เปิดใจ "สุวิทย์ มิ่งมล" "ผมอยากให้บอร์ดอสมท.ทบทวนดูงาน 10 ล."
"..ถ้าบอร์ดอสมท.ยืนยันว่าจะไปต้องเดินทางไป เราก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่เมื่อกลับมาต้องตอบคำถามให้ชัดเจนว่าได้ประโยชน์อะไร เพราะเรื่องนี้ปรากฏเป็นสาธารณะแล้ว ถ้าตอบคำถามได้ถือว่าคุณสอบผ่าน แต่ถ้าตอบคำถามพนักงานไม่ได้ ตอบคำถามสังคมไม่ได้ ก็ต้องมีมาตรการดำเนินการต่อ.."
จากกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสื่อเรื่องขอให้พิจารณาทบทวนความเหมาะสมและจำเป็นในการเดินทางไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา โดยหนังสือส่งตรงไปยังสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ในหนังสือลงชื่อนายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงต่อสายตรงไปยังนายสุวิทย์ เพื่อสอบถามที่มาที่ไปในการทำหนังสือฉบับดังกล่าว
@ เหตุใดถึงทำหนังสือให้ผู้บริหารอสมท. ทบทวนการเดินทางไปดูงานสหรัฐอเมริกา
ผมอยากให้บอร์ดอสมท.ทบทวนการใช้เงินจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งตามที่ผมให้เหตุผลไปแล้วคือ การเดินทางไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาทีวีดิจิทัลมันไม่สมควร เพราะระบบทีวีดิจิทัลของไทยใช้เทคโนโลยีจากสหภาพยุโรป ความรู้ที่บอร์ดจะได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้จึงไม่น่าจะสอดคล้องกับวงการทีวีดิจิทัลเมืองไทย และขอถามว่าการไปศึกษาดูงานด้านสังคม ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มันเกี่ยวข้องกับอสมท.ตรงไหน ของสหรัฐอเมริกา ในขณะนี้อาจไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงพันธกิจของบมจ.อสมท
@ นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงมาว่าบอร์ดอสมท.มีงบประมาณในการศึกษาดูงานปีละ 13 ล้านบาท ไปครั้งนี้ใช้ 10 ล้านบาท จึงเหลืออีก 3 ล้านบาท ในการบริหารจัดการทั้งปี
งบประมาณศึกษาดูงานของบอร์ดอสมท.มีปีละ 13 ล้านบาท ผมไม่เถียง มันเป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง แต่คนอสมท.ข้อใจเรื่องประสิทธิภาพในการไปศึกษาดูงาน อย่างที่บอกประเทศไทยใช้ระบบทีวีดิจิทัลของสภาพยุโรป แต่บอร์ดอสมท.ไปสหรัฐอเมริกามันถูกต้องแล้วเหรอ
อีกอย่างคือคนอสมท.รู้สึกได้ว่า ความพร้อมของคนอสมท.ในการปรับตัวเข้าสู่ระบบทีวีดิจิทัลมันมีในระดับหนึ่ง แต่เราคิดว่าเราควรมีความพร้อมมากกว่านี้ พนักงานรู้สึกว่าถ้าบอร์ดอสมท.สามารถบริหารให้เงินเข้ามาได้ เงิน 13 ล้านบาท ที่จะไปดูงานกลับมาแล้วนำมาบริหารงานให้คุ้มค่า พนักงานจะไม่รู้สึกเสียดายเลย
