ใครเป็นใคร ? “เต้น” กางโผ “ว่าที่ครม.คนกลาง” ร่วมขบวนสภาปชช.
“…ถ้าให้น้ำหนักคนที่ผมจะพูดถึง มีความใกล้ชิดกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง มากกว่าคนที่มีรายชื่อว่าที่นายกฯคนกลางหลายเท่า บทบาทชัดเจนกว่าหลายเท่า และปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเหล่านี้คือคนร่วมขบวนการนกหวีดกับนายสุเทพ…”
เป็นที่จับตาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อ “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาประกาศโผรายชื่อ “คณะรัฐมนตรีคนกลาง” ที่มีวี่แววว่าจะได้เป็นหากกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย (กปปส.) ชนะศึกครั้งนี้ และประกาศจัดตั้งสภาประชาชน และรัฐบาลประชาชน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน “ณัฐวุฒิ” ได้เปิดเผยรายชื่อ “นายกรัฐมนตรีคนกลาง” จนทำเอาใครหลาย ๆ คนในโผต้องรีบออกมาปฏิเสธกับพัลวันเลยทีเดียว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงนำข้อมูล “ครม.คนกลาง” จาก “ณัฐวุฒิ” มาเสนออย่างละเอียด ดังนี้
“ข้อมูลต่อไปนี้แหล่งข่าวทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางสังคม ให้ผมมานำมาสรุป เพื่อบอกว่าใครน่าจะอยู่ในกลุ่ม “ว่าที่รัฐมนตรีของว่าที่รัฐบาลคนกลาง” ใครจะอยู่คุมเกมกฎหมาย คุมเกมฝ่ายสภา ที่จะทำหน้าที่วางเกมปฏิรูปการเมืองอย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดต่อไป
และเหมือนกับตอนผมเปิดเผยรายชื่อ “นายกฯคนกลาง” รายชื่อทั้งหมดผมรับผิดชอบในสิ่งที่พูดเพียงผู้เดียว
ถ้าให้น้ำหนักคนที่ผมจะพูดถึง มีความใกล้ชิดกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง มากกว่าคนที่มีรายชื่อว่าที่นายกฯคนกลางหลายเท่า บทบาทชัดเจนกว่าหลายเท่า และปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเหล่านี้คือคนร่วมขบวนการนกหวีดกับนายสุเทพ
และถ้าหากมีการยึดอำนาจกวาดล้างรัฐบาลจากเลือกตั้ง โดยนายสุเทพสำเร็จ คนนี้ผมฟันธง ล้านเปอร์เซ็นต์ มีเต็งเดียว ไม่มีเต็งอื่น ไม่มีตัวสอดแทรก ไม่มีม้ามืด มีคนนี้เท่านั้น คือตำแหน่งรัฏฐาธิปัตย์ของไทย”
1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.
“ถ้านายสุเทพยึดอำนาจสำเร็จ จะมีรัฏฐาธิปัตย์ชื่อ “สุเทพ” อย่างไม่ต้องสงสัย และเขาจะมีอำนาจสูงสุดในไทย เหนือกว่าอำนาจนิติบัญญัติ เหนือกว่าอำนาจบริหาร เหนือกว่าอำนาจตุลาการ คำสั่งของนายสุเทพถือเป็นกฎหมาย มีอำนาจที่จะสั่งจับ สั่งขัง สั่งไล่ล่าใครก็ได้ สั่งประหารชีวิตใครก็ได้ สั่งยึดทรัพย์ใครก็ได้ สั่งเนรเทศใครก็ได้
เรื่องนี้ผมไม่ได้ใส่ร้าย ก็นายสุเทพพูดหลายครั้งบทเวทีว่าจะเป็น และพูดชัดมาตลอด และภารกิจแรกหากสำเร็จคือยึดทรัพย์นายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมไปถึงเนรเทศนายกฯ และครม. ออกจากประเทศไทย
และนายสุเทพไม่สามารถทำแบบนี้ได้เลย ถ้าเขาไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้นนี่คือเต็งหนึ่ง เต็มหาม นี่คือคนที่จะนอนมา แต่ผมเข้าใจว่าจะนอนไป
