นพ.เหรียญทอง ประกาศตั้ง"องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน"จัดการคนหมิ่นสถาบันฯ
นพ.เหรียญทอง ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ประกาศตั้ง "องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน" จัดการคนหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งเป้าเคลียร์ให้หมดภายใน 2 ปี เผยจัดตั้งหน่วยตรวจสอบทั่วปท. ย้ำไม่ใช่ความรุนแรง แต่ใช้ช่องทางกม.ฟ้องร้องดำเนินคดีเป็นหลัก -เจ้าหน้าที่รัฐ ทำงานไม่จริงจังโดนด้วย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ใช้ชื่อว่า "เหรียญทอง แน่นหนา" นำเสนอแนวคิดในการจัดตั้ง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ เพื่อตรวจสอบดูแลแก้ไขปัญหาผู้กระทำการอาฆาต มาดร้าย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยระบุว่า "...ท่านทั้งหลาย คือ ‘ทหารของพระราชา...คนเก็บขยะของแผ่นดิน’ ได้โปรดพิจารณาแนวความคิดในการจัดตั้ง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ( องค์กรนี้เป็นองค์กรเปิดเผย ไม่ใช่องค์กรลับ องค์กรนี้จะเกิดขึ้น ต่อเมื่อผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายยังคงปล่อยปละละเลย ไม่จัดการอย่างเป็นรูปธรรมในการเก็บ ‘ขยะแผ่นดิน’ และหากปล่อยทิ้งไว้จะบั่นทอนต่อความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรง ) แนวความคิดนี้จัดทำขึ้นโดยอดีตนายทหารยุทธการ เพื่อเสนอต่อมวลมหาประชาชนคณะผู้ก่อตั้ง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ ดังสรุปต่อไปนี้
1) นิยามศัพท์ ‘ขยะแผ่นดิน’ หมายถึง ผู้กระทำการอาฆาต มาดร้าย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และผู้ให้การสนับสนุน คุ้มครอง ช่วยเหลือ รวมถึงที่พักพิงอาศัย และให้อาชีพการงาน
2) ภารกิจของ ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ คือ การเก็บขยะเพื่อปฏิรูปความสะอาดของแผ่นดินภายใน 12 - 24 เดือน
3) โครงสร้างการจัดเฉพาะกิจ ประกอบด้วย
3.1) ‘หน่วยบริหารงานกองทุนและการสนับสนุน’
3.2) ‘หน่วยปฏิบัติงานสำรวจขยะ’
3.3) ‘หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะทั่วไป’
3.4) ‘หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะพิเศษ’
4) การปฏิบัติของหน่วยเฉพาะกิจแต่ละหน่วย มีแนวความคิดในการยุทธ (CONCEPTS OF OPERATION)ดังนี้
4.1) ‘หน่วยบริหารงานกองทุนและการสนับสนุน’ จะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเงินทุนสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากกว่า 10 ล้านคนๆละ 50 บาท หรือคิดเป็นเงินทุนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในภารกิจการเก็บขยะเพื่อปฏิรูปความสะอาดของแผ่นดินให้แล้วเสร็จใน 12 - 24 เดือน โดยจะจัดสรรให้แก่การเก็บขยะแต่ละชิ้น จำแนกตามประเภทของขยะ ตลอดจนการปฏิบัติงานสนับสนุนทั่วไป
4.2) ‘หน่วยปฏิบัติงานสำรวจขยะ’ จะเป็นหน่วยข่าวกรอง เพื่อการสำรวจขยะ คัดแยกประเภท และขึ้นบัญชี
4.3) ‘หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะทั่วไป’ จะรับผิดชอบขยะประเภท’ทั่วไป’ ประกอบด้วย ‘ชุดเก็บขยะ’ จำนวนมาก แต่ละชุดจะรับผิดชอบโดยติดตามดำเนินการเก็บ ‘ขยะ’ เป็นรายชิ้น ทั้งนี้เพื่อให้การจัดเก็บขยะเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็วโดย ‘ชุดเก็บขยะ’ จะมีรูปแบบในการปฏิบัติดังนี้
4.3.1) ‘ชุดเก็บขยะ’ จะติดต่อขอเข้าพบ ‘ขยะ’ เป็นรายชิ้น เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย (ไม่ใช้ความรุนแรง แต่ไม่หน่อมแน้ม) หากสามารถทำความเข้าใจกันได้โดยดีแล้ว ให้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสิ้นสุดการเป็นขยะอย่างสันติวิธี
