นายกฯไม่สบายใจใต้มีระเบิด "ภราดร"สงสัยโยงบิ๊กทหารวิจารณ์โต๊ะพูดคุย
นายกฯไม่สบายใจชายแดนใต้ป่วนหนัก สั่ง "ประชา-ยุทธศักดิ์" บินด่วนลงพื้นที่ยะลา ดูแลเรื่องเยียวยาและปรับยุทธศาสตร์การทำงาน เลขาฯสมช.แจงเหตุรุนแรงเป็นไปตามวงรอบวันสำคัญของขบวนการ รวมถึงช่วงเปลี่ยนผ่านแม่ทัพ อ้างบิ๊กทหารวิจารณ์โต๊ะพูดคุยสันติภาพหนัก อาจทำให้ฝ่ายขบวนการไม่พอใจ ขณะที่ตำรวจยะลาได้ภาพ 4 มือบึ้มจากกล้องวงจรปิด
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันอังคารที่ 8 เม.ย.2557 ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ จ.ยะลา เพราะมีผู้บาดเจ็บ 20-30 คน และมีความเสียหายจำนวนมาก จึงมอบหมายให้ตนซึ่งดูแลในส่วนของการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ทันที
สำหรับงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยานั้น ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ จะไปดูแลเรื่องการปรับยุทธศาสตร์การทำงานของหน่วยงานในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำชับเรื่องดูแลสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างไร รวมทั้งวันครบรอบสถาปนาของขบวนการต่างๆ พล.ต.อ.ประชา ตอบเพียงว่า มีการดูแลอยู่แล้ว
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวสั้นๆ ว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นช่วงนี้น่าจะมาจากการเปลี่ยนผ่านตัวผู้บังคับบัญชาพอดี (แม่ทัพภาคที่ 4)
นายกฯไม่สบายใจใต้มีระเบิด
ขณะที่ ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัตร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมว่า รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์ความรุนแรงได้เว้นไปแล้วระยะหนึ่ง จึงขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลเร่งแก้ปัญหาด้วย นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเยียวยาผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรง
มีรายงานว่าในวันที่ 9 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รองผอ.รมน.) จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ใน จ.ยะลา ด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 8 เม.ย.หลังการประชุม ครม. ได้มีรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่แล้ว คือ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยได้เดินทางไปที่ศูนย์เยียวยา ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ (เฉพาะกิจ) หน้าแขวงการทางยะลา ถนนสิโรรส ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ทั้งยังไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วย
สมช.แจงถึงวงรอบป่วน-เปลี่ยนแม่ทัพ
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนแรงขึ้นในช่วงนี้ว่า เดือน เม.ย.เป็นช่วงวงรอบที่จะมีสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะครบรอบการสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น คองเกรส วันสถานปนาธรรมนูญของกลุ่มเบอร์ซาตู และครบรอบเหตุการณ์กรือเซะ (28 เม.ย.) จึงเกิดเหตุการณ์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ มีการแขวนป้ายผ้าและเหตุรุนแรง
นอกจากนั้น สาเหตุอีกประการหนึ่งมาจากที่มีการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 การเปลี่ยนแปลงตัวเลขาธิการ สมช. รวมทั้งการพูดคุยสันติภาพที่หยุดชะงักลงไป ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน กลุ่มที่ไม่ต้องการให้พูดคุยก็พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มต้องการให้พูดคุยก็จะต้องส่งสัญญาณเช่นเดียวกัน เพื่อเรียกร้องให้การพูดคุยดำเนินต่อ แต่ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากขณะนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ
"เราจะประมาทไม่ได้ เนื่องจากเขาส่งสัญญาณมาแล้ว มีโอกาสที่จะเกิดเหตุขึ้นได้ตลอดเวลา พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ไม่เพียงแค่สามจังหวัด แต่ให้ครอบคลุมถึงพื้นที่เศรษฐกิจวงใน เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดอื่นๆ ด้วย ส่วนนราธิวาสและปัตตานีก็ต้องเฝ้าระวังเช่นเดียวกัน" พล.ท.ภราดร ระบุ
บิ๊กทหารวิจารณ์หนักทำขบวนการโกรธ
ต่อข้อถามกรณีพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า สาเหตุหนึ่งของการเกิดเหตุรุนแรงมาจากการพูดคุยสันติภาพของเลขาธิการ สมช.กับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ก็เป็นทัศนะของผู้ที่พูด แต่การพูดคุยที่มีเขาเป็นหัวหน้าในแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้ชี้แจงรายละเอียดอย่างเปิดเผยอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ปิดลับซ่อนเร้น แต่อาจจะมีทหารผู้ใหญ่บางคนไปสื่อว่าขบวนการบีอาร์เอ็นไม่ได้เต็มใจที่จะพูดคุย ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วไม่ใช่ เพราะทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลไทย ทางมาเลเซีย และขบวนการเห็นพ้องต้องกันจึงมาพูดคุย แต่เมื่อฝ่ายเราไปพูดในลักษณะนั้น ก็อาจทำให้กลุ่มขบวนการไม่พอใจและส่งสัญญาณ
