปืนยิงใส่นายศราวุธ 4 นัดจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
เวลา 19.15 น.ที่ อ.หนองจิก เช่นกัน ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ลาเต๊ะ อายุ 53 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คอลอตันหยง อ.หนองจิก อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 3 ต.คอลอตันหยง กำลังทำภารกิจอยู่ในมัสยิดบ้านโคกโหนด หมู่ 3 ต.คอลอตันหยง ปรากฏว่ามีคนร้าย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันไปจอดที่หน้ามัสยิด จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปพาตัว นายอดิศักดิ์ ออกจากมัสยิด แล้วใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตบริเวณหน้ามัสยิด ก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหารเช่นกัน
บึ้มสนามฟุตบอลที่ปาดี-เจ็บ 2
ที่ จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 15.30 น. เกิดเหตุระเบิดใกล้กับสนามฟุตบอลบ้านสากอ หมู่ 4 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจุดที่มีรถยนต์สายตรวจและรถจักรยานยนต์ของตำรวจที่ไปดูแลความปลอดภัย เข้าไปจอดเป็นประจำ โดยขณะเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ของตำรวจจอดอยู่ 4 คัน ได้รับความเสียหายทั้งหมด แรงระเบิดยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ส.ต.ท.นพรัตน์ มากชูชิต ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัย (รปภ.) การแข่งขันฟุตบอล และ นายซุลกิฟรี ซาบูนิง
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด ทราบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊สขนาดเล็ก จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.35 น. ขณะที่ นายอัสฮา ยูโซ๊ะ อายุ 28 ปี กำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 127/10 หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายอัสฮา จนเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ปาดคอหญิงชรา-ยิงหนุ่มใหญ่ดับคารถ
วันศุกร์ที่ 18 เม.ย. เวลา 21.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธมีดปาดคอ นางพรพิศาล สุขีอมฤต อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ถนนเทศบาล 2 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่ นางพรพิศาล กำลังทำสวนผลไม้อยู่ที่บ้านปูโง๊ะ หมู่ 1 ต.กาลิซา อ.ระแงะ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
วันเสาร์ที่ 19 เม.ย. เวลา 16.15 น. พ.ต.ท.ปิยวัฒน์ สังข์น้อย รองผู้กำกับการ (รอง ผกก.) สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่ามีเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวบ้านเสียชีวิตในรถยนต์ เหตุเกิดริเวณหน้าปั๊มน้ำมันร้าง ริมถนนสายรามัน-เรียง หมู่ 3 บ้านสะเตเซ็ง ต.บาลอ อ.รามัน จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อไดฮัทสุ รุ่นมิร่า สีกรมท่า หมายเลขทะเบียน กข 8376 ยะลา จอดเสียหลักในสภาพถูกยิงกระจกและตัวรถเป็นรูพรุน ภายในรถพบศพ นายมะกอเฮ ริจิ อายุ 48 ปี บริเวณเบาะที่นั่งคนขับ ส่วนที่เบาะหลังพบกรงนกเขาชวา และกรงนกกรงหัวจุก รวมทั้งนกในกรง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมะกอเฮ ขับรถยนต์ออกจากบ้านภรรยา เลขที่ 25/1 หมู่ 1 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มุ่งหน้ากลับบ้านในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่ระหว่างทางนายมะกอเฮ ได้แวะจอดรถเพื่อคุยโทรศัพท์ จังหวะนั้นเองมีคนร้ายไม่น้อยกว่า 4 คน ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์เทา ไปจอดประกบด้านข้าง จากนั้นคนร้ายที่นั่งในกระบะหลังใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่นายมะกอเฮจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ช่วงสายวันเดียวกัน คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ขี่ไปจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 1 ต.กระเสาะ อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายต่อสา เบ็ญยูนุส ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต กระเสาะ จากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงนายต่อสา 2 นัด แต่กระสุนไม่ถูกใคร คนร้ายจึงพากันหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ปะทะเดือดที่บาเจาะ-วิสามัญฯ1ศพ
ด้านการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันพุธที่ 16 เม.ย.เวลา 15.00 น. น.ต.สุรกานต์ สังข์รุ่ง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่บ้านบือเระ หมู่ 1 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ
ทั้งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังกระจายกำลังเพื่อเข้าโอบล้อมบ้านเลขที่ 84/2 หมู่ 1 บ้านบือเระ อยู่นั้น ได้มีชายฉกรรจ์ 1 คนซึ่งหลบอยู่ในบ้านใช้อาวุธปืนพกยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะตอบโต้กันประมาณ 5 นาที ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวได้กระโดดออกจากประตูหลังบ้านวิ่งเข้าไปในสวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงวิ่งตามไปอย่างกระชั้นชิด ก่อนจะเกิดการยิงปะทะกันอีกระลอกหนึ่ง หลังเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าเคลียร์พื้นที่ พบศพชายฉกรรจ์คนดังกล่าวในสภาพสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงวอร์มสีดำ มีกระเป๋าสะพายข้างเหน็บที่เอว พร้อมอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ตกอยู่ รวมทั้งเครื่องกระสุน
จากการตรวจสอบทราบว่า ชายคนดังกล่าวคือ นายอาหะมะ ยามา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 7 ต.จอเบาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จากแฟ้มประวัติของเจ้าหน้าที่ นายอาหะมะเป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ มีหมายจับในคดีลอบวางระเบิดตำรวจ สภ.รือเสาะ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2548 เบื้องต้นได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลบาเจาะ และยึดของกลางไปตรวจหาหลักฐานต่อไป
วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดแบบเอ็ม 67 ถล่มป้อมอาสารักษาดินแดน (อส.) ตั้งอยู่หน้าสำนักงานเกษตรสาขา อ.ยี่งอ หมู่ 3 บ้านลูโบ๊ะตาแซ ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่กำลังเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุคนร้ายยิง นายมุกตาร์ อาลีมามะ และ ด.ข.ลุกมาน อภิบาลแบ บูตรชายวัย 6 ขวบ ในป่าในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
2 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์
3 จุดเกิดเหตุยิงปะทะและวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
หมายเหตุ :
ภาพ 1-2 โดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
ภาพ 3 โดย ปทิตตา หนูสันทัด