“มติชน”ส่งหนังสือขอความเป็นธรรม“สตง.”กรณีงบฯอีเวนต์ 240 ล้าน
“มติชน”ส่งหนังสือขอความเป็นธรรม“สตง.”กรณีงบฯอีเวนต์ 240 ล้านโครงการ Roadshow 2 ล้านล. แจงสลน.ตรวจรับงานแล้ว ควักจ่ายทดรองไปก่อน 130 ล้าน แต่ยังไม่ได้รับเงิน ยันรับงาน ก่อน มีผู้ร้องในศาล รธน.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการจัดงานนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจและข้อมูลข่าวสารในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในพื้นที่ 7 จังหวัด ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม -17 พฤศจิกายน 2556 หรือ โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) โดยมีสาระสำคัญว่า การจัดงานได้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นตามสัญญาจ้าง และผ่านการตรวจรับงานจากสลน. และผ่านการประเมินจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จนกระทั่งมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ให้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ยืนยันตัวเลขผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนทั้งสิ้น 591,658 คน และมีประชาชนเสนอความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการถึง 71,705 คน
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ยังระบุด้วยว่า ทั้งนี้ ในการจัดงานที่ผ่านมาบริษัทได้ทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายไปทั้งสิ้นเป็นเงินกว่า 130 ล้านบาท แต่จนกระทั่งถึงปัจจุบันซึ่งเลยเวลาอันสมควรมานานแล้วแต่บริษัทยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสัญญาแต่อย่างใด อันมิได้เป็นไปตามมาตรฐานการประกอบธุรกิจตามปกติ
บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ยังระบุด้วยว่า ส่วนข้อท้วงติงของสตง. ว่า การใช้จ่ายตามโครงการดังกล่าว มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่เกิดประสิทธิภาพหรืออาจจะเกิดความสูญเปล่า ไม่ประหยัด ไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่า และ โครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน ของศาลรัฐธรรมนูญนั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า เมื่อพิจารณาจากผลการประเมินการจัดงานนิทรรศการของ สศช. ที่พบว่าการจัดนิทรรศการประสบความสำเร็จสูง ไม่ว่าจะพิจารณาจากจำนวนประชาชนผู้เข้าร่วมชมงาน หรือจากการตอบสนองต่อข่าวสารข้อมูลที่ได้รับซึ่งสอดคล้องต้องกันกับหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน ตรงตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ปี 2550
นอกจากนี้แล้วระยะเวลาของการดำเนินการจัดงานนิทรรศการ ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการ ล้วนเกิดขึ้นก่อนที่จะมีผู้ไปยื่นเรื่องให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโครงการกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน หรือเกิดขึ้นก่อนที่ศาลจะรับเรื่องไว้ ไต่สวนและพิจารณา ดังนั้น การดำเนินการจัดงานนิทรรศการดังกล่าว จึงแยกต่างหากจากโครงการกู้เงินดังกล่าว มิได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่ประการใด กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเลย
บริษัท มติชนฯ ยังระบุในท้ายหนังสือว่า ดังนั้น บริษัทจึงได้ทำหนังสือถึง สลน.เพื่อขอความเป็นธรรมกับผู้รับจ้างทำงานให้กับภาครัฐไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่งานนิทรรศการ ได้สำเร็จลุล่วงตามสัญญาแต่ยังมิได้รับเงินค่าจ้าง ตามสัญญาในเวลาอันสมควร ทั้งที่ได้สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายไปหมดไปก่อนแล้ว หรือในประเด็นข้อท้วงติงและความกังวลของ สตง. บริษัทก็สามารถชี้แจงทำความเข้าใจได้ และพร้อมที่จะเข้าชี้แจงกับ สตง.หรือหน่วยงานใด ก็ตามที่ยังมีข้อสงสัยในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีและถูกต้อง
ลงชื่อ
นายศิษฎ์ สุนันท์สถาพร
ที่ปรึกษากฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับกรณีการว่าจ้างบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดงานพีอาร์โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท (มติชน ได้รับงาน 140 ล้านบาท ,สยามสปอร์ต ได้ 100 ล้านบาท) ดังกล่าว สตง. เคยทำหนังสือถึง สลน. เพื่อขอให้ทบทวนการจ่ายเงินว่าจ้างจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชนทั้งสองรายดังกล่าวมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่า กฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่รัฐบาลนำมาใช้เป็นวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานประชาสัมพันธ์ดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ปรากฏผลชัดเจนว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาหรือไม่
ขณะที่กระบวนการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับงานนี้ ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น โดยเฉพาะการสืบราคางานจากบริษัทเอกชนเพียงรายเดียว
แต่ สลน. โดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในหนังสือตอบ สตง.เป็นทางการว่า ไม่สามารถทบทวนได้ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
"รัฐบาลมีหน้าที่ในการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ การจัดงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฎิบัติงานตามนโยบายที่แถลงไว้
" ในส่วนร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.....จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็จะพิจารณาทบทวนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว แต่ขั้นตอนของงานและกระบวนการส่วนอื่นที่ดำเนินการตามนโยบายก็ล้วนแต่ให้เกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องตามวัตถุประสงค์และจำเป็นต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ" นายสุรนันท์ ระบุในหนังสือตอบ สตง.