"ทางนโยบายเขาต้องการความชัดเจนของผู้ที่จะมาดูแลการพูดคุยต่อ ว่าคนใหม่ที่จะมาแทนผม (หมายถึงบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. ในที่นี้หมายถึง นายถวิล เปลี่ยนศรี) แนวทางการทำงานจะเหมือนกับที่เคยพูดคุยไว้ก่อนหรือไม่ ประกอบกับการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 ฝ่ายขบวนการ ฝ่ายภัยแทรกซ้อนก็มีการลองของกันตลอด เป็นเรื่องปกติ ทุกปัจจัยมีความเกี่ยวข้องกันหมด" พล.ท.ภราดร กล่าวและว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีผลกระทบต่อความชัดเจนในการแก้ปัญหาในทางนโยบาย งบประมาณ และบุคลากรที่จะดำเนินการ เมื่อรัฐบาลไม่มีอำนาจเต็ม ก็จะเกิดข้อจำกัดในการทำงาน
กอ.รมน.อ้างมาตรการ รปภ.มีช่องโหว่
วันเดียวกัน พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอ.รมน.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กอ.รมน.ได้วางมาตรการคุมเข้มพื้นที่เขตเศรษฐกิจหลักใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว และได้เฝ้าระวังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วย เพราะ อ.หาดใหญ่ ถือเป็นพื้นที่ 7 หัวเมืองหลักของจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องดูแลเช่นเดียวกับ อ.เมืองยะลา อ.เบตง จ.ยะลา อ.เมืองนราธิวาส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.เมืองปัตตานี
"ที่ผ่านมาก็ได้ซักซ้อมแผนป้องกันเมืองเป็นประจำทุกเดือน โดยเป็นการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และภาคประชาชน มีการซักซ้อมว่าหากเกิดเหตุใครจะอยู่จุดใด จะอพยพประชาชนไปอยู่ที่จุดไหน แต่ต้องเข้าใจว่าเนื่องจากทั้งหมดเป็นเมืองเศรษฐกิจ มาตรการปิดเมือง หรือ เซฟตี้โซน อย่างเข้มงวดมักจะทำให้ประชาชนร้องเรียนว่ากระทบต่อการสัญจรและการค้า จึงขอให้มีการผ่อนปรน ซึ่งบางครั้งก็กลายเป็นช่องโหว่ และบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติในแต่ละพื้นที่ด้วย" โฆษกกอ.รมน. ระบุ
วงจรปิดยันมือบึ้มยะลา2วันทีมเดียว
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) กล่าวว่า เหตุระเบิดกลางเมืองยะลาทั้งวันที่ 6 และ 7 เม.ย. เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากพบพยานหลักฐานโทรศัพท์มือถือซัมซุง ฮีโร่ ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งกลุ่มคนร้ายใช้ตั้งเวลาจุดชนวนระเบิด รวมทั้งภาพหลักฐานที่ได้จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ที่พบพฤติกรรมของคนร้ายในการนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างซุกระเบิด เข้าไปจอดตรงจุดเกิดเหตุด้วย ขณะนี้มีเป้าหมายผู้ต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
แหล่งข่าวจากชุดสืบสวน เผยว่า คนร้ายที่ลงมือในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 4 คน ขับรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีเทา บรรทุกสิ่งของไว้ด้านหลัง ติดสติ๊กเกอร์องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านแหร (อ.ธารโต จ.ยะลา) ที่กระจกรถด้านหน้า เชื่อว่าต้องการอำพรางว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากนั้นยังพบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง บรรทุกตู้ไอศรีมตามมาด้านหลัง คาดว่าเป็นรถที่ใช้บรรทุกระเบิด
ทั้งนี้ ภาพจากกล้องซีซีทีวี ชี้ชัดว่า รถยนต์กระบะ และรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ได้วิ่งผ่านถนนสาย 15 ผ่านจุดตรวจของอาสารักษาดินแดน (อส.) บริเวณสามแยกสะเตง (อ.เมืองยะลา) แล้วผ่านหน้าโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เมื่อถึงบริเวณสี่แยกตลาดเมืองใหม่ ถนนสิโรรส คนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้างได้จอดรถก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปจอดในซอยร้านฟ้าใสเฟอร์นิเจอร์ ส่วนรถยนต์กระบะ ได้ขับตรงไปตามถนนสิโรรส ผ่านสี่แยกหน้าห้างโคลิเซี่ยมยะลา ก่อนจะกลับรถไปจอดตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่งกล้องซีซีทีวีสามารถบันทึกภาพใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน 1 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบเทียบเคียงกับใบหน้าผู้ต้องสงสัย ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุกำลังตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มจากพื้นที่รอบนอกหรือกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่เมืองยะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : 1-3 ภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่คาดว่าเป็นรถและบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดกลางเมืองยะลา
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น