ดีเอสไอลุยสอบรง.ฟอกหนังลอบทิ้งสารเคมีบ่อขยะแพรกษา
ดีเอสไอลุยสอบนิคมรง.ฟอกหนัง ลอบทิ้งขยะสารเคมี จ่อสั่งปิดโรงงาน - เผยเหตุไฟไหม้บ่อขยะแพรกษารอบ 2 เพราะมีคนจุดไฟลอบหาขยะตอนตี 3
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 นายภูวิช ยมหา ผู้อำนวยการตรวจบริหารคดีพิเศษ รองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ผู้รับผิดชอบคดีที่มีผู้นำกากขยะอุตสาหกรรมและวัตถุอันตรายมาลอบทิ้งในบ่อขยะแพรกษา 8 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีความคืบหน้าในการสืบสวนและติดตามโรงงานที่นำกากขยะอุตสาหกรรมและสิ่งปฏิกูลอันตรายมาลอบทิ้งในบ่อ
นายภูวิช กล่าวว่า ความคืบหน้าตอนนี้เราสืบจากกากขยะอุตสาหกรรม และขยายผลไปเจอสิ่งปฏิกูลอันตราย วัตถุอันตรายต่างๆ แล้ว พบว่ามีการลักลอบนำมาจากโรงงานฟอกหนัง ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ กม.30 จ.สมุทรปราการ วันนี้ เราจึงระดมเจ้าหน้าที่จากทั้งในห้องแล็บของดีเอสไอ เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรมมาร่วมตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน และไปจับโรงงานเถื่อนที่เราตรวจสอบพบว่านำขยะสารเคมีอันตรายมาทิ้งบ่อที่เกิดไฟไหม้ โดยลักษณะโรงงานฟอกหนังที่ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตร 30 ของ จ.สมุทรปราการ ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นพยานหลักฐานต่างๆ ในวันนี้ มีลักษณะเป็นนิคมโรงงานฟอกหนัง โดยมีทั้งโรงงานเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตประกอบการและโรงงานที่มีใบอนุญาต
“ตอนนี้ ดีเอสไอทำการตรวจสอบกากขยะอุตสาหกรรมที่มีการลักลอบนำมาทิ้ง โดยเก็บตัวอย่างจากน้ำทิ้งของเสียที่เป็นกากฟอกหนังในโรงงานฟอกหนัง ซึ่งจากการตรวจสอบเราพบว่ามีดีเอ็นเอตรงกับกากที่นำไปทิ้งที่บ่อขยะแพรกษา ซึ่งเรามีหมายเรียกโรงงานเหล่านี้ให้มาชี้แจง คาดว่าจะมีการเข้าให้ข้อมูล ชี้แจงกับเราช่วงหลังสงกรานต์หรือปลายเดือนเมษายน” นายภูวิช กล่าว
นายภูวิช กล่าวอีกว่าวัตถุ พยานหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอตรวจสอบจากการเปรียบเทียบดีเอ็นเอที่ตรงกันของขยะสารเคมีที่ถูกนำมาทิ้งกับของเสียอันตรายในโรงงาน พบว่ามีทั้งสารปรอท แคดเมียม และโลหะหนักต่างๆ ซึ่งสารอันตรายเหล่านี้ เมื่อถูกปล่อยลงน้ำ ก็เป็นอันตรายกับปลา เมื่อคนกินปลาหรืออาหารทะเลเข้าไป ก็กลายเป็นวงจรที่ทำให้คนปากน้ำ จ.สมุทรปราการได้รับอันตรายจากสารพิษเหล่านี้ไปด้วย ดังนั้น ความผิดตามกฎหมายที่โรงงานเหล่านี้จะได้รับจึงมีหลายส่วน ทั้ง พรบ.วัตถุอันตราย พรบ.สิ่งแวดล้อม พรบ.สาธารณสุข และกฎหมายอาญา
“โรงงานที่เราตรวจสอบพบว่ามีความผิดในการลักลอบนำกากสารเคมี ขยะอุตสาหกรรม สิ่งปฏิกูลอันตรายมาทิ้ง เราจะสั่งปิดโรงงาน ปิดกิจการ” นายภูวิช กล่าว
ส่วนเหตุไฟไหม้บ่อขยะแพรกษาซ้ำรอบ 2 เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันเดียวกัน จากก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น นายภูวิช กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เป็นเจ้าของที่ดิน บ่อขยะ ทำให้ทราบว่ามีคนมาลอบเก็บขยะในเวลา 03.00 น. และมีการจุดไฟค้นหา อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ ในเบื้องต้นคาดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการทำลายพยานหลักฐาน แต่ได้กำชับ ให้เจ้าของที่ดินล้อมรั้วให้มิดชิด ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ที่ยังถูกดำเนินคดีและยังต้องมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ การปล่อยให้มีคนเข้าไปอาจเป็นการทำลายพยานหลักฐานได้
“วันนี้ ดีเอสไอลงพื้นที่มาตรวจสอบเหตุไฟไหม้ที่บ่อขยะแพรกษา ผมได้สอบสวนเจ้าของที่ดินบ่อขยะแล้ว ได้รับข้อมูลว่าเวลาประมาณ ตี 3 กว่าๆ มีคนเก็บขยะเข้าไปรื้อค้น ลักขโมย เพื่อจะนำขยะคัดแยกมาขาย แล้วกลุ่มคนเก็บขยะ เหล่านี้ก็เป็นคนจุดไฟ นี่คือ ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากการสอบสวนเจ้าของที่ดิน เราจึงขอความร่วมมือไปยังเจ้าของที่ดิน ให้ เขาทำกำแพง ห้ามคนเข้าโดยเด็ดขาด เพราะปัจจุบัน บ่อนี้ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี การให้ใครเข้าไปก็เป็นการยอมให้มีคนเข้าไปทำลายหลักฐาน เราก็เลยขอความร่วมมือ กำชับให้เขาทำรั้วอย่างมิดชิด ห้ามให้ใครเข้าไปอีกเด็ดขาด ส่วนเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ เกิดจากการจุดไฟของคนมาหาขยะ ไม่เกี่ยวกับการทำลายพยานหลักฐาน” นายภูวิช กล่าว
ภาพประกอบจาก bangkokbiznews