4.3.2) ในกรณีที่ ‘ชุดเก็บขยะ’ ไม่สามารถติดต่อเข้าพบ ‘ขยะ’ เป็นรายชิ้นได้ ให้ ‘ชุดเก็บขยะ’ นำฝากหนังสือเพื่อเชื้อเชิญและกำหนดวันนัดหมายใหม่กันอีกครั้ง ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้เพื่อนัดพบและทำความเข้าใจ อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย (ไม่ใช้ความรุนแรง แต่ไม่หน่อมแน้ม) หากสามารถทำความเข้าใจกันได้โดยดีแล้ว ให้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสิ้นสุดการเป็นขยะอย่างสันติวิธี
4.3.3) ในกรณีที่พ้นระยะเวลาตามข้อ 4.3.2) ที่ ‘ชุดเก็บขยะ’ กำหนดแล้ว ให้ ‘ชุดเก็บขยะ’ ดำเนินการตามกฎหมาย และติดตามความคืบหน้าเป็นรายสัปดาห์ โดย ‘ชุดเก็บขยะ’ จะไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามลำพังโดยไม่มีการติดตามความคืบหน้า แต่ ‘ชุดเก็บขยะ’ จะคอยติดตามและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกรูปแบบ เช่น การออกประกาศผ่านเครือข่ายสื่อสาธารณะเพื่อขอความร่วมมือจากผู้พบเห็น ‘ขยะ’ ที่กำลังติดตาม เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อทราบที่พักพิง หลบซ่อน ที่ทำงาน เพื่อให้การติดตามจับกุม’ขยะ’ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและรวดเร็ว ในกรณีที่สามารถติดตามจับกุมเก็บ ‘ขยะ’ ได้แล้ว ให้ ‘ชุดเก็บขยะ’ ยังคงสังเกตุการณ์การจัดทำสำนวนคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดจุดอ่อนในกระบวนการยุติธรรมและติดตามการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด
4.3.4) ‘ชุดเก็บขยะ’ แต่ละชุดจะมีความสามารถในการระวังป้องกันตนเองจาก ‘พิษ’ ของขยะที่อาจเกิดขึ้นโดยเหนือความคาดหมาย ทั้งนี้เพื่อการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตของ ‘ชุดเก็บขยะ’ ตามศักยภาพและขีดความสามารถของ ‘ชุดเก็บขยะ’
4.4) ‘หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะพิเศษ’ จะรับผิดชอบเฉพาะขยะประเภท ‘มีพิษ’ เท่านั้น ทั้งนี้จะจำแนกตามระดับความเป็นพิษต่ำสุด ถึง ระดับความเป็นพิษสูงสุด ซึ่ง ‘หน่วยปฏิบัติงานเก็บขยะพิเศษ’ นี้จะพิจารณารูปแบบในการปฏิบัติอย่างจำเพาะเจาะจงตามแต่กรณี ไม่มีรูปแบบที่เป็นสูตรสำเร็จ
5) อัตรากำลังพล : จิตอาสาที่มีความจงรักภักดี ไม่จำกัดวิชาชีพ ไม่จำกัดคุณวุฒิ ไม่จำกัดเพศ สามารถเป็นกำลังพลในตำแหน่ง ‘คนเก็บขยะแผ่นดิน’ ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้จะประกาศรับสมัครกำลังพลเพื่อจัดกำลังเฉพาะกิจให้ทราบเป็นระยะๆ
6) มวลมหาประชาชนจงกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ ณ โอกาสนี้ว่า “ข้าพระพุทธเจ้า จะจงรักภักดี และถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่” เสร็จสิ้นจากคำสัตย์ปฏิณาณตนนี้แล้ว ท่าน คือ ‘ทหารของพระราชา...คนเก็บขยะของแผ่นดิน’ นับแต่นี้เป็นต้นไป อ้าย อี มันผู้ใดที่เหิมเกริมต่อองค์พระประมุข มันผู้นั้นจะต้องถูกกำจัดให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินที่เรียกว่า 'ราชอาณาจักรไทย'
ด้วยจิตคารวะต่อ พ่อ แม่ พี่ น้อง มวลมหาประชาชน
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
อดีตนายทหารนักเรียน โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำชุดที 73 (พ.ศ.2537 - 2538)
12 เม.ย.57
ทั้งนี้ พลตรี นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ให้สัมภาษณ์ยันยืนแนวคิดการจัดตั้ง ‘องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน’ กับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งองค์กรฯ แห่งนี้ คือการตรวจสอบ และจัดการกับบุคคลที่กระทำการในลักษณะเข้าข่ายการกระทำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้ช่องทางตามกรอบกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช้กำลังทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
