บึ้มตำรวจจะแนะเจ็บ 3 ยิง ผญบ.สายบุรี รวบแก๊งปลอมธนบัตร
ความรุนแรงชายแดนใต้ลดระดับ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์มีเหตุป่วนแค่ 2 เหตุ บึ้มตำรวจชุดสืบสวน สภ.จะแนะ เจ็บ 3 และยิงผู้ใหญ่บ้านที่สายบุรีดับ พร้อมชิงปืนอาก้า นาวิกฯจับ 4 ผู้ต้องสงสัยโยงฆ่าครูตากใบ ขณะที่ตำรวจยะลารวบยกแก๊งปลอมแบงก์พันตระเวนซื้อของในเมืองยะลา
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างสงบเงียบ โดยมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย เมื่อเวลา 15.30 น. วันอังคารที่ 25 มี.ค.2557 ร.ต.ท.ชัยณรงค์ ละหว้า ร้อยเวร สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จะแนะ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนในบ้านมะนังกาแยง หมู่ 3 ต.จะแนะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า แบบ 4 ประตูสีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฮ 6036 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพเสียหลักชนต้นไม้เสียอยู่บริเวณไหล่ถนน กันชนหน้าด้านตรงข้ามคนขับถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบหลุมระเบิดริมถนนลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส หนักประมาณ 25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร กระจายเกลื่อน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นตำรวจ 3 นาย ประกอบด้วย ส.ต.ต.ภูมิพัฒน์ บุญสกันต์ อายุ 22 ปี ส.ต.ต.ธีรยุทธ สวนทอง อายุ 24 ปี และ ส.ต.ต.สรายุทธ พร้อมมูล อายุ 23 ปี ถูกแรงอัดของระเบิดอาการสาหัส เพื่อนตำรวจนำส่งโรงพยาบาลจะแนะ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ต.ธีรยุทธ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้พาพวกอีก 2 นาย นั่งรถกระบะของโรงพักออกไปสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่เกี่ยวโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีคนร้ายแฝงตัวอยู่ในป่ายางพารา ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้รถไถลตกข้างทาง จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายยังมีสติ ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสุ่มเข้าไปในป่า เพราะเกรงกลุ่มคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ ทำให้คนร้ายหลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
รัวอาก้าดับผู้ใหญ่บ้านละหาร
ก่อนหน้านั้น เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 24 มี.ค. คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า ปืนพกขนาด 9 มม. และขนาด .38 นิ้ว ยิง นายอับดุลเลาะ สีวัน อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ละหาร สายบุรี จ.ปัตตานี เสียชีวิตคารถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียนแดง ฐ 9489 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดบริเวณสามแยกทางเข้าบ้านบลีกู หมู่ 5 ต.ละหาร อ.สายบุรี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า นายอับดุลเลาะมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ขณะเกิดเหตุกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากตรวจงานก่อสร้างถนนคอนกรีตในพื้นที่บ้านบลีกู หมู่ 5 โดยระหว่างทางถูกคนร้ายดักยิง และชิงอาวุธปืนอาก้าของนายอับดุลเลาะไปด้วย โดยก่อนหน้านี้นายอับดุลเลาะเคยถูกยิงมาแล้ว 2 ครั้ง แต่รอดชีวิตมาได้ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่ก็ยังไม่ตัดปมขัดแย้งอื่นๆ ทิ้งไป
จับ 4 ผู้ต้องสงสัยยิงครูสมศรี
วันอังคารที่ 25 มี.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ครูสมศรี ธัญญเกษตร ครูโรงเรียนบ้านโคกมือบามิตรภาพที่ 223 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายประกบยิงขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มี.ค.
ทั้งนี้ พิธีพระราชทานเพลิงศพมีขึ้นที่วัดโฆษิต อ.ตากใบ โดยมีครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนครู ข้าราชการทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองไปร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
น.อ.นพดล ฐิตวัฒนะสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้ กองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 4 รายมาสอบสวน โดยควบคุมตัวได้ในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับเหตุการร์ยิงครูสมศรี โดยตรวจสอบจากปืนของคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 รายที่ปรากฏภาพในกล้องโทรทัศน์วงจรปิดนั้น กำลังติดตามตัวอยู่
ยะลารวบยกแก๊งผลิต-ใช้ธนบัตรปลอม
วันพุธที่ 26 มี.ค. พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมแก๊งคนร้ายปลอมธนบัตรไทย ที่ได้นำไปใช้ซื้อของจนสร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อค้าแม่ค้าเมืองยะลาอยู่ในขณะนี้ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง รวม 4 คน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาชุดแรกที่จับกุมมี 2 คน คือ น.ส.รอมีนา มะยีแต อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/19 หมู่ 1 ต สะเตงนอก อ เมือง จ.ยะลา และ น.ส.ลัดดา โพธิ์เพชร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/2 หมู่ 2 ต ทุ่งกุลา อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 3 ฉบับ รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องหาทั้งสองใช้เป็นพาหนะนำธนบัตรปลอมเข้าไปซื้อของที่ร้านขายของชำของ นายซูบรี ลาเต๊ะ ตั้งอยู่ หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ เมืองยะลา
ต่อมาตำรวจได้นำตัวทั้งคู่ไปสอบขยายผล กระทั่งรับสารภาพว่าได้รับธนบัตรปลอมมาจาก น.ส.บุษบา หิรัญญกร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 12 ต สะเตงนอก โดยได้ร่วมกับ นายภัทรพงศ์ เพชรโชติ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยสะพรั่งอุทิศ 2 ถนนอาคารสงเคราะห์ 3 เขตเทศบาลนครยะลา จึงได้ติดตามไปจับกุม พร้อมยึดของกลางธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท ได้รวม 42,000 บาท รวมทั้งอุปกรณ์ผลิตธนบัตรปลอม ได้แก่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ปรินท์เตอร์ รวมทั้งอาวุธปืน ก่อนส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สภาพรถกระบะของตำรวจชุดสืบสวน สภ.จะแนะ โดนระเบิดจนเสียหลักตกไปข้างทาง (ภาพโดย ปทิตตา หนูสันทัด)
2 ธนบัตรปลอมของกลางที่ตำรวจยะลาตามยึดได้ (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)