นอกจากนี้นายสุเทพจะออกมาประกาศคำสั่งต่าง ๆ ว่าให้คนทำ หรือไม่ทำแล้ว ถ้าไม่จริงให้ลองปฏิเสธดูสิว่าไม่ใช่คุณ ว่าคุณเตรียมการบทบาทนี้ว่าให้นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ (โฆษก กปปส.) ก็ยืนยันมาสิ ผมจะได้ทราบ
ต่อมารัฏฐาธิปัตย์คนนี้จะจิ้ม “นายกฯคนกลาง” ซึ่งชื่ออยู่ในที่ผมพูด 2 วันก่อนหน้า และจนถึงวันนี้ยังยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงว่า “ว่าที่นายกฯเถื่อน” อยู่ในนั้น คอยดูแล้วกัน ถ้านายสุเทพทำได้ แต่ผมเชื่อว่ามันจะไม่ถึงวันนั้น
แน่นอนฉากที่วางไว้ เมื่อนายสุเทพเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งประกาศแล้วว่าไม่รับตำแหน่งทางการเมืองอีก รวมไปถึงคนในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะสำแดงสปิริตทางการเมืองประกาศไม่รับตำแหน่งใด ๆ กับรัฐบาลเถื่อนชุดนั้น
อย่างไรก็ตาม ปชป.จะมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือรัฐบาลเถื่อนที่ตั้งมา เพราะกดพรรคการเมืองอื่นเขาหมด และถ้าหากว่า “ว่าที่นายกฯเถื่อน” หรือ “ครม.เถื่อน” ที่โผล่ชื่อมานั้น ไม่ผ่านความเห็นชอบของคนใน ปชป. อย่างน้อยที่สุดที่อยู่บนเวที กปปส. ก็ไม่น่าจะผ่านด่านเข้ามานั่งเก้าอี้ได้
ดังนั้นอย่าปฏิเสธเลยว่า ปชป. ไม่เกี่ยวกับ กปปส. เพราะนายกฯเถื่อน นอกจากเป็นนายกฯนอกกติกาแล้ว ยังเป็นนายกฯที่เป็นนอมินีทางอำนาจของ ปชป. ด้วย”
2.”หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี
“อย่าหาว่าผมมีอะไรกับท่านนี้เลย แต่บังเอิญว่าชื่อมันไม่หลุดวงโคจร ถ้าท่านผู้นี้มองแค่เก้าอี้รัฐมนตรี ก็นอนมาชัวร์ เต็งหาม ไม่มีความเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ นั่นคือ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล
ถ้าท่านสมัครใจรับตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาลนอกรัฐธรรมนูญ จะมีท่านเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน แต่ในเมื่อวันนี้เราเชื่อว่า สายตาท่านมองผ่านเก้าอี้รัฐมนตรีทุกตัว แต่มองไปถึงเก้าอี้นายกฯ ดังนั้นขอผ่านไปในลักษณะนี้”
3.นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ว่าที่รัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง ถ้าเทียบโมเดลกับรัฐบาลสุรยุทธ์ ซึ่งเรียกกันว่า “รัฐบาลขิงแก่” จะพบว่ารัฐบาลชุดนั้นมีการตั้งคนเป็นรัฐมนตรีมาจากอดีตข้าราชการระดับปลัดกระทรวงหลายคน อ้างว่าเป็นการวางคนให้ถูกกับงาน
ดังนั้นผมจึงขอชี้ไปว่า ว่าที่รัฐมนตรี ซึ่งมีข้อมูลว่าได้มีการกระซิบกระซาบกันไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า “น้องมีลุ้นแน่ ๆ” ชนิดเรียกว่าโอกาสได้มากที่สุด คือ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข “นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์” ที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหวกวาดต้อนข้าราชการมาชุมนุมกลุ่มนกหวีด รณรงค์ให้แพทย์ในโรงพยาบาลต่างจังหวัดขึ้นป้ายต่อต้านรัฐบาล สร้างแรงเสียดทานทางการเมืองให้รัฐบาล และตั้งหน่วยสนับสนุน กปปส. กลางกระทรวงสาธารณสุข เวลานี้ อย่างไรก็ตามอย่าให้ระบุเลยว่าจะได้กระทรวงใด เพราะเกินความสามารรถ แต่ชี้ไว้แบบนี้”