"องค์กรฯ นี้เป็นการทำงานร่วมกันของกลุ่มบุคคล ที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำที่หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ปล่อยปละละเลยกันมานาน ทั้งที่เป็นสำคัญมากสำหรับสังคมไทย ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันจัดการปัญหานี้ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด"
พลตรี นพ.เหรียญทอง ยังกล่าวด้วยว่า กระบวนการทำงานขององค์กรฯ จะเป็นลักษณะการตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมข้อมูลรายชื่อ อาชีพ ที่ทำงานของผู้ที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กรายใหญ่ มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ และจะมีการเดินทางไปพบถึงที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเหตุผลในการกระทำดังกล่าว และอธิบายข้อเท็จจริงให้เข้าใจ ถ้าผู้กระทำความผิดทำไปโดยความคึกคะนอง ไม่ได้ตั้งใจ และยอมยุติการกระทำดังกล่าวก็จะไม่เอาผิดอะไร แต่ถ้ากระทำความผิดแบบจงใจ และไม่ยอมยุติการกระทำ ทางกลุ่มจะส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด แต่หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการอะไร จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ด้วย ซึ่งจะมีการติดตามความคืบหน้างานเป็นประจำทุกสัปดาห์
"อยากจะขอเรียนทำความเข้าใจอีกครั้งว่า องค์กรของเรา ไม่ใช่องค์กรลับ ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อจะไปดำเนินการข่มขู่คุกคามทำร้ายอะไรใคร แต่เราจะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายเป็นหลัก และตอนนี้ก็มีนักกฎหมาย แจ้งความประสงค์ที่จะมาเข้าร่วมกับเราแล้วจำนวนมากด้วย และเราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ขยะที่ไม่พึงประสงค์แบบนี้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว"
"ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ คนไทยทั้งประเทศต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน และมันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องจัดการปัญหานี้ให้ยุติไปโดยเร็ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เหมือนกับการโยกฟัน ถ้าเราปล่อยให้เขาโยกกันไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไร สุดท้ายฟันก็จะต้องหักต้องหลุดออกมา ซึ่งเราจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน"
พลตรี นพ.เหรียญทอง ยังกล่าวยอมรับว่า กรณี นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และ นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ตน ตัดสินใจตั้งองค์กรฯ แห่งนี้ขึ้น เพื่อจัดการปัญหาในเรื่องนี้เอง หลังจากที่การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปอย่างล่าช้า
"กรณีโกตี๋ ในขณะนี้ ทางกลุ่มได้มีการประสานไปยังเครือข่ายทั่วประเทศแล้ว ว่าถ้าใครพบเห็นหรือมีเบาะแสอะไรให้แจ้งเข้ามาทันที ส่วนช่องทางการส่งข้อมูลขณะนี้ จะใช้เฟซบุ๊กของผมเป็นช่องทางในการประสานงานเป็นหลัก" พลตรี นพ.เหรียญทองระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด พลตรี นพ.เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความเชิญ ‘คนเก็บขยะ’ ที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมทีมสำรวจและจัดทำบัญชีรายชื่อบุคคลผู้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ร่วมประชุมแนวทางการปฏิบัติที่ ห้องประชุมอรุณวัฒนา ชั้น 8 รพ.มงกุฎวัฒนะ ในวันที่ 16 เม.ย.57 เวลา 18.00 น.
