"ปลัดยุติธรรม" โพสต์เฟซบุ๊กตัดสินใจเข้าร่วมประชุม“ศอ.รส.” 17 เม.ย. นี้
"กิตติพงษ์" โพสต์เฟซบุ๊กตัดสินใจเข้าร่วมประชุม“ศอ.รส.” 17 เม.ย. นี้ ย้ำความภาคภูมิใจในข้าราชการ คือ ทำงานเพื่อส่วนรวมให้ประชาชนชื่นใจ ไม่ใช่ทำงานให้พรรคการเมือง ด้าน“ธาริต” เชื่อ “ปลัดกระทรวง” เข้าประชุมเกินครึ่ง บอกมีส่วนน้อยคิดแบบ “ปลัดสธ.”
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีที่ศอ.รส.เชิญปลัดกระทรวงทุกกระทรวงเข้าประชุมในวันที่ 17 เมษายน 2557 ว่า เท่าที่ทราบข้อมูลคาดว่าปลัดกระทรวงน่าจะมากันเยอะ ซึ่งคิดว่าเกินครึ่งหนึ่งแน่นอน
“ผมดูแล้วน่าจะมีปลัดกระทรวงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไม่เข้าร่วมประชุมกับศอ.รส. หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ เช่น ติดภารกิจไปต่างประเทศ หรือติดหมายงานต่างๆ ผมคิดว่าปลัดกระทรวงน่าจะเข้าร่วมประชุมกันพร้อมเพียง เพราะเป็นแค่การหารือกันเกี่ยวกับหลักปฏิบัติเท่านั้น ไม่มีการบังคับอะไรใดๆ” นายธาริต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการคาดโทษปลัดกระทรวงที่ไม่เข้าร่วมประชุมกับศอ.รส.หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า “คงต้องขึ้นอยู่กับผู้บริหารศอ.รส. แต่ส่วนตัวผมคิดว่าไม่น่าจะมีบทลงโทษอะไร”
เมื่อถามว่า นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกตัวชัดเจนว่าไม่เข้าร่วมประชุม นายธาริต กล่าวว่า “เราคงห้ามอะไรนพ.ณรงค์ ไม่ได้ แต่เชื่อว่าปลัดกระทรวงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่คิดแบบนพ.ณรงค์ ปลัดกระทรวงส่วนใหญ่คงไม่คิดแบบนั้น”
ต่อมาในช่วงเวลา 19.00 น. นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า "Kittipong Kittayarak" ระบุว่า ได้ตัดสินใจเข้าร่วมประชุมกับ ศอ.รส. ในวันที่ 17 เมษายน นี้
โดยระบุว่า "ในห้วงเทศกาลสงกรานต์มีผู้สอบถามผมเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าผมจะเดินทางไปร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่ศอ.รส.จัดขึ้นในวันที่ ๑๗ เมษายนนี้หรือไม่ มีหลายท่านได้กรุณาแสดงทัศนะและแนะนำต่างๆด้วยความปราถนาดี ซึ่งผมต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ"
"ผมขอเรียนว่าหลังจากที่ผมได้พิจารณาข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้านแล้วผมตัดสินใจจะเข้าร่วมประชุมในวันที่ ๑๗ เมษายนนี้ตามที่ทาง ศอ.รส.ได้เชิญมาครับ"
"ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงชองเรื่องที่เกิดขึ้นกับศอ.รส.โดยตรงเลย ในการประชุมคราวนี้หากได้รับโอกาสผมจะได้แจ้งให้ที่ประชุมได้ทราบถึงข้อเท็จจริงในส่วนของผมที่นำมาสู่เหตุการณ์ในวันที่ ๘ เมษายน"
"นอกจากนี้ การที่ศอ.รส.ได้เชิญเพื่อนๆปลัดกระทรวงของผมมาประชุมในคราวนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการกระทำของผม ผมคิดว่าผมควรจะถือโอกาสนี้แจ้งให้เพื่อนๆปลัดกระทรวงได้ทราบถึงความเป็นมาของเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตนเองด้วย"
"จากการที่ผมเป็นอดีตกรรมการ คอป.และทำงานเกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดองและการปฏิรูปมายาวนาน ผมเป็นผู้หนึ่งที่เชื่อในการพูดคุย รับฟังและหารือกันต่อหน้าอย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะต่างตนต่างพูดโดยหลีกเลี่ยงการที่จะได้พบปะพูดคุยและรับฟังกัน ผมคิดว่าผมควรยึดถือหลักการนี้ไว้"
"ผมเชื่อว่าผมและเพื่อนข้าราชการทุกคนตระหนักดีถึงความสำคัญของบทบาทของข้าราชการในสถานการณ์ความขัดแย้งนี้"
"ข้าราชการนั้นหมายถึง ผู้ที่ทำกิจการของพระราชา ซึ่งในที่นี้หมายถึงการเป็นผู้รับผิดชอบใน "งานของแผ่นดิน" อันเป็น งานของส่วนรวม เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับทุกข์สุขของประชาชน และเกี่ยวข้องกับความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงของบ้านเมืองโดยตรง"
"ความภาคภูมิใจในความเป็นข้าราชการคือการที่ได้ทำงานเพื่อส่วนรวมให้ประชาชนชื่นใจ มิใช่การทำงานให้พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใด"
"ในท่ามกลางความขัดแย้งนี้ ข้าราชการต้องมีความหนักแน่น อดทนที่จะปฏิบัติหน้าที่ราชการ อันเป็นงานของแผ่นดินให้ดีที่สุด โดยรักษาความเป็นกลางทางการเมือง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองครับ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมกับ ศอ.รส. ในวันที่ 17 เมษายน นี้ โดยระบุว่า "ถึงแม้จะไม่มีรัฐบาลผมก็ทำงานของผมได้”
(อ่านประกอบ :“ปลัดสธ.” เผยไม่ร่วมประชุมศอ.รส. 17 เม.ย. ลั่นเลือกข้างความถูกต้อง)