"ศอ.รส."ถกปลัดกระทรวงไร้เงา "ปลัดสธ." สั่งขรก.ห้ามชุมนุมเวลาราชการ
"ศอ.รส." ถกปลัดกระทรวงไร้เงา "ปลัดสธ." สั่งขรก.ห้ามชุมนุมเวลาราชการ "กิตติพงษ์" เผยรบ.ยังมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรอิสระ บอกไม่ได้พูดคุยเรื่องต้อนรับกปปส.เข้ากระทรวงยุติธรรม
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดี ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้เรียกประชุมปลัดกระทรวง เพื่อหารือและทำความเข้าใจถึงสถานการณ์การเมือง โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผอ.ศอ.รส. เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีปลัดกระทรวงและตัวแทนปลัดกระทรวงที่ติดราชการต่างประเทศ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีเพียงนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการศอ.รส. ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุมศอ.รส.ได้กำชับให้ปลัดกระทรวง ไปทำความเข้าใจกับข้าราชการเกี่ยวกับการเข้าร่วมการชุมนุม เพราะถ้าเข้าร่วมการชุมนุมในเวลาราชการคงไม่ได้ แต่ถ้าอยู่นอกเวลาราชการแล้ว ก็ถือเป็นสิทธิที่จะทำได้ และได้กำชับให้ปลัดกระทรวงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อข้าราชการในสังกัดด้วย นอกจากนี้ยังกำชับให้ทุกกระทรวงเปิดให้บริการประชาชนให้ได้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.ได้พูดถึงกรณีที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้การต้อนรับกลุ่มกปปส.หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า มีการพูดถึง แต่ไม่ได้ตำหนิ แค่ไม่อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง เพราะจะกระทบกระเทือนต่อการทำงา
ด้านนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมไม่มีข้อสรุปอะไร และการพูดคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กลุ่มกปปส.ไปเยี่ยมกระทรวงต่างๆโดยเป็นความกังวลในมุมมองสถานการณ์ของศอ.รส. ซึ่งตนคิดว่าเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่จำเป็นต้องรับฟังความรู้สึกคู่ขัดแย้ง ตนไม่แน่ใจว่าความรู้ของข้าราชการคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร แต่เบื้องต้นตนรู้สึกกังวลเพราะมุมมองของแต่ละฝ่ายมีความแตกต่างค่อนข้างมาก
"รัฐบาลเน้นในเรื่องการกระทำที่ไม่ชอบตามกฏหมายและระบอบประชาธิปไตย กลุ่มกปปส.มองว่าประเทศจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงแต่วิถีทางยังไม่มความชัดเจนว่าจะเป็นที่ยอมรับจากทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ซึ่งศอ.รส.ได้สะท้อนถึงเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 และมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรอิสระ และกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่าประเทศอยู่ในจุดที่เราต้องพูดคุยกันมากขึ้น และรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ร่วมหาทางออกที่เป็นประโยชน์สูงสุด" นายกิตติพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลุ่มกปปส.จะเดินทางไปกระทรวงต่างๆอีก นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้กำชับในส่วนนี้ ตนอยากมองไปไกลกว่านั้น ถ้าแต่ละฝ่ายใช้กรอบของตัวเองจะทำให้มองไปคนละจุดก็จะนำมาสู่ปัญหา โดยเห็นว่าปัญหาที่เกิดขณะนี้เราต้องฟังกันมากขึ้น ต้องตั้งสติและหาจุดร่วม โดยจุดร่วมที่เราเห็นตรงกันคือประเทศไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง
"ที่สำคัญนั่นคือการปฏิรูป ซึ่งเชื่อว่ายังมีทางออก ถ้าทุกฝ่ายเห็นแก่ส่วนรวมและใช้วิธีตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากการหรือวันนี้ปลัดกระทรวงที่รับฟังจะมีดุลยพินิจที่จะนำไปพิจารณาตามความเหมาะสม โดยข้าราชการต้องรักษาความเป็นกลางทางการเมือง มึความหนักแน่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง" นายกิตติพงษ์ กล่าว