“แต่ปัจจุบันภายใต้การบริหารของบอร์ดอสมท.ชุดนี้ รายได้ของอสมท.มันตก ความนิยมของประชาชนมันตก รายได้มันลดลง คู่แข่งมันเยอะขึ้น อนาคตอยู่บนความไม่แน่นอน ตลาดเปิดกว้างขึ้น ถ้าเทียบกับเกณฑ์ในอดีต ถ้าอ้างว่ามีงบไปดูงาน 13 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกับประสิทธิผลมันคุ้มหรือไม่”
@ ทำหนังสือให้ทบทวนตอนนี้จะทำให้บอร์ดอสมท.ทบทวนทันหรือไม่ เพราะจะเดินทางไปในวันที่ 9 เมษายน 2557
ผมไม่รู้ว่าจะทันหรือไม่ เพราะมันอยู่ที่บอร์ดอสมท.จะทบทวนหรือไม่ ตอนนี้ผมคิดว่ามันยังมีเวลา คณะเดินทางไปประมาณวันที่ 9 เมษายน ถ้ายกเลิกทั้งหมดไม่ได้ ก็สามารถยกเลิกบางส่วนได้ เช่น ลดโปรแกรม ลดจำนวนวันได้ ปรับคนให้น้อยลง เป็นต้น
@ ที่ผ่านมาอสมท.เคยส่งคนไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับทีวีดิจิทัลบ้างหรือไม่
มี ทำมาหลายคณะแล้วด้วย แต่ยังไม่เห็นคนที่ไปศึกษาดูงานคณะไหนนำความรู้ที่ไปศึกษามาทำให้เกิดประโยชน์ต่ออสมท.เลย พนักงานเห็นว่าพอเข้าสู่สมรภูมิทีวีดิจิทัล เราต้องพร้อมที่จะต่อสู้กับคู่แข้ง แต่ไม่เห็นว่าคนไปดูงานทำอะไรให้เกิดประโยชน์เลย
@ หากบอร์ดอสมท.ไม่ทบทวนในฐานะสหภาพจะดำเนินการอย่างไรต่อ
ถ้าบอร์ดอสมท.ยืนยันว่าจะไปต้องเดินทางไป เราก็ห้ามอะไรไม่ได้ แต่เมื่อกลับมาต้องตอบคำถามให้ชัดเจนว่าได้ประโยชน์อะไร เพราะเรื่องนี้ปรากฏเป็นสาธารณะแล้ว ถ้าตอบคำถามได้ถือว่าคุณสอบผ่าน แต่ถ้าตอบคำถามพนักงานไม่ได้ ตอบคำถามสังคมไม่ได้ ก็ต้องมีมาตรการดำเนินการต่อ
@ มีช่องทางไหนในการดำเนินการ
ก็ต้องรอดูก่อน ในกรณีอื่นสหภาพฯก็ดำเนินการอย่างแข็งแรงมาตลอด เช่น การยืนหนังสือต่อนายกฯ เป็นต้น ซึ่งผมเชื่อว่าความลับไม่มีในโลก ถ้าเป็นโปรแกรมไปดูงานนิดเดียว ทีเหลือไปนอกโปรแกรม บอร์ดก็ต้องเตรียมตอบคำถาม ด้วยแรงกดดันตอนนี้ ผมหวังว่าบอร์ดจะทบทวนเรื่องนี้อย่าถี่ถ้วน
@ มีคำถามออกมาว่าผู้บริหารอสมท.สั่งให้พนักงานปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น แต่บอร์ดอสมท.กลับใช้งบประมาณไปดูงานต่างประเทศ
ตอนนี้มีคนพยายามเบี่ยงประเด็นว่าผู้บริหารให้ดื่มน้ำเปล่า เราจึงออกมาทักท้วง ซึ่งมันไม่ใช่เลย อย่ามองประเด็นนี้เป็นสำคัญ ให้มองถึงความคุ้มค่าในการใช้เงิน 10 ล้านบาท ไปศึกษาดูงานดีกว่า คำถามมันเกิดจากความรู้สึกของเรา
“พนักงานอสมท.โดนปรับลดทุกอย่าง แม้กระทั่งเงินล่วงเวลา มีใครได้เกินกว่าที่กำหนดหัวหน้าต้องชี้แจงทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างต้องชี้แจง พอมาเกิดกรณีดังกล่าวมันสวนทางกับความรู้สึกของพนักงาน คุณมาสั่งรัดเข็มขัดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตัวคุณเองยังไม่รัดเข็ม ผมอยากถามตรงนี้”