บึ้ม 4 จุดกลางเมืองยะลาดับ 1 เจ็บเพียบ ยิงรายวัน 3 เหตุ 4 ศพ
ใต้ป่วนหนัก บึ้ม 4 จุดในเขตเทศบาลนครยะลา ทั้งคาร์บอมบ์-โชเล่ย์บอมบ์ สังเวยชีวิต 1 ราย เจ็บอีก 24 เผยมีเด็กรับเคราะห์ได้รับบาดเจ็บหลายคน เหตุเกิดหลังแม่ทัพภาค 4 คนใหม่เพิ่งปฏิบัติภารกิจแรกใน อ.เมืองยะลา ยิงรายวันยังชุก วันเดียว 3 เหตุ 4 ศพ กลุ่มผู้หญิงเพิ่งออกจากวัดหลังทำบุญที่ปะนาเระยังโดนดักสังหารตาย 2
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเกิดเหตุระเบิดในเวลาใกล้เคียงกันถึง 4 จุดในเขต อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีบางจุดอยู่ในย่านการค้าซึ่งไม่เคยเกิดเหตุมานานหลายเดือน
เมื่อเวลา 15.50 น.วันอาทิตย์ที่ 6 เม.ย.2557 ศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิด 4 ลูกพร้อมๆ กันบริเวณใจกลางเมืองยะลา หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา พร้อมด้วย พ.ท.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 รับผิดชอบ อ.เมืองยะลา นายสมเกียรติ ศีรษะเนตร นายอำเภอเมืองยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุจุดที่ 1 อยู่บริเวณหน้าร้านราชาเฟอร์นิเจอร์ แยกถนนสิโรรสตัดกับถนน ณ นคร แรงระเบิดทำให้ร้านซึ่งเป็นบ้านไม้ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง ขณะที่บ้านเรือนใกล้เคียงและรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดตรงจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหายจำนวนมาก
จุดที่ 2 บริเวณหน้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ฟ้าใสเฟอร์นิเจอร์ ทางไปตลาดเมืองใหม่ แรงระเบิดทำให้สินค้าภายในร้านได้รับความเสียหาย
จุดที่ 3 ร้านยิ้มจินดาเฟอร์นิเจอร์ ทางเข้าตลาดเมืองใหม่เช่นกัน
จุดที่ 4 คนร้ายวางระเบิดที่หน้าตู้บริการเงินด่วน (ATM) หน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถนนสาย 15 ใกล้สี่แยกมลายูบางกอก ทั้ง 4 จุดอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา โดย 2 จุดแรกเป็นคาร์บอมบ์ และรถโชเล่ย์บอมบ์ (รถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกระเบิด)
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนในพื้นที่ หลังจากในเขตเมืองยะลา ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมเข้มมาตลอด และสามารถป้องกันเหตุรุนแรงได้ โดยไม่เกิดเหตุระเบิดมาเป็นเวลาหลายร้อยวัน
เปิดชื่อผู้บาดเจ็บ-เด็กเพียบ
ทั้งนี้ เหตุระเบิดทั้ง 4 จุด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย คือ นายนิคม กาเจ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ถนนวิทูรอุทิศ 11 ต.สะเตง อ.เมืองยะลา ส่วนผู้บาดเจ็บประกอบด้วย
1.นายมิง ตาแยะ อายุ 18 ปี 2.นายบือราเฮง โต๊ะกือยา อายุ 59 ปี 3.น.ส.สนิวาตี สาเมาะ อายุ 22 ปี 4.นางวิพร แซ่เอีย อายุ 53 ปี 5.น.ส.มารียัม เจ๊ะบู 6.นายดาเล็ง เจ๊ะบู อายุ 51 ปี 7.น.ส.นูรมา เจะเมาะ อายุ 33 ปี 8.น.ส.สูรีนา แมเราะ อายุ 32 ปี
9.นางสะรีอะ อาแว อายุ 50 ปี 10.ด.ญ.นาวาตี สะอิ อายุ 11 ปี 11.น.ส.อาดีละ ดาเลง อายุ 21 ปี 12.ด.ญ.มารีแย มูเชะ อายุ 11 ปี 13.นางซามืเยาะ มะแซะ อายุ 62 ปี 14.ส.ต.อ.บุญโสภณ นรินทร อายุ 37 ปี 15.นางวันดี นรินทร อายุ 34 ปี 16.นายสถาพร เอียดประดิษฐ์ อายุ 25 ปี
17.น.ส.นิปัทมา ยีตูวา อายุ 27 ปี 18.นายสิงห์สมุทร ราชวรรณ อายุ 42 ปี 19.นางบุญยืน คงเหมือนเพชร อายุ 56 ปี 20.นายรุสลี เวาะเย๊า อายุ 27 ปี 21.นายนริศร์ ถนัดรบ อายุ 25 ปี 22.นายณัฐพร ชูชนะ อายุ 46 ปี 23.นายศิริวัฒนา ชูชนะ อายุ 43 ปี และ 24.นายสฤษดิ์พันธ์ แซ่จัง อายุ 37 ปี
เผยบึ้มหลังแม่ทัพภาค4 ปฏิบัติภารกิจแรก
มีรายงานว่า หน่วยงานในพื้นที่กำลังเตรียมเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยืนยันความสำเร็จของกระบวนการพูดคุยสันติภาพที่ทำให้สถานการณ์ความรุนแรงตลอดปี 2556 ลดระดับลง โดยเฉพาะเหตุรุนแรงในเขตเมือง ทั้งยะลาและปัตตานี มีแนวโน้มลดลงมาก ทว่าก็มาเกิดเหตุรุนแรงในย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองยะลาดังกล่าวนี้
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ก่อนเกิดระเบิดเพียงไม่กี่ชั่วโมง พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ผอ.รมน.ภาค 4 สน.) คนใหม่ ได้ปฏิบัติภารกิจแรกหลังรับตำแหน่ง โดยได้เดินทางไปที่ชุมชนคูหามุข ซอยคูหามุข ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อพบปะชาวบ้าน พร้อมร่วมพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุ โดยมี พล.ต.ปราการ ชลยุทธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายสมเกียรติ ศีรษะเนตร นายอำเภอเมืองยะลา และ พล.ต.เกษม ธณาภรณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ร่วมคณะไปด้วย ขณะที่ นายรักชาติ สุวรรณ ประธานชุมชนคูหามุข ได้นำประชาชนและผู้สูงอายุในพื้นที่หลายร้อยคนเข้าร่วมกิจกรรม
โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ได้ร่วมประกอบพิธีสงฆ์ จากนั้นได้ร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูปและร่วมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในพื้นที่ พร้อมทั้งชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชุมชนคูหามุข เช่น การแสดงระบำกลองยาว ด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
พล.ท.วลิต กล่าวว่า ช่วงเวลานี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ ถือว่าการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเป็นการแสดงความเคารพและความกตัญญูต่อผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ พร้อมทั้งรับคำอวยพรเพื่อสิริมงคลของชีวิต ส่วนมาตรการในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ในส่วนของหน่วยงานความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ก็คงต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่อง ดูแล และแจ้งข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ ทั้งนี้เพื่อเป็นมาตรการร่วมกันในการดูแลรักษาความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์
ยิงรถคนส่งอาหารสัตว์ดับ 1 เจ็บ 1
ส่วนวันเสาร์ที่ 5 เม.ย. มีเหตุยิงรายวันทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย เริ่มจากเวลา 12.10 น. ขณะที่ นายอักษร สุวรรณชาติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/7 หมู่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ขับรถกระบะกลับจากตระเวนส่งอาหารสัตว์ให้ลูกค้าใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมี นายอรรถพร เพ็ชรดำรัส อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่เดียวกับนายอักษร นั่งมาด้วยนั้น
ปรากฏว่าเมื่อรถแล่นถึงบ้านวังพลา หมู่ 9 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้ถูกคนร้ายซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 2 คนซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ ทำให้นายอรรถพรเสียชีวิต ขณะที่นายอักษรได้รับบาดเจ็บ โดยหลังจากถูกยิง นายอักษรได้ขับรถหลบหนีไปขอความช่วยเหลือที่ด่านตรวจ กองร้อยทหารราบที่ 15334 (ร้อย ร.15334) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ที่บริเวณสี่แยกบ้านปากู หมู่ 5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง ทำให้รอดชีวิตมาได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
สังหาร 2 สาวหลังกลับจากทำบุญที่วัด
เวลา 13.10 น.วันเดียวกัน ขณะที่ น.ส.เอกปิยะ รัตนปรี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 บ้านทุ่งใหญ่ หมู่ 1 ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และ น.ส.กันยารัตน์ อุ่นอก อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 บ้านนอก หมู่ 3 ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ กำลังขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันตามกันมา หลังเสร็จจากการทำบุญที่วัดประจันตคาม กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมี นางรินดา แดงแก้ว ซ้อนท้ายรถของ น.ส.เอกปิยะ มาด้วยนั้น
ปรากฏว่าเมื่อถึงถนนสายชนบทบ้านทุ่งใหญ่ หมู่ 1 ต.บ้านนอก ได้มีคนร้าย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันตามประกบ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิงใส่กลุ่มสตรีทั้ง 3 คน กระสุนถูก น.ส.เอกปิยะ และ น.ส.กันยารัตน์ เสียชีวิตคาที่ ส่วน นางรินดา รอดคมกระสุนได้อย่างหวุดหวิด เพราะทำทีว่าเสียชีวิตแล้วหลังจากรถล้ม เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัวเอ็ม 16 ดับ จนท.พัฒนาที่ดินปัตตานี
เวลา 15.50 น. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และปืนพกขนาด .38 ยิง นายองอาจ ภู่ทับทิม อายุ 49 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดินจังหวัดปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 73/9 หมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เสียชีวิตคารถ เหตุเกิดขณะที่ นายองอาจ กำลังถอยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ณข 100 ภูเก็ต ออกจากหมู่บ้านปาแดลางา หมู่ 5 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก หลังส่ง น.ส.กอลีเยาะ แยแล อายุ 30 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1-3 เหตุระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ และเครือข่ายร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้)
4 ภารกิจแรกของ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่