4.นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น
“ปกติรัฐมนตรีของรัฐบาลนอกกฎหมาย มักหาคนภาพลักษณ์หลากหลาย ดังนั้นคนภาคธุรกิจ และเอกชน ยังเป็นเรื่องจำเป็น ในชั้นนี้เราหยิบยกข้อมูลมารวมกัน แล้วชี้ไปว่าหนึ่งในว่าที่รัฐมนตรีคนสำคัญคอยดูแลเศรษฐกิจ คือ “คุณประมล สุธีวงศ์” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น
ท่านผู้นี้เป็น อดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปี 2549 หลังการเปลี่ยนข้างตั้งนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ในค่ายทหาร มีกระแสข่าวว่าจะเชิญคุณประมล มาเป็นรัฐมนตรีดูแลเศรษฐกิจในรัฐบาลนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้นตามกระแส แต่วันนี้ข้อมูลต่าง ๆ ที่ไหลเข้ามาปฏิเสธไม่ได้ว่า ชื่อของเขานั้นมีนัยสำคัญ”
5.นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
“คนต่อไป คนนี้พิเศษ แม้ว่าสถานะปัจจุบัน หลายคนบอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ผมบอกว่าดูเส้นทางให้ดี คนนี้เป็นไปได้ว่าจะมานั่งเป็นรัฐมนตรี คือ นายจรัญ ภักดีธนากุล ซึ่งแม้ว่าไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวในนามกลุ่มนกหวีด เพราะโดยสถานะไม่อาจกระทำได้ แต่ว่าจุดยืนทางการเมืองที่ผ่านมาเป็นที่เข้าใจ
เส้นทางชีวิตของนายจรัล หลังโค่นล้มพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น่าสนใจ และตรงนี้เราชี้ว่าเขาอาจแป็นคนหนึ่งในครม. นี้ก็เป็นได้ เพราะตอนรัฐบาลคุณทักษิณเจอกดดันอย่างหนัก นายจรัล ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่งเลขาฯศาลฎีกา
แต่พอยึดอำนาจก็ได้เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมและดำรงตำแหน่งในช่วงรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พอหมดรัฐบาลขิงแก่ มาเลือกตั้งในปี 2550 รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายจรัล ก็ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นเส้นทางโยกไปมาเช่นนี้ ก็อาจมีความเป็นไปได้ เพราะท่านมีบทบาทสำคัญในหลายเรื่อง หลายกรณี โดยเฉพาะกรณีคอขาดบาดตายทางการเมืองต่อรัฐบาลเพื่อไทย ท่านเป็นคนขยัน ท่านทำงานตลอด และมีข้อมูลว่าท่านน่าจะเป็นคนทำงานแทนคนอื่นอีกหลายคน”
6.นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
คนต่อไป เขาบอกว่า คนเหล่านี้ แม้ว่าจะมีสถานะภาพลักษณ์เป็นนักวิชการ แต่สำหรับหลายคนถือว่าเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายทางการเมือง บางคนปรารภกับเพื่อนฝูงว่า สนใจการเมือง อยากเข้ามาการเมือง วางแผนชีวิตทางการเมืองมาตั้งแต่ต้น แต่โอกาสไม่พอเหมาะสักหน ดังนั้นเที่ยวนี้ คนเหล่านี้มีการเตรียมตัวพอสมควร ผัดหน้าทาแป้ง และออกแรงพอสมควรในการเคลื่อนไหวของ กปปส.
คนแรก “นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์” อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ถือว่าเป็นแกนนำคนหนึ่งของ กปปส. แม้ว่าช่วงหลังหายหน้าไปเป็นแรมเดือน แต่เป็นมันสมองด้านกฎหมายคนหนึ่ง คอยกำหนดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ และในนการเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลคุณทักษิณ รัฐบาลพรรคพลังประชาชน หรือรัฐบาลเพื่อไทย นายสมบัติ มีบทบาทมาตลอดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเคยมีตำแหน่งอยู่ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อีกด้วย”
7.นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์
“อีกคนหนึ่งเป็นนักวิชาการเหมือนกัน แต่ออกแรงไม่น้อยไปกว่าใครคือ “นายสุรพล นิติไกรพจน์” อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาตร์ เป็นมือกฎหมายสำคัญของรัฐบาล ปชป. และเคยเป็นบอร์ด อสมท. ในสมัยรัฐบาล ปชป. เที่ยวนี้ไล่ขั้นบันได คราวที่เล่นเป็นประธานบอร์ดรัฐวิสหากิจใหญ่ คราวนี้มองเก้าอี้เสนาบดีเช่นเดียวกัน”
8.นายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง
“อีกคนหนึ่งซึ่ง เป็นมือเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน คนนี้ชื่อเพิ่งเข้ามาที่ผมไม่นานนัก แต่คนส่งชื่อมาเป็นคนที่ผมไม่ต้องตรวจสอบอะไรเลย เพราะถือว่าอยู่ชั้นในใกล้ชิด เขาบอกว่า “คนนี้เคลื่อนหนักเหมือนกัน” ชื่อ “นายทนง พิทยะ” อดีตขุนคลังรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และรมว.พาณิชย์ รัฐบาลคุณทักษิณ
ทราบว่ามีความเคลื่อนไหวคึกคัก โดยเฉพาะระยะหลัง ตื่นตัวทางการเมืองมาก และมีแนวโน้มอาจเตรียมตัวรับหน้าที่สำคัญ”
9.ดร.เสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด
“อีกคนหนึ่ง ใครว่าอย่างไรไม่ทราบ แต่คนนี้ผมเห็นว่าเขาเวียนเข้า – ออกเวทีการเมือหลายรอบ ท่านผู้นี้เป็นนักวิชาการคนสำคัญ และเส้นทางการเมืองผ่านมาแล้วหลายรัฐบาล ท่านชื่อ “ดร.เสรี วงศ์มณฑา” จะมีความเห็นอย่างไร ก็ว่ากันไป แต่อย่าลืมคำนึงถึงหลักการว่า นี่เป็นการประกาศจากข้อมูลที่รวบรวม ทุกคนปรากฏชื่อยังไม่มีใครตกลงรับตำแหน่ง เราต้องตรงไปตรงมา
แต่เหตุที่เรามีความคิดว่าดร.เสรี น่าจะอยู่ในข่ายที่เป็นเสนาบดีเช่นเดียวกันเพราะว่า ผ่านเข้า – ออกทางการเมืองมากมาย เคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นคนที่ทำงานในรัฐบาลต่าง ๆ และโลดโผนพอสมควร ตอนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ดร.เสรี ก็ไปขับไล่คุณทักษิณอยู่กับ พธม. พอรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ ท่านก็เป็นที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาลขิงแก่ หลังจากนั้นสมัยรัฐบาลคุณสมัคร ก็เป็นที่ปรึกษารมวเกษตรฯ เมื่อถึงรัฐบาลคุณสมชาย ก็เป็นที่ปรึกษารมว.เกษตรฯอีกรอบ
ทีนี้พอไล่คุณยิ่งลักษณ์ ท่านก็มาไล่คุณยิ่งลักษณ์อีกบอกว่าไม่เอาระบอบทักษิณ แต่เที่ยวนี้ฟอร์มว่าเข้าหูเข้าตา และน่าจะเป็นภาษีสำคัญอย่างหนึ่งหรือไม่ ในการเดินหน้าไปสู่ฝ่ายบริหาร ในรัฐบาลของนายกฯเถื่อน คือโชว์ความสามารถในพลังเครือข่ายในการระดมพลังสนับสนุนเวทีชุมนุม ถ้าได้ข้อมูลมาไม่ผิด ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ที่ได้จากเสรี มอบให้สุเทพ ดังนั้นด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ ก็เป็นเรื่องที่เราหยิบยกมาอธิบายได้”
10.นต.ประสงค์ สุ่นศิริ
11.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
“เป็นกลุ่มคนที่น่าเป็นบทบาทที่ขับเคลื่อนในสภาปฏิรูป น่าจะคุมเกมกฎหมาย น่าจะคุมเกมกรรมาธิการ (กมธ.) สำคัญ น่าจะคุมเกมวงประชุม หรือคณะทำงานกำหนดทิศทางประเทศให้เป็นไปอย่างที่นายสุเทพต้องการ”
12.นายแก้วสรร อติโพธิ
“โดยเฉพาะนายแก้วสรร ต้องให้แกเป็นสักอย่าง เพราะเวลาพวกนี้ได้อำนาจรัฐ หรือฉีกอำนาจรัฐแล้ว ไม่ให้แกเป็นสักอย่าง กลัวแกจะคลั่งตาย เพราะแกต้องได้อะไรสักอย่าง พอตอนปี 2549 มีการรัฐประหารแกก็ได้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หลังจากนั้นสมัครเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เขาก็ไม่เอา พอแสดงวิสัยทัศน์บอกว่าไม่ได้เป็น กกต. เป็นเลขาฯก็เอา ต่อมาจะไปสมัครผู้ว่าฯ โดยเสนอตัวกับ ปชป. แต่โชคดีไม่รับ โดยปัจจุบันเรียกร้องให้ประกาศกฎอัยการศึก ปราบปรามคนเสื้อแดง”
13.นายทวี สุรฤทธิกุล
14.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์
15.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ
และ 16.นพ.ประเวศ วะสี
“คนเหล่านี้มาแน่ และจะมาในรูปที่ผมบอก แต่มีอีก 1 ชื่อสำคัญ ไม่ว่าจะปฏิเสธหรือไม่อยากมาอย่างไร ถ้านายสุเทพขึ้นมาได้ ก็ต้องพามา เขาชื่อ “นพ.ประเวศ วะสี”
นายสุเทพพูดถึงชื่อนี้หลายหน และมีอะไรก็อ้างท่านผู้นี้ บอกว่านี่เป็นคนดี คนสำคัญ เอามาช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง นพ.ประเวศ บอกว่าอายุมาก ไม่อยากมีบทบาท แต่ให้จับตาไว้ให้ดี”
ก่อนที่ “ณัฐวุฒิ” จะกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ทั้งหมดนี้ ที่เอามาอธิบายความ จะให้ผมฟันธงว่า มันจะต้องมีชื่อนี้แน่ ๆ ชื่อไหนไม่แน่ ผมฟันธงไม่ได้ แต่ผมบอกว่าทั้งประชาชน และสื่อไปทำการบ้านต่อ เพราะว่าแหล่งข้อมูลที่ผมได้มา มันกว้าง มันลึก และมันหลากหลาย”
“คนถามผม 2 – 3 รอบแล้ว ว่ามาเปิดชื่อมันจะทำให้เขาเสียหายหรือไม่ ผมบอกว่าไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย เพียงบอกว่าท่านน่ะมีคนไปทาบทาม เตรียมการให้รับหน้าที่ใหญ่ นอกกฎหมาย ดังนั้นผมไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย แต่ถ้าปล่อยให้บ้านเมืองไปถึงวันที่ว่า บ้านเมืองจะเสียหาย ประชาธิปไตยมันจะถูกทำลาย”
ทั้งหมดนี้คือโผ “ครม.คนกลาง” ฉบับนายณัฐวุฒิ ภายหลังก่อนหน้านี้เปิดเผยรายชื่อ “นายกฯคนกลาง” จนบุคคลในบรรดารายชื่อเหล่านั้นต้องออกโรงปฏิเสธมาแล้ว
แต่จะจริง - เท็จ และน่าเชื่อถือแค่ไหน ?
ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล และจับตาดูกันต่อไป